รายงานข่าวบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ พีทีอี ลิมิเต็ด หรือ HDS เปิดเผยว่า Hitachi Content Platform หรือ HCP เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับคะแนนสูงสุดสำหรับใช้ในการแบ็คอัพข้อมูล จากรายงาน Critical Capabilities for Object Storage ของการ์ทเนอร์ประจำปี 2016 กล่าวว่า ความต้องการระบบจัดเก็บข้อมูลแบบ Object Storage นั้น เป็นแนวโน้มการลงทุนใหม่ทางด้านโปรเจ็คสารสนเทศที่ต่างจากเดิม และเป็นความพยายามที่จะลดค่าใช้จ่ายในงานหลักขององค์กร ซึ่งบุคลากรฝ่ายไอทีด้านการบริหารและวางโครงสร้างพื้นฐานองค์กร เห็นตรงกันว่า Object Storage นั้นให้ความยืดหยุ่นสำหรับการใช้งานและสามารถลดต้นทุนในการเป็นเจ้าของ หรือ Total Cost of Ownership (TCO) ได้ดี ในขณะเดียวกัน ผู้พัฒนาระบบขององค์กรได้เล็งเห็นถึงความสามารถในการปรับปรุงกระบวนการผลิต ความสะดวกในการพัฒนาโปรแกรม และการใช้งานระบบคลาวด์แบบพกพา
ในรายงานดังกล่าว นักวิเคราะห์จากการ์ทเนอร์ ได้ประเมินผลิตภัณฑ์จำนวน12 รายการในกลุ่มของ Object Storage โดยพิจารณาจากความสามารถหลักที่สำคัญๆ 7 ประการ ได้แก่ ประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูล, ความสามารถในการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับอุปกรณ์อื่น, ความสามารถในการจัดการข้อมูล, ประสิทธิภาพในการทำงาน, ความต่อเนื่องในการทำงาน, ความปลอดภัย และการทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่น รวมไปถึงยังได้ประเมินโดยดูจากการใช้งานเพิ่มเติมในอีก 5 กรณี ได้แก่ การวิเคราะห์ข้อมูล, การเก็บข้อมูล, การสำรองข้อมูล, การจัดเก็บบนคลาวด์ และการกระจายคอนเทนต์
ซึ่งรายละเอียดที่นักวิเคราะห์จากการ์ทเนอร์ มีดังต่อไปนี้
- Hitachi Content Platform (HCP)เป็นแพลตฟอร์มและซอฟแวร์ที่เป็นหนึ่งในด้านประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งความสามารถที่ติดมากับHCPนั้น จะช่วยลดต้นทุนโดยรวมในการเป็นเจ้าของ เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งประสิทธิภาพในการจัดเก็บนั้นเรียกได้ว่ามีสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อองค์กรมีการพัฒนาจนเกินจะใช้วิธีการจัดเก็บแบบดั้งเดิมได้ เช่นในกรณี การจัดเก็บข้อมูลในระยะยาว(archiving) การเก็บข้อมูลในรูปแบบคลาวด์ รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้า ซึ่งจะมีขนาดทั่วไปในระดับ petabyte หรือExabyte
- สิ่งที่แสดงถึงความยอดเยี่ยมของ HCP อีกจุดหนึ่งคือ การเป็นระบบเปิด ที่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกับอุปกรณ์อื่นได้หลากหลาย รองรับการทำงานทั้งแบบดั้งเดิมและแบบใหม่ได้อย่างทันท่วงที มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถเลือกใช้บริการตามความต้องการได้ นอกจากนี้ HCP ยังเป็นหนึ่งในด้านเทคโนโลยี ไฮบริดคลาวด์ สนับสนุนการทำงานร่วมกับผู้บริการคลาวด์อย่าง Amazon, Google, Microsoft®, Verizon, Hitachi Cloud หรือผู้ให้บริการแบบ S3-based ทั้งหลาย ซึ่งข้อนี้ทำให้องค์กรสามารถควบคุมมาตรฐาน การเข้าถึง และ ความปลอดภัยต่างๆ ได้จากองค์กรตนเอง
- HCP จัดการกับปัญหาในการแบ็คอัพข้อมูลที่หลายองค์กรพบ เนื่องจากตอบโจทย์ความต้องการในการแบ็คอัพข้อมูลลงdisk ที่เพิ่มขึ้นโดยใช้ต้นทุนที่ต่ำลง HCP ทำให้องค์กรมีแผนการปกป้องข้อมูลด้วยการตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อมูล และสามารถซ่อมแซมในจุดที่อาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้ ในความเป็นจริงแล้วหลายๆองค์กรสามารถยกเลิกการแบ็คอัพข้อมูลแล้วเปลี่ยนมาจัดเก็บ HCP ที่มีทั้งความยืดหยุ่นในการใช้งานและมีการปกป้องความเสียหายของข้อมูล
