แพททริส เพร์ช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายขายและสนับสนุนการขายทั่วโลก แห่งฟอร์ติเน็ต (Fortinet® NASDAQ: FTNT) ผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงได้เปิดเผยถึงผลการสำรวจด้านความปลอดภัยองค์กรทั่วโลก “2017 Fortinet Global Enterprise Security Survey” ว่าถึงแม้ว่ามีภัยคุกคามเกิดขึ้นมากในระยะที่ผ่านมานี้ผู้บริหารด้านไอทีในองค์กรที่มีพนักงานมากกว่า 250
คนทั่วโลกยังเห็นว่าคณะกรรมการบริษัทขององค์กรตนยังไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์เป็นเรื่องหลักแต่เชื่อว่าการปรับองค์กรสู่ดิจิตอลทรานสฟอร์เมชั่นด้วยก้าวไปสู่คลาวด์จะทำให้ความปลอดภัยเครือข่ายเป็นเรื่องที่สำคัญมากขึ้น
สรุปผลการสำรวจด้านความปลอดภัยองค์กรทั่วโลก “2017 Fortinet Global Enterprise Security
Survey” ในขณะที่ท่านอ่านรายงานนี้อยู่ เราทราบกันดีว่ามีภัยคุกคามเกิดขึ้นมากมายทั่วโลก
โดยล่าสุดระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมปีนี้องค์กรธุรกิจด้านเครดิตในประเทศสหรัฐอเมริกาโดนแฮกข้อมูลของชาวอเมริกันไปมากกว่า 143 ล้านคนและยังเกิดภัยมากมายอย่างต่อเนื่องซึ่งในการป้องกันภัยไม่ให้เกิดกับองค์กรของตนเองและป้องกันข้อมูลสำคัญของลูกค้านั้นองค์กรจำเป็นจะต้องเริ่มตั้งคำถามเพื่อตรวจสอบถึงทัศนคติของคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด)ขององค์กรในด้านความปลอดภัยและการจัดสรรงบลงทุนในระบบการป้องกันภัยคุกคามจึงเป็นที่มาของการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารที่มีอำนาจตัดสินใจด้านไอทีในองค์กรทั่วโลกในครั้งนี้และจากผลการสำรวจในเชิงดังกล่าว พบว่าผู้บริหารด้านไอทีจำนวน 48% เชื่อว่าคณะกรรมการบริษัทขององค์กรยังไม่ได้พิจารณาเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์และไม่ได้มีผลกระทบอย่างไรในด้านงบประมาณลงทุนในปัจจุบันแต่การสำรวจพบว่าผู้บริหารด้านไอทีในองค์กรจำนวน 61% รับว่าได้ใช้งบประมาณมากกว่า 10%ของงบด้านไอทีลงทุนไปที่ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนลงทุนที่ค่อนข้างสูงทั้งนี้ 71% ของผู้ตอบแบบสอบถามยอมรับว่า ได้ใช้งบประมาณด้านไอทีสูงขึ้นกว่าปีที่แล้วและเชื่อว่าความปลอดภัยไซเบอร์จะมีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจาก 77% ตอบว่าคณะกรรมการบริษัทกำลังเริ่มให้ความสนใจในความปลอดภัยไอทีเป็นเรื่องที่สำคัญมากขึ้นปัจจัยที่ทำให้ความปลอดภัยไซเบอร์กลายเป็นเรื่องสำคัญมากขึ้น มีดังนี้
• จำนวนภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นทั่วโลก: มีองค์กร 85% ที่ตอบแบบสอบถามนี้ ตอบว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา ตนได้ประสบปัญหาการโจมตีมากมาย โดยองค์กรจำนวน 47%พบภัยมัลแวร์และแรนซัมแวร์มากที่สุด ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 49%ตอบว่ามีการให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยด้านไอทีเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลมาการโจมตีไซเบอร์ทางอินเทอร์เน็ตที่เกิดขึ้นมากมายทั่วโลก เช่น WannaCry จึงทำให้คณะกรรมการมีความสนใจในเรื่องการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น
• แรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลที่มีมากขึ้น: 34% ของผู้ตอบแบบสอบถามรายงานรับว่าการเพิ่มจำนวนของกฎระเบียบและค่าปรับจากหน่วยงานกำกับดูแลทำให้คณะกรรมการเริ่มรับรู้และสนใจในเรื่องภัยไซเบอร์มากขึ้นเช่น การตั้งจัดกฏและค่าปรับของจีดีพีอาร์ (General Data Protection Regulation)ในกลุ่มอียูที่เป็นเริ่มใช้เป็นเกณฑ์ในการปฏิบัติกับข้อมูลในยุโรป ตั้งแต่ปีคศ. 2018 เป็นต้น ผู้ตอบแบบสอบถามให้ความเห็นว่าคณะกรรมการบริษัทมักจะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหลังที่ได้เกิดเหตุการณ์ภัยโจมตีแล้วมากกว่าช่วงการป้องกันและจะลงมือจัดการก็ต่อเมื่อเกิดความเสียหายจำนวนมาก ทั้งนี้ มีจำนวน 77%ต้องการจะตรวจสอบวิธีการปฏิบัติงานเพื่อให้ทราบว่าเกิดภัยอะไรขึ้น และอีกจำนวน 67% ต้องการจะพิจารณาและเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัยไอทีให้มากขึ้นดังนั้น 77% ของผู้บริหารด้านไอทีแจ้งว่าคณะกรรมการบริษัทกำลังจะลงมือจัดการความปลอดภัยไอทีมากขึ้น จึงมีความมั่นใจมากขึ้นว่า
