จนถึงปัจจุบัน iPAD2 ก็ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่ผู้ที่ต้องการหาซื้อแท็บเล็ตดีๆ แน่นอนว่าคนที่งบน้อยหรือเพียงแค่ซื้อแก้ขัดก่อนที่ iPAD3 จะออกวางตลาด ก็ย่อมมองหาเครื่องมือสองที่ราคาถูกแต่สภาพดี วันนี้ผมมีคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการดู iPad2 มือสองครับ
การซื้อสินค้ามือสอง โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ต้องยอมรับว่าค่อนข้างเสี่ยง เพราะสินค้าเหล่านี้หากมีจุดบกพร่องเกิดขึ้น เรามักจะไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่า และจะไปเจอะเอาข้อเสียจริงๆ ก็ตอนที่นำไปเริ่มใช้งานแล้ว ถึงตอนนั้นก็คงไม่สามารถไปเคลมหรือโทษใครได้
วันนี้เลยถือโอกาสฝากคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการดูเครื่อง iPad2 มือสอง เช็คให้ละเอียดถ้วนถี่ ก็จะได้ของดีในราคาถูกแบบไม่ยากครับ
1. เช็คปุ่มต่างๆ บนตัวไอแพดนั้นมีปุ่มหลักๆ อยู่ไม่กี่ปุ่ม คือปุ่ม Power , Side-switch, Volume และ Home เช็คทุกปุ่มว่าทำงานได้ปกติหรือไม่ ดังนี้
– ปุ่ม Power กดหนึ่งครั้ง เพื่อสั่ง sleep ได้ และกดค้างเพื่อสั่งปิดเครื่องได้
– ปุ่ม side-switch ทำงานได้ปกติ ตามค่าใน Settings
– ปุ่ม Volume เพิ่ม-ลดเสียงได้
– ปุ่ม Home กดเบาๆ ก็ทำงานได้ ไม่ต้องหนัก ไม่ต้องเน้น
2. เช็ค Dead pixel บนหน้าจอ วิธีการให้ใช้โปรแกรม Free light ซึ่งใช้ฟรีบนแอพสโตร์มาติดตั้ง จากนั้นก็เลือกเปลี่ยนหน้าจอเป็นสีต่างๆ ลองไล่ดูว่ามีจุดสีแปลกๆ หรือจุดดับเกิดขึ้นที่ตรงไหนบ้างหรือไม่
3. เช็คแจ็กเชื่อมต่อต่างๆ
– แจ็กหูฟัง เทสต์ง่ายๆ โดยการเปิดเพลงฟังดู ถ้าไม่เสียบแจ็ก เสียงต้องออกลำโพง ถ้าเสียบแจ็ก เสียงต้องออกหูฟัง ไม่ออกลำโพง
– แจ็กเสียบสายซิงค์ และ ลองชาร์จไฟด้วย ว่าไฟเข้าหรือไม่
– เช็คไมค์รับเสียง ว่าทำงานปกติหรือไม่ อาจเทสต์ง่ายๆ โดยการทดลองอัดวิดีโอแล้วพูดใส่ไมค์ดูครับ
4. เช็คระบบการเชื่อมต่อไร้สายต่างๆ
– เช็คระบบไวไฟ
– เช็คบลูทูธ ลองเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนดูว่าได้หรือไม่
– เช็คระบบ 3G (ถ้ามี) และลองใส่ซิมด้วย ว่ารับ-ส่งดาต้าได้หรือไม่
– เช็คระบบ GPS (ถ้ามี) วิธีการก็คือ ลองปิดสัญญาณ wi-fi และ cellular data จากนั้นลองเปิด google maps ถ้าสามารถระบุตำแหน่งได้ถูกต้อง ก็ถือว่าผ่านครับ