HCP จึงกลายเป็นแพลตฟอร์มที่หลายๆองค์กรเลือกใช้ ด้วยระบบการรักษาความปลอดภัยอย่างดีที่สุด ยืดหยุ่นที่สุด คุ้มราคาที่สุด และ สามารถปรับเพิ่มลดขนาดได้ตามต้องการที่สุด ทำให้องค์กรจำนวนมาก ต่างมอบความไว้วางใจให้ HCP ดูแลรักษาข้อมูลของพวกเขา เนื่องจากความมั่นคง ชื่อเสียงที่มีมาอย่างยาวนาน และนวัตกรรมชั้นนำ เป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้ากว่า 1,500 รายเลือกที่จะใช้ HCP อาทิ 4 ใน 5 ของธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก, มากกว่า 40 % ของ 20 บริษัทแรกที่ได้รับการจัดอันดับ “Global Top 100”, 4 ใน 5 ของบริษัทประกันที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา, 2 ใน 5 ของบริษัทผู้ผลิตสื่อหลักชั้นนำ และ 2 ใน 3 ของบริษัทเคเบิลเน็ตเวอร์คหลัก อย่าง Starz เป็นต้น
มร. Peter Sjoberg ผู้อำนวยการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศด้านคลาวด์และโมบิลิตี้ ของ ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ กล่าวว่า“ฮิตาชิ ฯ เชื่อว่า การได้รับการยกย่องให้เป็นที่หนึ่งในด้านการสำรองข้อมูลโดยการ์ทเนอร์นั้น เป็นข้อพิสูจน์อย่างดีว่า HCP มีความคุ้มค่า และแก้ปัญหาด้านการเก็บรักษาข้อมูลจำนวนมากได้เป็นอย่างดี ซึ่งอันที่จริงแล้ว บริษัทประกันระดับโลกแห่งหนึ่งก็ใช้ HCP เพื่อสร้างแอปพลิเคชั่นลดการทุจริตผ่านระบบคลาวด์แบบ S3-based ที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า ข้อมูลจะได้รับการเก็บรักษา และเอกสารหรือสัญญาต่าง ๆ สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งเดิมผู้พัฒนาตั้งใจจะใช้ผ่านระบบคลาวด์สาธารณะ
“แต่หลังจากใช้เวลา 30 นาทีในการทดสอบโซลูชัน (Proof of Concept – POC) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความง่ายในการใช้งานของแอปพลิเคชั่นทำงานร่วมกับ HCP ผ่าน S3 protocal ทำให้บริษัทได้พบว่า HCP นั้นให้ TCO ที่ต่ำกว่าระบบคลาวด์ สาธารณะถึง 20% ยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้าอีกรายซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตของเล่นชั้นนำได้ระบุว่า ความสามารถของ HCPในการค้นหา การตรวจสอบ และการนำข้อมูลกลับคืนมานั้น สร้างผลตอบแทนการลงทุน (ROI) มากถึง 270%”
นอกจากนี้ พอร์ทฟอลิโอของกลุ่มโซลูชัน HCP ยังได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะรางวัล TMC 2015 Cloud Computing award ในปี 2015 ซึ่งโซลูชันแต่ละตัวในกลุ่มนี้ต่างก็ได้รับรางวัลอันมีเกียรติในกลุ่มธุรกิจเช่นเดียวกัน โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ HCP Anywhere ได้รับเลือกจาก TechTarget 2015 ให้เป็นผู้เข้ารอบสุดท้ายในการประกวดผลิตภัณฑ์แห่งปีในกลุ่มซอฟต์แวร์ระบบการจัดเก็บข้อมูลสำหรับองค์กร ยิ่งไปกว่านั้นHCP Anywhere ยังได้รับรางวัล TMC 2015 Cloud Computing Excellence Award และ ได้รับรางวัล Cloud Award สำหรับกลุ่มโซลูชันโมบิลิตี้ที่ดีทุกสุดในปี 2014 และ 2015 อีกด้วย
