ทรู ไอดีซี เผยวิสัยทัศน์และแผนธุรกิจปี 2558 ตอกย้ำผู้นำดาต้าเซ็นเตอร์และมุ่งสู่ผู้ให้บริการคลาวด์อันดับ 1 ในไทย พร้อมก้าวขึ้นติดอันดับท็อป 5 ในภูมิภาคอาเซียน ประกาศจับมือผู้ให้บริการคลาวด์ระดับโลก อาทิ กูเกิล ไมโครซอฟท์ และ อเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส ยกระดับบริการคลาวด์เต็มรูปแบบ ขานรับนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของภาครัฐ ชูกลยุทธ์ One Stop Shop
เจาะกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีและองค์กรธุรกิจ สยายปีกรุกตลาดอาเซียน ทั้งอินโดนีเชีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และพม่า พร้อมผนึก Switch เตรียมสร้างศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่มาตรฐานระดับโลก
อีกทั้งจัดทัพผู้บริหารใหม่ เดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 40% ในปีนี้ และมากกว่า 1,000 ล้านบาท ภายใน 2 ปี
นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มของบริการดาต้าเซ็นเตอร์และคลาวด์ทั่วโลกมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดมาตลอดในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ประกอบกับในปีนี้ รัฐบาลไทยมีแนวทางขับเคลื่อนประเทศด้วยนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล ยิ่งเป็น
การผลักดันให้ทั้งหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนตื่นตัวในการนำเทคโนโลยีสื่อสารมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น
ทรู ไอดีซี จึงปรับแผนธุรกิจเพื่อตอบรับเทรนด์การใช้งานดาต้าเซ็นเตอร์และคลาวด์ โดยจับมือพันธมิตรระดับโลก เพื่อขยายบริการคลาวด์ครบวงจรแบบ One Stop Shop ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านบริการคลาวด์ ทั้งยังร่วมกับ Switch ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เตรียมสร้างศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ภายใต้ชื่อ “SuperNap” ตอกย้ำความเป็นผู้นำบริการดาต้าเซ็นเตอร์และก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการคลาวด์อันดับหนึ่งในไทย และติดอันดับท็อป 5 ในภูมิภาคอาเซียน พร้อมกันนี้ ทรู ไอดีซี ยังได้มีการจัดทีมผู้บริหารใหม่ เสริม
ความคล่องตัวและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพื่อตอบรับกับเทรนด์การเติบโตที่กำลังเกิดขึ้น ตลอดจนมี
การปรับรูปแบบโลโก้ “ทรู ไอดีซี” ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้นด้วย
นายฐนสรณ์ ใจดี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า จากจุดแข็งของทรู ไอดีซี ที่เหนือกว่าผู้ให้บริการรายอื่นๆ ทั้งบริการที่ได้มาตรฐานระดับสากลและการใช้งานเชื่อมต่อบนโครงข่ายอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดในไทย ทำให้ผลประกอบการของทรู ไอดีซี เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2557 ที่ผ่านมา มีรายได้เติบโต 30% และมีผลกำไรขั้นต้นโต 50% สำหรับปีนี้เรายังคงมุ่งเน้นพัฒนาบริการใหม่ที่หลากหลายและมีคุณภาพที่ได้มาตรฐานระดับสากล ตั้งเป้ารายได้เติบโตถึง 40% และมากกว่า 1,000 ล้านบาท ภายใน 2 ปีข้างหน้า โดยมีลูกค้าเป้าหมายทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งกลุ่มเอสเอ็มอี องค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ การเงินการธนาคาร หน่วยงานราชการ และอื่นๆ
การจับมือกับพันธมิตรระดับโลก เสริมให้ทรู ไอดีซี สามารถให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์มาตรฐานโลก และบริการคลาวด์ครบวงจรทุกมิติ โดยมีบริการต่างๆ ดังนี้
- บริการดาต้าเซ็นเตอร์: มีศูนย์บริการถึง 3 แห่ง คือ ศูนย์ทรู ทาวเวอร์ ศูนย์เมืองทองธานี และ SuperNap
ศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งใหม่ที่จะก่อตั้งขึ้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี - บริการคลาวด์ ทุกระดับ
- Infrastructure as a Service (IaaS) อาทิ บริการคลาวด์ บริการพื้นที่เก็บข้อมูล (Storage) บริการด้านความปลอดภัย บริการเครือข่าย และอุปกรณ์สำหรับการใช้งานผ่านคลาวด์โดยเฉพาะ เช่น ความร่วมมือกับกูเกิลเพื่อแนะนำ Chromebook ในประเทศไทย
- Platform as a Service (PaaS) อาทิ แพลตฟอร์มการชำระเงินออนไลน์ แพลตฟอร์มสำหรับการพัฒนาและทดลองระบบออนไลน์ต่างๆ
- Software as a Service (SaaS) อาทิ ซอฟต์แวร์เพิ่มประสิทธิภาพด้านการทำงานการสื่อสาร ระบบ CRM และการวิเคราะห์ข้อมูล
- Professional Services อาทิ บริการให้คำปรึกษา การจัดอบรม และการบริหารจัดการเครือข่าย (Managed Services)
“จากข้อมูลของการ์ทเนอร์และแอคเซนเจอร์ คาดการณ์ว่าในปี 2561 บริการคลาวด์ในอาเซียนจะมีมูลค่าสูงถึง 256,000 ล้านบาท สำหรับในประเทศไทย ตลาดดาต้าเซ็นเตอร์และบริการคลาวด์จะมีมูลค่าสูงถึง 27,000 ล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากบริการ Infrastructure as a service บริการ Software as a service และธุรกิจบริหารจัดการเครือข่าย (Managed Services) ทรู ไอดีซี มั่นใจว่า กลยุทธ์และแผนการดำเนินงานภายใต้
ทีมผู้บริหารใหม่นี้ จะผลักดันให้ ทรู ไอดีซี คงความเป็นผู้นำบริการดาต้าเซ็นเตอร์ พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการคลาวด์อันดับหนี่งในไทย และติดอันดับ 1 ใน 5 ของอาเซียนภายในปีนี้ได้อย่างแน่นอน” นายปุณณมาศ
กล่าวสรุป