Kingston SSDNow KC300 มาพร้อมความเร็วที่มากกว่า

พูดถึงตัวฮาร์ดดิสก์แบบโซลิดสเตท ชื่อของ คิงก์ตัน น่าจะเป็นอีกญี่ห้อหนึ่งที่หลายๆ คนนึกถึง ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่ดี ในราคาที่ไม่สูงมากนัก เป็นตัวเลือกที่ดีอีกญี่ห้อหนึ่ง สำหรับคนเบี้ยน้อยหอยน้อย เช่นเดียวกับฮาร์ดดิสก์ ที่นำมาทดสอบในบทความนี้ เป็นฮาร์ดดิสก์แบบโซลิดสเตท อีกหนึ่งรุ่นจากทางคิงก์ตัน สำหรับการใช้งานด้านธุรกิจ และผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการประสิทธิภาพ และการทำงานรับส่งข้อมูลที่รวดเร็ว

โดยรุ่นที่นำมาทดสอบจะเป็น Kingston SSDNow KC300 มาในกล่องกระดาษสีเทาเขียว ดูแปลกดีปกติค่านี้จะเน้นทางสีแดง มีคุณสมบัติพิเศษในเรื่องของความความเร็ว ในการรับส่งข้อมูลเป็นพิเศษ ดูได้จากรายละเอียดหน้ากล่อง เร็วขึ้น 15 เท่าจากฮาร์ดดิสก์ปกติ ระบุความเร็วในการอ่านไว้ที่ 525 MB/s และความเร็วในการเขียนที่ 500 MB/s เลยทีเดียว
แกะกลองออกมาภายในมีอุปกรณ์ต่างๆ ให้เยอะทีเดียว ทั้งฐาดรองสำหรับใส่แทนฮาร์ดดิสก์แบบ 3.5″ เพลทวางเพิ่มความหนาเพราะฮาร์ดดิสก์รุ่นนี้เป็นแบบบางสำหรับใช้กับอัลตร้าบุ๊กบางรุ่นได้ คู่มือ ซีดี สาย S-ATA และ ชุด SSD Upgrade Kit สำหรับแปลงฮาร์ดดิสก์เป็น เอ็กซ์เทอร์นอลต่อผ่านยูเอบี แต่น่าเสียดายที่ฮาร์ดดิสก์ความเร็วสูงระดับนี้ แต่กลับให้กล่องแบบ USB2.0 ธรรมดามา ทำให้เวลาใช้งานอาจจะต้องเสียความเร็วลงไปเยอะพอสมควร

สำหรับหน้าตาของ Kingston SSDNow KC300 ภายนอกดูไม่แตกต่างจากฮาร์ดดิสก์แบบโซลิดสเตท ขนาด 2.5″ ทั่วไป ( 69.8 x 100.1 มิลลิเมตร) แต่จะบางกว่าเพียง 7 มม. สำหรับใช้งานบนอัลตร้าบู๊กที่มีช่องใส่ฮาร์ดดิสก์แบบบางพิเศษได้ ส่วนใครที่นำไปใช้กับโน้ตบุ๊กแบบธรรมดาก็ไม่ต้องกลัวเพราะคิงก์ตันมีเพลทรองเพิ่มความหนาแถมมาให้ด้วย

เปรียบเทียบให้เห็นชัดๆ ระหว่างตัว Kingston SSDNow KC300 กับฮาร์ดดิสก์ 2.5″ สำหรับโน้ตบุ๊กปกติทั่วไปดูจะบางกว่ากันเล็กน้อย ช่วยลดขนาดและความบางของตัวอัลตร้าบุ๊กลงได้ แถมยังมีน้ำหนักที่เบาขึ้นอีกด้วย โดยนำหนักของตัวฮาร์ดิสก์รุ่นนี้อยู่ที่ประมาณ 88 กรัมเท่านั้น เทียบกับฮาร์ดดิสก์ 2.5″ ปกติจะอยู่ที่ประมาณ 100 กรัม

ในส่วนของการทำงาน ฮาร์ดิสก์ตัวนี้มีขนา่ดของหน่วยความจำภายในสูงสุด 240GB ไม่เยอะไม่น้อยสำหรับฮาร์ดดิสก์แบบโซลิดสเตท ใช้ชิปควบคุม LSI SandForce SF-2281 Gen.2  ที่โดดเด่นในเรื่องของความเร็วในการทำงาน

