บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และพันธมิตร จัดงานมหกรรมแสดงผลงานและสิ่งประดิษฐ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ “Bangkok Mini Maker Faire ปี 2 ทำของมาอวด” รวมพล “เมกเกอร์” หรือนักสร้างสรรค์และนักประดิษฐ์ ทั้งชาวไทยและต่างประเทศกว่า345 คน ร่วมนำเสนอผลงานกว่า 122 ชิ้น เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมเมกเกอร์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง อันเป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 ถึง 22 มกราคม ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเดอะสตรีท รัชดา โดยมีผู้เข้าร่วมงานในปีนี้รวมทั้งสิ้นกว่า 5,000 คน
คุณอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า “จากความสำเร็จของการจัดงาน Bangkok Mini Maker Faire ครั้งแรก ในปี 2558 ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีเกินความคาดหมาย ด้วยจำนวนผู้ร่วมงานกว่า 4,000 คน เป็นการเปิดโอกาสให้เมกเกอร์จากทั่วประเทศได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนความรู้ และนำผลงานของตนเองมาจัดแสดง นอกจากนี้ยังได้สร้างการรับรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเมกเกอร์ให้กับสังคมไทยในวงกว้าง และถือเป็นการปักหมุดประเทศไทยลงในแผนที่ของเมกเกอร์โลกเป็นครั้งแรก เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จดังกล่าว ในปีนี้เราได้ร่วมมือกับ สวทช. และพันธมิตร จัดงานBangkok Mini Maker Faire ขึ้นเป็นปีที่สอง โดยมุ่งหวังให้วัฒนธรรมเมกเกอร์เข้ามาเป็นหนึ่งในรากฐานการพัฒนาสังคม เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ยุคประเทศไทย 4.0 ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ในการนำพาประเทศไปสู่สังคมเศรษฐกิจแบบใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม”
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า “เพื่อเป็นการขานรับนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาล กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการบ่มเพาะและส่งเสริมสตาร์ทอัพไทยแลนด์สร้างมูลค่าในสินค้า บริการ มีความสามารถทางการค้าและเข้าถึงตลาดในประเทศ อาเซียน และตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน อันจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้มีการเติบโต ทั้งนี้การสร้างรากฐานวัฒนธรรมเมกเกอร์จะสามารถนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดแนวคิดสู่การทำสตาร์ทอัพในประเทศไทยได้ในอนาคต การจัดงานเมกเกอร์แฟร์ จึงเป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนขบวนการเมกเกอร์ (Maker Movement) นอกจากได้สร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของเมกเกอร์ ที่ไม่ได้เป็นเพียงงานอดิเรกเหมือนเดิมอีกต่อไป ยังเป็นการส่งเสริมสังคมเมกเกอร์ให้มีความแข็งแกร่ง นับเป็นการบ่มเพาะสตาร์ทอัพที่มีคุณภาพเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจให้สามารถเติบโตขึ้นอย่างมั่นคง”
งาน Bangkok Mini Maker Faire ปี 2 จัดแสดงผลงานนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ของเมกเกอร์จากทั่วประเทศไทย กว่า 60 บูธ พร้อมด้วยกิจกรรมน่าสนใจเพื่อให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจแก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ในวัฒนธรรมเมกเกอร์ อาทิ เวิร์กชอปสำหรับผู้รักการเรียนรู้ในด้านต่างๆ ทั้งการใช้เครื่องพิมพ์สามมิติ การทำงานศิลปะบนผืนผ้า ไปจนถึงการประกอบโดรน การแข่งขันหุ่นยนต์เห่ย การโชว์ขบวนพาเหรดแห่งแสงไฟและเสียงดนตรี นอกจากนั้น ยังมีการประกาศผลการประกวดสิ่งประดิษฐ์สำหรับเมกเกอร์ ในระดับนักเรียน-นักศึกษาสายสามัญและอาชีวศึกษา ในรายการ “Enjoy Sciences: Young Makers Contest” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต โดยในครั้งนี้ได้กำหนดหัวข้อ “นวัตกรรมเพื่อผู้สูงอายุและผู้พิการ” ผู้ชนะจะได้รับรางวัลทุนการศึกษา ตลอดจนทริปเข้าร่วมงาน Maker Faire ในสหราชอาณาจักรและงาน Nano Tech Japan 2017 ประเทศญี่ปุ่น รวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท ซึ่งการประกวดในปีนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากอีกสองพันธมิตรสำคัญคือ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) และ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)
คุณกรรณิการ์ วงษ์ทองศิริ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า “อพวช. มีความยินดีที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Young Makers Contest เพราะการกระตุ้นและส่งเสริมสังคมไทยให้สนใจและเห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์ที่มีต่อการพัฒนาประเทศ ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจหลักของเรา ซึ่งการส่งเสริมวัฒนธรรมเมกเกอร์ที่แข็งแกร่งในสังคมจะช่วยให้ประเทศไทยพัฒนาขีดความสามารถดังกล่าวได้อย่างมั่นคง โดยในปัจจุบัน อพวช. ได้ดำเนินการสนับสนุนวัฒนธรรมเมกเกอร์ให้กับสาธารณชน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดแสดงผลงานของเมกเกอร์ รวมถึงการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์งานของเมกเกอร์ หรือ เมกเกอร์สเปซ ณ พิพิธภัณฑ์ในสังกัด เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการประดิษฐ์นวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมให้มีความทัดเทียมกัน”
ดร. มงคลชัย สมอุดร ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กล่าวว่า “กำลังคนอาชีวศึกษามีความสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งต่อภาคการผลิต ภาคบริการและการเป็นผู้ประกอบการ การที่ประเทศไทยจะก้าวสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมได้นั้น จะต้องยกระดับคุณภาพการศึกษาวิชาชีพ การส่งเสริมให้นักเรียนอาชีวศึกษาเข้าสู่วัฒนธรรมเมกเกอร์เป็นอีกหนึ่งในแนวทางการพัฒนากำลังคนให้สอดรับกับความต้องการกำลังคนของประเทศซึ่งมีแนวโน้มความต้องการแรงงานที่สามารถสร้างนวัตกรรมมาแทนที่แรงงานฝีมือ เรามีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับโครงการ Chevron Enjoy Science และหวังจะได้เห็นผลสัมฤทธิ์ คือกำลังคนที่มีคุณภาพเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป”
“การส่งเสริมวัฒนธรรมเมกเกอร์ในประเทศเป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของเชฟรอนในการพัฒนาพลังคน ภายใต้โครงการ “Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต” ซึ่งเป็นโครงการระยะยาว 5 ปี ที่มุ่งส่งเสริมแรงบันดาลใจและสร้างความสนใจในการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ หรือ สะเต็ม ทั้งในระบบการศึกษาสายสามัญและสายอาชีพ ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เราเชื่อว่าการยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศผ่านการพัฒนานวัตกรรมจะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่สำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ให้สัมฤทธิ์ผล” คุณอาทิตย์ กล่าวสรุป
มหกรรม Bangkok Mini Maker Faire บริหารและจัดการโดยอิสระ ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Maker Media, Inc.