ความปลอดภัยไอทีจะมีความสำคัญในสายตาของผู้บริหารระดับสูงขององค์กรมากขึ้น
• การเปลี่ยนไปใช้ระบบคลาวด์เป็นตัวเร่งให้ความปลอดภัยมีความสำคัญมากขึ้น:เนื่องจากองค์กรต่างๆ ต้องการย้ายแอปพลิเคชั่นหลักๆ และข้อมูลสำคัญๆ ไปสู่ระบบคลาวด์อันเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ซึ่ง 77%ของผู้ตอบแบบสอบถามยืนยันด้วยว่าการรักษาความปลอดภัยบนระบบคลาวด์และการลงทุนด้านควาปลอดภัยเพื่อสนับสนุนโครงการนี้กำลังเป็นหนึ่งในวาระสำคัญสำหรับการประชุมของคณะกรรมการจึงสอดคล้องกับจำนวน 74%ของผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านความปลอดภัยด้านไอทีตอบว่าเชื่อเป็นอย่างมากว่าการรักษาความปลอดภัยในระบบคลาวด์กำลังเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต(จากในปัจจุบันที่มีเพียง 37%รับว่ายังมีการรักษาความปลอดภัยในระบบคลาวด์ไม่เพียงพอในการจัดสรรทรัพยากรต่างๆ) นอกจากนี้พบข้อมูลว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจ (50%) กำลังวางแผนลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยในคลาวด์ใน 12 เดือนข้างหน้านี้
จึงเป็นที่ชัดเจนว่า ในขณะนี้ระดับคณะกรรมการบริหารขององค์กรทั่วโลกให้ความสนใจเรื่องคลาวด์ถึงเวลาแล้วที่ผู้บริหารไอทีในทุกองค์กรต้องแน่ใจว่าท่านมีแผนการปรับกลยุทธ์ด้านการรักษาความปลอดภัยเครือข่ายไว้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
วิธีการสอบถาม
บริษัทวิจัยตลาดอิสระ Loudhouse เป็นผู้ดำเนินการสำรวจการรักษาความปลอดภัยองค์กรระดับองค์กรของฟอร์ติเน็ตทั่วโลกในปี 2560เพื่อตรวจสอบถามถึงทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงต่อความปลอดภัยในธุรกิจในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมปี 2560 ในกลุ่มผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอทีที่มีความรับผิดชอบต่อการรักษาความปลอดภัยด้านไอทีโดยได้รับแบบสำรวจคืนจากผู้ตอบที่ไม่ระบุชื่อเป็นจำนวน 1,801 รายใน 16 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯแคนาดา ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เยอรมนี สเปน อิตาลี ประเทศตะวันออกกลาง แอฟริกาใต้ โปแลนด์เกาหลี ออสเตรเลีย สิงคโปร์ อินเดียฮ่องกง และอินโดนีเซีย ทั้งนี้ผู้ตอบแบบได้ตอบการสอบถามทางออนไลน์โดยไม่ทราบถึงวัตถุประสงค์หรือผู้สนับสนุนการจัดทำครั้งนี้แต่อย่างใด
เกี่ยวกับฟอร์ติเน็ต
ฟอร์ติเน็ต (NASDAQ: FTNT) ปกป้ององค์กร ผู้ให้บริการ หน่วยงานรัฐบาลที่ใหญ่ที่สุดในโลกฟอร์ติเน็ตช่วยให้ลูกค้าสามารถมีข้อมูลเชิงลึกและการป้องกันที่ราบรื่นเพื่อให้พ้นภัยคุกคามและยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่เยี่ยมยอดให้เครือข่ายที่ไร้พรมแดนในวันนี้และในอนาคตซีเคียวริตี้แฟบลิคซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมใหม่จากฟอร์ติเน็ตเท่านั้นที่จะช่วยสร้างเกราะความปลอดภัยโดยจะไม่ยอมแพ้แก่ภัยที่เข้ามาไม่ว่าจะอยู่ในเครือข่าย แอปพลิเคชั่น คลาวด์ หรือโมบาย ฟอร์ติเน็ตดำรงตำแหน่งเป็น #1 ในการได้ส่งอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยสู่ตลาดโลกมากที่สุด และมีลูกค้ามากกว่า 310,000รายทั่วโลกที่ให้ความไว้วางใจฟอร์ติเน็ตในการช่วยสร้างเกราะป้องกันองค์กรของตนรู้จักฟอร์ติเน็ตเพิ่มเติมได้ที่ www.fortinet.com และ The Fortinet Blog หรือ FortiGuard Labs