และมีระบบการจัดการพลังงานที่ยอดเยี่ยม โดยสรุปแล้วตัวฮาร์ดดิสก์รุ่นนี้ใช้พลังงานในขณะพัก (Idle) ที่ประมาณ 0.6 วัตต์ ขณะอ่านข้อมูลที่ 1.4 วัตต์ และขณะเขียนข้อมูลที่ความเร็วสูงสุด 2.9 วัตต์ ตามสเปค

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีเพื่อการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นระบบตรวจสอบการทำงานของฮาร์ดดิสก์อย่าง SMART ปกป้องข้อมูลด้วย Data Integrity Protection มาพร้อมระบบการเขียนข้อมูลแบบ DuraWrite ซึ่งเป็นเอนจินในการบีบอัดข้อมูลแบบพิเศษ และ RAISE ระบบการทำงานที่ช่วยลดความผิดพลาดของข้อมูลเป็นต้น

มาในส่วนของการทดสอบ เริ่มจากขนาดความจุของฮาร์ดดิสก์ที่ ระบุไว้ที่ 240 GB สามารถใช้งานได้จริงราวๆ 223 GB ก็ไม่ถือว่าผิดปกติอะไร

ดูข้อมูลของตัวฮาร์ดดิสก์จากโปรแกรม Aida64 ระบุใช้ตัวคอนโทรลเลอร์ LSI SandForce SF-2281 และชิป หน่วยความจำจาก Toshiba แบบ 19 nm น่าจะเป็นตัวเดียวกัน กับที่ใช้ในฮาร์ดดิสก์โซลิดสเตท ของ OCZ รุ่นใหม่ ที่เคยรีวิวไปก่อนหน้านี้

ซึ่งความเร็วที่ได้ทดสอบด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark ทำความเร็วในการอ่านได้สูงถึง 488.1 MB/s เลยทีเดียวน้อยกว่าที่ระบุไว้หน้ากล่องเล็กน้อย แต่ความเร็วในการเขียนกลับต่ำมากเพียง 229.1 MB/s เท่านั้นเอง

ลองดูอีกหนึ่งโปรแกรมกับ ATTO Disk Benchmark โปรแกรมเดียวกับที่ทางคิงก์ตันใช้อ้างอิงเลย ผลที่ออกมาก็ตามที่เห็น อาร์ดดิสก์รุ่นนี้ทำความเร็วได้ค่อนข้างสูง ถึง 552 MB/s สำหรับความเร็วในการอ่าน และ 523 MB/s สำหรับความเร็วในการเขียน เรียกว่าสูงกว่าที่ทางคิงก์ตันเคลมไว้เสียอีก

ในส่วนของโปรแกรม HD Tune Pro ทดสอบความสเถียรในการอ่านและเขียนข้อมูล โดยในส่วนของการอ่านจากกราฟช่วงต้นดูค่อนข้างจะแกว่งอยู่เล็กน้อย ความเร็วที่ประมาณ 339 MB/s ความเร็วสูงสุดที่ 388.7 MB/s และต่ำสุดที่ 183.2 MB/s ที่ดรอปไปช่วงต้น

ส่วนความเร็วในการเขียน ดุจะแกว่งอยุ่ในวงกว้างๆ แต่สม่ำเสมอดี ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 297 MB/s โดยทำความเร็วสูงสุดที่ 406.6 MB/s และความเร็วต่ำสุดที่ 196 MB/s

ตามด้วยโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพของตัวเครื่องอย่าง PCMark7 ทำคะแนนในส่วนของ Secondary storage ได้ 5,416 คะแนน และคะแนนส่วนของ Raw Secondary storage ที่ 6,307 คะแนน

ปิดท้ายด้วยการทดสอบความเร็วของฮาร์ดดิสก์ผ่านชุด SSD Upgrade Kit สำหรับพกพา ซึ่งจะเชื่อมต่อทางพอร์ต USB2.0 ทำให้ความเร็วของฮาร์ดิสก์ตัวนี้ค่อนข้างดรอปลงมาเยอะทีเดียวเหลือแค่เพียง 43.49 MB/s สำหรับความเร็วในการอ่าน และ 44.90 MB/s สำหรับความเร็วในการเขียน เท่านั้นเอง แนะนำว่าถ้าจะใช้งานเป็นเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ ก็ควรจะหาซื้อบล็อกแบบ USB3.0 มาใช้งานแทน น่าจะทำความเร็วในรับส่งข้อมูลได้ดีกว่า

ราคา 5,500 บาท