อินเทล คอร์ปอเรชั่น เผยความคืบหน้าล่าสุดในการพัฒนาโครงสร้างระบบสถาปัตยกรรม Intel®Scalable System Framework (Intel® SSF) ที่มุ่งนำเสนอเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง (High-Performance Computing; HPC) มาสู่ภาคอุตสาหกรรมที่หลากหลายและรูปแบบการทำงานใหม่ ๆ โดยในโอกาสนี้ อินเทลได้แนะนำระบบเครือข่าย Intel® Omni-Path Architecture (Intel® OPA), ซึ่งเป็นมาตรฐานเครือข่ายรูปแบบใหม่สำหรับระบบคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง อันจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำ HPC มารใช้งานได้แพร่หลายมากขึ้น
ในอดีต มีแต่เพียงองค์กรของรัฐและหน่วยงานทางวิชาการเท่านั้นที่จะนำศักยภาพของ HPC มาจัดการกับภารกิจที่ท้าทาย เช่นการหาลำดับคู่จีโนมหรือการวิจัยสภาพอากาศ แต่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีใน HPC ได้เข้าไปมีบทบาทในหลายอุตสาหกรรม เพื่อรับมือกับการทำงานรูปแบบใหม่ ๆ มากมาย เช่นการวิเคราะห์ข้อมูลในปริมาณมากระดับ “บิ๊ก ดาต้า” เป็นต้น ส่วนวงการสาธารณสุข การเงิน และอื่น ๆ ก็ต้องการสมรรถนะระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลที่ทั้งซับซ้อนและมีขนาดใหญ่ในแบบเรียลไทม์ นวัตกรรมล่าสุดของอินเทลไม่เพียงแต่เสริมสมรรถนะของ HPC เท่านั้น แต่ยังช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีใน HPC ได้ง่ายขึ้น จึงคาดการณ์ได้ว่าเทคโนโลยีนี้จะก้าวเข้าสู่กระแสหลักในโลกธุรกิจในอนาคตอันใกล้
“เรากำลังก้าวเข้าสู่โลกยุคใหม่ที่พลิกโฉมให้เทคโนโลยีซูเปอร์คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือใช้สอยทั่วไป แทนที่จะเป็นเครื่องมือพิเศษสำหรับปัญหาพิเศษบางอย่างเท่านั้น” ชาร์ลี วุยช์พาร์ด รองประธานและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจแพลตฟอร์ม HPC ของอินเทล กล่าว “นวัตกรรมใหม่ ๆ ของระบบ ในด้านการประมวลผล หน่วยความจำ ซอฟต์แวร์ และโครงสร้างเครือข่าย ช่วยให้เราสามารถออกแบบระบบ HPC ยุคใหม่ที่ปรับแต่งให้รองรับการใช้งานได้กว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งในHPC แบบเดิมไปจนถึงโลกในยุค บิ๊ก ดาต้า นี้ ซึ่งเราเชื่อว่าโครงสร้างสถาปัตยกรรม อินเทล SSF จะเป็นเสมือนประตูสู่เทคโนโลยีของ HPC แห่งอนาคตที่พร้อมมอบสมรรถนะระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ให้กับผู้คนทุกหนแห่ง”
อินเทล SSF เป็นโครงสร้างระบบสถาปัตยกรรมที่ล้ำยุค ออกแบบขึ้นเพื่อให้ระบบของ HPC มีความยืดหยุ่นสูง พร้อมรองรับการขยายตัว และมีความสมดุลมากขึ้น สถาปัตยกรรมใหม่นี้จะช่วยให้กระบวนการจัดซื้อ วางระบบ และบริหารจัดการมีความซับซ้อนลดน้อยลง เปิดโอกาสให้ธุรกิจในหลายภาคอุตสาหกรรมเข้าถึงเทคโนโลยี HPC ได้ง่ายขึ้น จึงสามารถรับมือกับเนื้องานใหม่ ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูล การแสดงภาพจากข้อมูล หรือระบบการเรียนรู้ของคอมพิวเตอร์
โครงสร้างระบบสถาปัตยกรรมนเทล SSF สามารถรับมือกับงานรูปแบบต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยนวัตกรรมใหม่ที่มุ่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละส่วนในระบบให้ตรงตามความต้องการของงานนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผล หน่วยความจำ หรือส่วนป้อนและรับข้อมูล นอกจากนี้ อินเทลSSF ยังเป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานที่เหมาะสมสำหรับการวางระบบ HPC ที่ต้องทำงานประสานกับคลาวด์
ไฮไลท์สำคัญ
- อินเทลจะเผยข้อมูลของโครงสร้างระบบสถาปัตยกรรม อินเทล SSF อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น งานออกแบบระบบตัวอย่าง และเครื่องมือทดสอบระบบ โดยรวมถึงรายการฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ตามมาตรฐาน SSF ด้วย
- Colfax*, Cray*, Dell*, Fujitsu Systems Europe*, HPE*, Inspur*, Lenovo*, Penguin Computing*, SGI*, Sugon*และSupermicro* มีแผนที่จะเปิดตัวระบบ HPC ที่รองรับ โครงสร้างระบบสถาปัตยกรรมอินเทล SSF ในช่วงต้นปีหน้า