ดร. มารุต มณีสถิตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย และพม่า บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ พีทีอี ลิมิเต็ด หรือHDS กล่าวทิ้งท้ายว่า “ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ภูมิใจและมีความมุ่งมั่นในการนำเสนอโซลูชันบริหารจัดการข้อมูล ไฟล์ และเนื้อหา ให้ตอบโจทย์การทำงานเคลื่อนที่ ที่ให้ความปลอดภัยสำหรับองค์กร นอกจากนี้ฮิตาชิ ฯ ให้ความสำคัญกับการเป็นผู้นำการพัฒนาด้านคลาวด์ คอมพิวติ้ง และรายงานจากการ์ทเนอร์แสดงให้เห็นว่า Hitachi Content Platform ประสบความสำเร็จในการนำเสนอนวัตกรรมและความเป็นเลิศสู่ตลาด ให้ลูกค้าได้เทคโนโลยีล่าสุดอย่างเต็มประสิทธิภาพ”
หมายแหตุจากการ์ทเนอร์
การ์เนอร์ไม่รับรองผู้ขาย สินค้า หรือบริการใดๆ ที่ปรากฎในรายงานการวิจัยชิ้นนี้ และไม่ได้แนะนำให้ผู้ใช้เทคโนโลยีเลือกเฉพาะผู้ค้าที่ได้รับการจัดอันดับให้คะแนนสูงสุดเท่านั้น การ์ทเนอร์ตีพิมพ์งานวิจัยที่เกิดจากรวบรวมความคิดเห็นขององค์กรต่างๆ จึงไม่ควรตีความว่าเป็นความจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ การ์ทเนอร์จึงปฏิเสธการรับประกันทั้งหมดที่แสดงอยู่ในรายงานวิจัยนี้ รวมถึงการรับประกันการซื้อขายใด ๆ ที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะที่แตกต่างกันออกไป
เกี่ยวกับบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์
บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เป็นบริษัทในเครือของกลุ่มบริษัท ฮิตาชิ จำกัด โดยเป็นบริษัทผู้นำเทคโนโลยีด้านการบริหารจัดการข้อมูล ที่จะช่วยขับเคลื่อนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ และยังสร้างนวัตกรรมเพื่อสังคม โดยมุ่งหวังให้เกิดสังคมที่ปลอดภัย, สร้างสุขภาพที่ดี และมีความทันสมัย ผ่านการคิดค้นนวัตกรรมและสร้างมูลค่าที่แท้จริงจากฐานข้อมูลสารสนเทศขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า Internet of Things ด้วยโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีแบบครบวงจร ได้แก่ สตอเรจ, เซิร์ฟเวอร์, ซอฟต์แวร์, การวิเคราะห์, การบริหารจัดการเนื้อหา,และคลาวด์คอมพิวติ้ง พร้อมการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขายอย่างครบถ้วน ด้วยความเชี่ยวชาญของ ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ที่บูรณาการทั้งเทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีปฏิบัติการที่ดีที่สุด จากบริษัทในเครือฮิตาชิฯ เพื่อส่งมอบนวัตกรรมข้อมูลเชิงลึกให้กับธุรกิจ และสังคม ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลง และการเติบโตในอนาคตได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.HDS.com
เกี่ยวกับบริษัท ฮิตาชิ จำกัด
บริษัท ฮิตาชิ จำกัด (ชื่อในตลาดหุ้นโตเกียว: 6501) มีสำนักงานใหญ่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ส่งมอบนวัตกรรมที่ตอบความท้าทายของสังคม ด้วยทีมงานที่มีความสามารถและประสบการณ์ซึ่งเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก โดยในปีงบประมาณ 2557 (จนถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2557) บริษัทฯ มียอดขายรวม 9,761 พันล้านเยน (81.3 พันล้านดอลลาร์) ทั้งนี้ บริษัทฮิตาชิให้ความสำคัญกับธุรกิจที่เน้นด้านนวัตกรรมเพื่อสังคมมากกว่าเดิม ซึ่งรวมถึงระบบโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสารสนเทศและโทรคมนาคม ระบบไฟฟ้า ระบบเครื่องจักรก่อสร้าง วัสดุและอุปกรณ์ที่ครอบคลุมการทำงานระดับสูง ระบบยานยนต์ ธุรกิจเพื่อดูแลสุขภาพ และอื่นๆ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทฮิตาชิ สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ https://www.hitachi.com