5. เช็คระบบสัมผัส ไอแพด2 สามารถรับมัลติทัชได้มากสุด 11 จุด วิธีการทดสอบให้ใช้แอพ fingerCount ครับ แล้วลองแตะนิ้วลงไปพร้อมๆ กันทั้ง 11 นิ้ว (ยืมนิ้วเพื่อนมา 1 นิ้ว) ถ้านับจุดได้ 11 จุดดังภาพ ก็ถือว่าผ่าน
6. เช็คกล้อง หน้า-หลัง สามารถทำงานได้ปกติ ถ่ายรูปได้ ถ่ายวิดีโอได้
7. เช็คระบบเซนเซอร์ต่างๆ โดยในตัวไอแพด 2 นั้นมีเซนเซอร์อยู่ 4 แบบ ดังนี้
– Accelerometer เซนเซอร์จับความเคลื่อนไหวของไอแพด เทสต์ง่ายๆ ก็ลองหมุนหน้าจอเป็นแนวนอน-ตั้ง (เช็คด้วยว่าล็อกไว้หรือไม่)
– ambient light sensor ปรับแสงหน้าจอตามสภาพแวดล้อม ถ้าอยู่ที่มืด หน้าจอจะสว่างน้อย เทสต์ง่ายๆ โดยการเอามือไปบังบริเวณเซนเซอร์ที่อยู่ด้านบน เหนือตำแหน่งกล้องไปนิดเดียว
– 3-axis gyro sensor ตัววัดระนาบของไอแพด เทสต์ด้วยเกมที่ต้องใช้การควบคุมด้วยการเคลื่อนหน้าจอ เช่น N.O.V.A 2 หรือแอพ commander compass lite ก็ได้ ซึ่งถ้าใช้แอพตัวหลังนี้ ก็จะได้เทสต์ระบบเข็มทิศไปด้วย
– Proximity sensor ตัวจับการเปิด-ปิดหน้าจอด้วย smart cover อันนี้ถ้ามี smart cover หรืออะไรที่ใช้แทนกันได้ ก็ลองเทสต์ดูครับ
8. เช็คว่าตกน้ำหรือไม่ อันนี้คงเช็คไม่ได้แล้ว เพราะไอแพด2 ได้ถอดเอาตัวเช็คความชื้นออกไป แต่ถ้าเช็คจุดต่างๆ ข้างบนแล้วไม่พบปัญหา ก็น่าจะอนุมานได้ว่า มันอาจยังไม่เคยโดนน้ำมาก่อนครับ
นอกจากนี้ พวกร่องรอยต่างๆ ความเสียหายภายนอก เราสามารถตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่าอยู่แล้ว อยากให้สังเกตบริเวณมุมเครื่องว่ามีรอยบิ่นหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่เวลาตกมักเอามุมลง ก็จะสังเกตได้ง่าย
ก็คงมีเท่านี้ สำหรับการเช็คเครื่องไอแพด 2 มือสอง ถ้าใครมีอะไรเพิ่มเติม ก็คอมเมนต์ด้านล่างนี้ได้เลยนะครับ
ขอบคุงงคร๊าฟ
อยากถามเรื่องของ apple I’d อะครับเาเราดาวโหลดมาใช้ไอดีเราแต่เวลาจะอัพเดทดันเป็นไอดีอื่นจะแก้ไขได้ยังไงบ้างครับ
แก้ไม่ได้ครับ ต้องเจ้าของไอดีเท่านั้น ที่อัพเดตได้ครับ
ได้ประโยชน์มากเลยค่ะ อยากทราบว่าใช้กับ Ipad 3 ด้วยได้ไหมคะ?
ได้ครับ
ได้ครับ
อยากถามว่า จะซื้อไอแพด 2มือสองในราคา 8000 คุ้มมั้ยครับ
ราคานี้ถ้าเป็น 32GB + 3G ก็คุ้มครับ
เป็นรุ่น wifi 16gb ครับ
เขาบอกว่าพึ่งซื้้อมาใช้ได้ประมาณปีกว่าครับแต่จริงหรือไม่นั้นยังไม่ได้เช็คดูครับ ถ้าเป็นตามที่เขาพูดคุ้มมั้ยรับ เพราะตอนนี้แอปเปิ้ลทิ้งรุ่นแล้ว
หรือซื้อไอแพดมินิรุ่นไวไฟใหม่เลยดีมั้ยครับ
รุ่นใหม่ดีกว่าครับ ^^