โนเกียได้เผยในงานโมบาย เวิล์ด คองเกรส 2016 ว่าเทคโนโลยี IoT ของโนเกียที่มีความสามารถแบบครบวงจร* ให้การสนับสนุนผู้ให้บริการและผู้ประกอบการในการจัดการกับการใช้งานประเภทต่างๆ รวมทั้งรูปแบบทางธุรกิจที่มีอยู่อย่างมากมายในตลาด IoT ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วนี้ได้อย่างไร โนเกียผสานรวมโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่ายของโนเกียเข้ากับการเชื่อมต่อ IoT อย่างปลอดภัย ให้บริการคลาวด์ รวมถึงแพลทฟอร์ม IoT ซึ่งประกอบด้วยแอพพลิเคชั่นและการวิเคราะห์ต่างๆ บริการด้าน IoT ของโนเกียสมบูรณ์แบบจากความเชี่ยวชาญในการออกแบบ การบูรณาการ และการให้บริการโซลูชั่น IoT ที่สร้างสรรค์มาอย่างเฉพาะเจาะจงตามความต้องการใช้งาน
โนเกียสาธิตให้เห็นว่า IoT จะเปิดโอกาสต่างๆ ในการเชื่อมต่อแบบโมบาย (connected mobility), เมืองอัจฉริยะ, ความปลอดภัยสาธารณะและการดูแลสุขภาพ, การเชื่อมต่อกันของสิ่งต่างๆ ภายในบ้าน, และในด้านอื่นๆ อีกมาก พอร์ตโฟลิโอที่ครบวงจรของโนเกียช่วยผู้ให้บริการลดความยุ่งยากในการบริหารจัดการการเชื่อมต่อ IoT และการพัฒนาแอพพลิเคชั่น IoT
คอมมูนิตี้ IoT ของโนเกียได้รับการสร้างสรรค์มาเพื่อให้องค์กรต่างๆ จากอุตสาหกรรมที่หลากหลายได้มาทำงานร่วมกันด้วยรูปแบบธุรกิจที่ใช้งานกับ IoT คอมมูนิตี้มีจุดมุ่งหมายในการตรวจสอบรูปแบบเหล่านี้ และขยายระบบนิเวศของพันธมิตร IoT ของโนเกียในด้านการสื่อสารทางวิทยุและการรับรองอุปกรณ์ ไปสู่ผู้จำหน่ายอุปกรณ์และแอพพลิเคชั่นชั้นแนวหน้า ความร่วมมือนี้จะช่วยให้การให้บริการโซลูชั่น IoT ทำได้รวดเร็วขึ้นและเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ
โนเกียรองรับเทคโนโลยีการสื่อสารทางวิทยุ 3GPP IoT** เพื่อตอบสนองความต้องการในการเชื่อมต่อที่หลากหลายของแอพพลิเคชั่นที่ต่างกัน เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อได้ในราคาที่ต่ำ ช่วยให้สัญญาณครอบคลุมพื้นที่ภายในอาคารและในที่ห่างไกลได้มากขึ้น และเพิ่มอายุการใช้งานของแบตเตอร์รี่อุปกรณ์ IoT ได้อย่างมากเพื่อรองรับการเซ็นเซอร์และการตรวจวัดจากระยะไกล
Click to Tweet: Nokia enables new #IoT revenue opportunities for operators & enterprises #MWC16 https://nokia.ly/1RvKJ65 #MWC16IoT solution at a glance:
- กลุ่มผลิตภัณฑ์ IoT ของโนเกียมีความยืดหยุ่น ปลอดภัย และขยายขีดความสามารถให้กับแพลทฟอร์มที่มีผู้ใช้งานหลายคนและไม่ขึ้นกับอุปกรณ์ปลางทาง (device-agnostic) ซึ่งช่วยให้ผู้ให้บริการและลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการสามารถพัฒนา ส่งสินค้าและบริการใหม่ๆ ออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังรองรับแอพพลิเคชั่นและรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ
- ฟีเจอร์การบริหารจัดการการเชื่อมต่อ (Connectivity Management) ช่วยผู้ให้บริการบริหารจัดการการปริมาณการเชื่อมต่อจากเซ็นเซอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเชื่อมต่อผ่านซิม
- แพลทฟอร์มแอพพลิเคชั่นต่างๆ (Application Platforms) ช่วยผู้ให้บริการสร้างแอพพลิเคชั่น IoT ได้ตามต้องการ ให้บริการได้รวดเร็วขึ้น และคุ้มค่าใช้จ่าย
- ความสามารถในการจัดการอุปกรณ์ได้รับการออกแบบมาเพื่อความรวดเร็ว, การใช้งานของอุปกรณ์ เซ็นเซอร์ การตรวจวัด หรือโมดูล จากระยะไกล นอกจากนี้โนเกียยังรองรับมาตรฐานต่างๆ ในการบริหารจัดการอุปกรณ์ IoT*** ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
- การบริการ IoT ของโนเกียนั้นมาพร้อมกับความเชี่ยวชาญในการออกแบบ การบูรณาการ และแพลทฟอร์มบริหารจัดการการเชื่อมต่อที่ปรับแต่งได้ตามต้องการ และแอพพลิเคชั่นรูปแบบต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของการใช้งานที่แตกต่างกันในแต่ละอุตสาหกรรม
แคททริน บูแวค ประธานฝ่ายกลยุทธ์ของโนเกีย กล่าวว่า “โนเกีย ร่วมกับระบบนิเวศจากพันธมิตรที่เชื่อถือได้ กำลังเพิ่มศักยภาพด้านเทคโนโลยีให้กับคนเราในการควบคุมการเชื่อมต่อแบบโมบายกับรถยนต์และโดรน, เมืองที่เชื่อมต่อกับที่จอดรถอัจฉริยะ, บ้านที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเตอรเน็ตประจำหมู่บ้าน, บริการด้านสุขภาพที่เชื่อมต่อกัน, ความจริงเสมือน (virtual reality) และความจริงส่วนขยาย (augmented reality หรือเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มข้อมูลให้กับสิ่งที่มีอยู่จริง), ความปลอดภัยสาธารณะ และอื่นๆ อีกมาก ชุดโซลูชั่น IoT ที่ครบวงจรของโนเกีย ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นเฉพาะทางต่างๆ, แพลทฟอร์มด้านคลาวด์, บริการด้านการเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆ ล้วนเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมที่กำลังก้าวสู่การใช้งานดิจิทัลทุกอุตสาหกรรม เราช่วยทั้งผู้ให้บริการและลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการของเราให้สามารถเก็บเกี่ยวมูลค่าจากการใช้งานเหล่านั้น นอกจากนี้ โนเกียกำลังสร้างสรรค์รูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ที่ช่วยลูกค้าของเราเตรียมพร้อมรับกับการมีอุปกรณ์ เซ็นเซอร์ และการเชื่อมต่อจำนวนมหาศาล รวมทั้งช่วยให้ลูกค้าได้ประโยชน์จากมูลค่าทางธุรกิจที่จะได้รับจากอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์”
คุณทราบหรือไม่ว่า
ปริมาณของสิ่งที่อาจเกิดขึ้นและรูปแบบการใช้งานต่างๆ ที่มีอย่างมากมายมหาศาลนั้น เป็นสิ่งที่สร้างโอกาสทางการตลาดอย่างมากในระบบนิเวศอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าถึง 484 พันล้านยูโรในปี 2568 ทั้งนี้ แอพพลิเคชั่น, การวิเคราะห์และการให้บริการกับผู้ใช้ปลายทางมีสัดส่วน 90% ของมูลค่าทั้งหมด (ที่มา: Machina Research, 2015)
แหล่งข้อมูล