- โซลูชั่นโครงสร้างเครือข่ายแบบครบวงจร อินเทล OPA ช่วยเพิ่มสมรรถนะแอพพลิเคชั่น HPC ได้อย่างคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นคลัสเตอร์ขนาดเล็กหรือใหญ่
- สวิทช์ 48 พอร์ทในเครือข่ายมาตรฐานอินเทล OPA รองรับจำนวนเซิร์ฟเวอร์มากกว่ามาตรฐาน อินฟินิแบนด์ EDR สูงสุดถึง 26% เมื่อใช้งบประมาณในการวางระบบเท่ากัน ทั้งยังลดการใช้พลังงานลงได้สูงสุดถึง 60%
- เทคโนโลยีเครือข่ายอินเทล OPA มีใช้งานแล้วในศูนย์ HPC ขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่นศูนย์ Texas Advanced Computing Center และศูนย์ Pittsburgh Supercomputer Center โดยColfax, Cray, Dell, Fujitsu Systems Europe, Hitachi*, Huawei*, HPE, Inspur, Lenovo, NEC*, SGI, Sugon, Supermicro และผู้จัดหาระบบรายอื่น ๆ ได้เริ่มเปิดตัวอุปกรณ์สวิทช์และแพลตฟอร์มเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะเดินหน้าป้อนผลิตภัณฑ์สู่ตลาดอย่างเต็มที่ในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า
- อินเทลเผยว่าได้มีการนำชิปประมวลผล Intel® Xeon Phi™ processors(หรือ อินเทล ซีออน ไฟ ซึ่งมีชื่อรหัสเดิมว่า Knights Landing) รุ่นทดลองไปใช้งานในระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์แล้วจำนวนหนึ่ง โดย Cray กำลังใช้ระบบที่ติดตั้งชิปรุ่นนี้เพื่อรองรับแอพพลิเคชั่นของลูกค้าในการเตรียมพร้อมก่อนติดตั้งระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Trinity ที่ศูนย์วิจัย ลอส อลามอส และ ระบบ Cori ที่ศูนย์คอมพิวเตอร์เพื่อการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์พลังงาน(NERSC) สหรัฐอเมริกา นอกจากนั้น Atos และ Penguin Computing ได้ติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีโปรเซสเซอร์รุ่นดังกล่าวไว้ที่สำนักงานคณะกรรมการพลังงานทดแทนและพลังงานนิวเคลียร์ (CEA) ประเทศฝรั่งเศส และศูนย์วิจัยแห่งชาติแซนเดียในสหรัฐฯ อีกด้วย อินเทลคาดว่าจะมีผู้จัดหาโซลูชั่นระบบคอมพิวเตอร์กว่า 50 รายที่เลือกไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ Intel Xeon Phi นี้ เมื่อถึงกำหนดเปิดตัวออกสู่ตลาด
- อินเทลเป็นหนึ่งใน 30 สมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งโครงการความร่วมมือ OpenHPCซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ HPC แบบโอเพนซอร์ส อันจะช่วยให้มีการนำเทคโนโลยี HPC ไปใช้ได้อย่างแพร่หลายมากขึ้น ทั้งนี้ ระบบซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สดังกล่าวในรูปแบบที่อินเทลให้การสนับสนุนจะปล่อยออกสู่ตลาดในปีหน้า
- อินเทลเดินหน้าขยายการสนับสนุนแก่ระบบที่รองรับ HPC ด้วยการเปิดศูนย์วิจัยเทคโนโลยีการประมวลผลแบบขนาน (Parallel Computing Centers)แห่งใหม่ถึง 5 ศูนย์ เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ Lustre*ทั้งยังจับมือกับสถาบัน Alan Turing Instituteภายใต้ข้อตกลงระยะยาวเพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีHPC และวิทยาศาสตร์เชิงข้อมูลในสหราชอาณาจักร ขณะที่ความร่วมมือของอินเทลกับศูนย์ Barcelona Supercomputing Center ในสเปนก็จะช่วยรองรับงานวิจัยและพัฒนาสถาปัตยกรรมอินเทล SSF ให้มีประสิทธิภาพในระดับ
เอ็กซาฟล็อป (คิดคำนวณได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านครั้งต่อวินาที) - อินเทลได้เปิดตัวโครงการที่มุ่งส่งเสริมโอกาสในการทำงานด้าน HPC ของสุภาพสตรีและชนกลุ่มน้อยผู้มีความสามารถ ด้วยการมอบทุนการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไปในสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และข้อมูล พร้อมด้วยโอกาสในการฝึกงาน อันจะช่วยให้อินเทลมีทรัพยากรมนุษย์ในแผนก HPC ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น