กราฟิกการ์ดสำหรับการเล่นเกมส์อีกหนึ่งรุ่น ที่ใช้ชิปกราฟิกโค้ตเนม Kepler จาก Nvidia เพื่อตอบสนองการประมวลผลด้านกราฟิก ทั้งการทำงานหรือเล่นเกมส์ได้โดยเฉพาะ
โดยในส่วนของตัวกราฟิกการ์ด รุ่นนี้มาในแพ็คเกจกล่องกระดาษดีไซน์เรียบๆ มาในโดทนสีดำ ตัดสเขียวและฟ้าดูสวยงามดี แต่อาจจะยังไม่ดึงดูด มากเท่าไหร่ เทียบกับค่ายอื่นๆ ภายในมีอุปกรณ์อื่น ที่ช่วยในการใช้งานแถมมาให้นอกจากตัวกราฟิกการ์ด ไม่ว่าจะเป็น สายแปลงไฟจาก Molex เป็น 6 Pin และ 8 Pin สำหรับ PCI-E อย่างละ 1 เส้น คู่มือไดร์เวอร์ และหัวแปลง DVi เป็น VGA สำหรับจอภาพรุ่นเก่า
หน้าตาของตัวกราฟิกการ์ด ดีไซน์ดูค่อนข้างโดดเด่น ด้วยชุดระบายความร้อน ขนาดใหญ่เพื่อการระบายความร้อนจากตัวกราฟิกการ์ด
โดยในชุดระบายความร้อน ของกาแล็กซี่ประกอบด้วย ท่อนำความร้อนแบบฮีทไปป์จำนวน 4 ท่อ จากชิปกราฟิก และอีก 1 ท่อทางด้านหลัง เพื่อนำความร้อนไปยังฮีทซิงค์อลูมิเนียมแบบบางด้านบน พร้อมพัดลมระบายอากาศขนาด 90 มม. อีก 2 ชุด เพื่อการระบายความร้อน ได้ดียิ่งขึ้น
และยังออกแบบให้สามารถถอดทำความสะอาดได้ง่าย เพียงขันน็อต ที่อยู่โดยรอบตัวกราฟิกการ์ด 8 จุด เพื่อถอดกรอบพัดลมด้านหน้าออก
เมื่อถอดออกมาแล้ว จะเจอกับฮีทซิงค์ด้านใน เพื่อให้เราสามารถทำความสะอาด ทั้งในส่วนของฮีทซิงค์ และพัดลมระบายความร้อนด้านหน้า ได้อย่างสะดวก แต่ไม่สามารถถอดตัวฮีทซิงค์ออกได้ เพราะตัวล็อคฮีทซิงค์จะอยู่ทางด้านหลังของกราฟิกการ์ด
ในส่วนของความสามารถตัวกราฟิกการ์ด มาพร้อมชิปกราฟิก GK104 ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม Kepler ที่ผ่านการโอเวอร์คล็อกความเร็วมาให้เเล้วจากโรงงาน โดยมีความเร็วในการทำงานที่ 1,059 MHz เร็วขึ้นกว่าเดิมประมาณ 8% และสามารถบูทความเร็วขึ้นด้วยความสามารถของ GPU Boot 2.0 เพิ่มความเร็วได้ถึง 1,110 MHz มาพร้อมกับหน่วยความจำแบบ GDDR5 ขนาดความจุ 2 GB ความเร็ว 3,004 MHz 256 บิต และ แบนด์วิธขนาด 192 GB/s เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน
โดยสามารถต่อสัญญาณภาพออกได้ทั้งแบบ DVI ที่มีให้ทั้งแบบ DVI-I และ DVI-D รวมถึงพอร์ต HDMI และ Display Port อย่างละหนึ่งพอร์ด
สำหรับการใช้งานตัวกราฟิกการ์ด จะต้องใช้ไฟเลี้ยงแบบ PCI-E 6 Pin และ 8 Pin ทางด้านบน อย่างละหนึ่งพอร์ต ซึ่งจะต้องใช้ไฟจากพาวเวอร์ซัพพรายขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 500 วัตต์ ในการทำงาน
ตรวจสอบสเปคกราฟิกการ์ดรุ่นนี้ ผ่านโปรแกรม GPU-Z ที่สามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ ของตัวกราฟิกการ์ดทั้งหมด
มาลองทดสอบความสามารถ ของตัวกราฟิกการ์ด ด้วยโปรแกรม Fryrender ในการเรนเดอร์ภาพกราฟิกความละเอียดสูง ใช้เวลาในการประมวลผล ประมาณ 7.18 นาที
ตามต่อด้วยโปรแกรมทดสอบการประมวลผลกราฟิก Unigine Heaven Benchmark ทำคะแนนได้ประมาณ 2149 คะแนน และความเร็วเฟรมเรทเฉลี่ย 85.3 FPS โดยความเร็วเฟรมเรทต่ำสุดที่ 8.8 FPS และความเร็วเฟรมเรทสูงสุดที่ 189 FPS
และโปรแกรมทดสอบ 3DMark 11 ทั้ง 3 ด่านทดสอบ ได้ผลคะแนนออกมา 5,547 คะแนนสำหรับ ด่านทดสอบ Fire Strike 16,279 สำหรับด่านทดสอบ Cloud Gate และ 151,669 คะแนนสำหรับ ด่านทดสอบ ICE Storm
เสร็จแล้วลองทดสอบโอเวอร์คล็อกการทำงานตัวกราฟิกการ์ดดูบ้าง โดยในส่วนของความเร็วในการทำงานเพิ่มขึ้นมาได้ถึงประมาณ 1,207 MHz เพิ่มขึ้นมาประมาณ 14% และในส่วนของเมมโมรี่ ที่ขึ้นมาเป็น 1,595 MHz เพิ่มขึ้นมาประมาณ 6% แม้ตัวการ์ดจะเป็นรุ่น ที่โอเวอร์คล็อกมาแล้วจากโรงงานก็ยังสามารถโอเวอร์คล็อกเพิ่มขึ้นอีกได้พอสมควร
ผลการทดสอบประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม 3DMark 11 หลังการโอเวอร์คล็อก ตัวกราฟิกการ์ดตัวนี้สามารถทำคะแนนในแต่ละด่านทดสอบเพิ่มขึ้น ประมาณ 10-17%
ภาพรวมสำหรับตัวกราฟิกการ์ดรุ่นนี้ มีประสิทธิภาพการทำงานในระดับที่ดี เล่นเกมส์ต่างๆ ได้ พร้อมความสามารถของเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีให้ในตัวการ์ดไม่ว่าจะเป็น GPU Boot 2, 3D Vision,TXAA หรือ V-Syns ครบถ้วน พร้อมทั้งความสามารถในการระบายความร้อนจากตัวการ์ดเพื่อการทำงานหนักได้โดยไม่มีปัญหาเรื่องของความร้อน ซึ่งมีทั้งฮีทไปป์ ฮีทซิงค์อลูมิเนียมแบบบาง และพัดลมระบายอากาศอีก 2 ตัวช่วยในการทำงาน
ราคา 9,900 บาท
Ascenti Resources Co.,Ltd.
โทร.0-2961-7297
www.ascenti.co.th