วิธีที่ 2 ดับเบิ้ลอินเทอร์เน็ตแบบ Bridge Mode
ก่อนจะไปเรียนวิธีทำมารู้จักกับเทคนิคของบริดจ์คอนเน็กชั่นตัวนี้กันก่อนซักนิดนึง โดยปกติแล้วอย่างที่ทราบกันดีระบบปฏิบัติการมักจะเลือกช่องทางในการเชื่อมต่อทางใดทางหนึ่งในการเชื่อมเข้าสู่อินเทอร์เน็ตเสมอ ซึ่งปัญหาก็คือถ้ามีช่องทางอินเทอร์เน็ตเข้ามาหลายๆ ช่องทาง เครื่องก็จำเป็นที่จะต้องเลือกช่องทางใดช่องทางหนึ่งในการเชื่อมต่อให้เรา แต่ปัญหาก็คือทั้งๆ ที่มีช่องทางอินเทอร์เน็ตภายนอกอยู่สองสาย สามสาย ทำไมถึงเชื่อมต่อได้แค่ช่องทางเดียวทั้งๆ ที่มันน่าจะเข้าออกได้ในทุกๆ ช่องทางพร้อมๆ กัน จริงไหม ก็เลยต้องมีการทำบริดจ์คอนเน็กชั่น ตัวขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ในการเชื่อมโยงเครือข่ายหลายๆ เครือข่ายเข้าไว้ด้วยกัน เหมือนสะพานที่ข้ามไปหากันได้อะไรประมาณนั้น
โดยจุดประสงค์หลักของการทำบริดจ์คอนเน็กชั่นก็คือ การเชื่อมโยงเครือข่ายคนละวง (หรือคนละซับเน็ตเวิร์ก เช่น มีแลน 2 วง วงหนึ่งใช้ไอพี 192.168.1.x ขณะที่อีกวงหนึ่งใช้ไอพี 192.168.0.x ซึ่งถ้าไม่ทำบริดจ์คอนเน็กชั่น แลนทั้ง 2 วงนี้ จะไม่สามารถแชร์ไฟล์ใช้ร่วมกันได้ เป็นต้น) เพื่อใช้งานร่วมกันได้ แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าวินโดวส์เซเว่นนั้นมีความสามารถในการเชื่อมโยงการ์ดหลายๆ ใบในเครื่องเดียวกัน นั่นจึงทำให้การทำบริดจ์คอนเน็กชั่นในวินโดวส์เซเว่น สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดับเบิ้ลความเร็วอินเทอร์เน็ตได้ด้วย
สร้าง Bridge Connections
เรียนทฤษฎีไปแล้วคราวนี้มาในภาคปฏิบัติกันบ้าง โดยปกติแล้วเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่จะทำบริดจ์คอนเน็กชั่นได้ จะต้องเป็นเครื่องสามารถรับสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากภายนอกได้มากกว่า 1 ช่องทาง ไม่ว่าจะเชื่อมต่อผ่านสายโทรศัพท์ (ยังมีใครใช้เน็ตแบบ Dial-up อยู่มั่งเปล่าเนี่ย) ผ่านสาย LAN หรือ WIFI แบบไหนก็ได้ หรือจะทุกแบบพร้อมกันเลยก็ได้ ไม่มีปัญหาเพราะมันเชื่อมกันได้อยู่แล้ว แต่ที่สำคัญก็คือ ทุกสายที่เข้ามานั้น จะต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแยกกันนะ ไม่ใช่ว่าต่อมาหลายๆ สาย สุดท้ายมาจากโมเด็มตัวเดียวกัน อันนี้ทำได้แต่ไม่เกิดประโยชน์ ความเร็วที่ได้ก็เท่าเดิมอยู่ดี เอาเป็นว่าขั้นตอนนี้ก็เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก็แล้วกัน มีเน็ตกี่สายก็ต่อเข้ามาที่เครื่องเราได้เลย จะผ่าน WIFI หรือ LAN กี่ช่องก็แล้วแต่ตามสะดวก
เตรียมความพร้อมของอุปกรณ์กันก่อน
สำหรับวิธีการต่อไปนี้ จะทำได้ก็ต้องเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ที่มี โดยการเซ็ตค่าต่างๆ ให้อยู่ในเงื่อนไขต่อไปนี้
เราเตอร์ทั้ง 2 ตัวของคุณ ต้องเซ็ตค่าไอพีของตัวเองให้อยู่ในคลาสเดียวกัน แต่ละคนหมายเลข เช่น จากตัวอย่างนี้ ผมใช้ ADSL โมเด็มเราเตอร์ และ 3G โมเด็มเราเตอร์ โดยตัวแรกผมกำหนดค่าไอพีเป็น 192.168.1.254 ขณะที่ตัวหลังผมกำหนดเป็น 192.168.1.1 ทั้ง 2 ตัวควรเปิด DHCP server ไว้ด้วย
จากการกำหนดค่าไอพีด้านบน ทำให้เรามี 2 เกตเวย์ แต่คนละวงแลน นั่นคือ 192.168.1.1 และ 192.168.1.254 นั่นเอง ซึ่งเดี๋ยวเราจะใช้การสร้างบริดจ์คอนเน็กชั่นเพื่อเชื่อม 2 วงนี้เข้าหากัน
การกำหนดค่าไอพีให้เราเตอร์ แต่ละยี่ห้อ แต่ละแบบจะคล้ายๆ กัน ผมขอยกตัวอย่างการปรับแต่งค่าไอพีของ 3G โมเด็มเราเตอร์ที่ผมใช้อยู่ก็แล้วกันนะครับ
เมื่อเตรียมความพร้อมเรียบร้อย ก็มาเริ่มลงมือทำกันเลยครับ
ทดสอบ
เช่นเคยเมื่อทำเสร็จแล้วก็ลองดาวน์โหลดไฟล์ดู สังเกต Network Meter ว่าวิ่งครบทั้ง 2 การ์ดหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่มีปัญหาอะไร การรับส่งข้อมูลจะเร็วขึ้นครับ
สำหรับวิธีการนี้เปรียบเทียบกับวิธีแรก เท่าที่ผมลองสังเกตหลายๆ ครั้ง พบว่าวิธีนี้ให้ความเร็วได้ดีกว่า อย่างไรก็ดี วิธีแรกนั้นทำง่ายกว่า และเหมาะกับท่านที่ไม่สะดวกในการไปปรับค่าไอพีของเราเตอร์ (เช่น ใช้บริการ WiFi ของที่อื่น) ก็หวังว่า เทคนิคต่างๆ ที่ผมนำเสนอในวันนี้ จะช่วยให้แฟนๆ ผู้อ่าน PCToday ทุกท่าน ใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างมีความสุขมากขึ้นนะครับ