กรุงเทพฯ — 5 ตุลาคม 2554 —บริษัท อะโดบี ซิสเต็มส์ (Nasdaq:ADBE) เปิดตัว Adobe® Creative Cloud ซึ่งเป็นแนวคิดริเริ่มใหม่จากบริษัทฯ ที่รังสรรค์กระบวนการสร้างสรรค์คอนเทนต์ ระหว่างงานยิ่งใหญ่ประจำปี MAX 2011
โดย Adobe Creative Cloud จะกลายเป็นศูนย์รวมสำหรับงานสร้างสรรค์ ซึ่งผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลกจะสามารถเข้าถึงแอพพลิเคชั่นบนเดสก์ท็อปและแทบเล็ต รวมถึงบริการครีเอทีฟหลักๆ และแชร์ผลงานที่ยอดเยี่ยม ทั้งนี้ Adobe Creative Cloud ได้รับการเปิดตัวพร้อมกับ Adobe Touch Apps ชุดใหม่สำหรับการสร้างคอนเทนต์บนอุปกรณ์แทบเล็ต (ดูข่าวประชาสัมพันธ์แยกต่างหาก) โปรแกรมที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้นำเสนองานสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพให้แก่ผู้ใช้แทบเล็ตหลายล้านคน ตั้งแต่ผู้บริโภคเรื่อยไปจนถึงมืออาชีพด้านครีเอทีฟ และใช้บริการบนคลาวด์เพื่อแชร์ไฟล์ ดูไฟล์บนอุปกรณ์ต่างๆ หรือถ่ายโอนผลงานไปยังซอฟต์แวร์ Adobe Creative Suite® เพื่อทำการปรับแต่งเพิ่มเติม
“Adobe Creative Cloud ปฏิวัติงานสร้างสรรค์ โดยรองรับบริการรุ่นใหม่มากมายสำหรับงานครีเอทีฟและสื่อสิ่งพิมพ์ พร้อมด้วยการทำงานแบบทัช เพื่อนำเสนอรูปแบบใหม่ของการใช้งานเครื่องมือครีเอทีฟ และสร้างความเชื่อมโยงอย่างทั่วถึงและเข้มข้นระหว่างครีเอทีฟทั่วโลก” เควิน ลินช์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของอะโดบี กล่าว “Creative Cloud คือองค์ประกอบสำคัญที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของอะโดบี”
แนะนำ Adobe Creative Cloud
การเปิดตัว Adobe Creative Cloud ในครั้งนี้มุ่งเน้นที่แนวคิดคอลเลกชั่นที่แปลกใหม่ของ Adobe Touch Apps ที่นำเสนอซอฟต์แวร์ครีเอทีฟสำหรับยุคโมบายล์และรองรับอุปกรณ์แทบเล็ต ซึ่งจะกลายเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการครีเอทีฟ Adobe Creative Cloud จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับการรับชม แบ่งปัน และซิงค์ไฟล์ต่างๆ ที่สร้างขึ้นโดยใช้ Adobe Touch Apps และ Adobe Creative Suite และประกอบด้วยคลาวด์สตอเรจขนาด 20GB โดยจะพัฒนาอย่างรวดเร็วเป็นบริการที่รองรับการเข้าใช้แอพพลิเคชั่นชั้นนำทางด้านครีเอทีฟของอะโดบี รวมถึงบริการต่างๆ และจะกลายเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับทุกคนที่สนใจงานครีเอทีฟ ในระดับราคาที่น่าสนใจ ทั้งนี้ ภายในต้นปี 2555 คาดว่า Adobe Creative Cloud จะประกอบด้วย:
- แอพพลิเคชั่น – การเข้าใช้เครื่องมือต่างๆ ใน Adobe Creative Suite รวมถึง Adobe Touch Apps หกโปรแกรมที่เปิดตัวในวันนี้ พร้อมด้วยเครื่องมือเดสก์ท็อปชั้นนำ เช่น Photoshop®, InDesign®, Illustrator®, Dreamweaver®, Premiere® Pro, After Effects® และเครื่องมือใหม่ๆ เช่น Adobe Edge และ Muse
- บริการ – เทคโนโลยีสำคัญๆ ของ Adobe Digital Publishing Suite สำหรับการนำเสนอสิ่งพิมพ์แบบอินเทอร์แอคทีฟบนแทบเล็ต; Adobe Business Catalyst สำหรับการสร้างและจัดการเว็บไซต์ และบริการใหม่ด้านการออกแบบ เช่น ความสามารถในการใช้ฟอนต์อักษรบนระบบคลาวด์สำหรับการออกแบบเว็บไซต์ โดยอาศัยเทคโนโลยีที่อะโดบีได้รับจากการเข้าซื้อกิจการของบริษัท Typekit Inc. (ดูข่าวประชาสัมพันธ์แยกต่างหาก)
- ชุมชน – ความสามารถที่กระตุ้นให้มืออาชีพด้านครีเอทีฟนำเสนอและแบ่งปันผลงานและไอเดียร่วมกับเพื่อนๆ ทั่วโลก พร้อมเวทีเสวนาสำหรับการแสดงความคิดเห็นและการสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างนักครีเอทีฟ Adobe Creative Cloud จะกลายเป็นศูนย์รวมสำหรับผู้สร้างสรรค์งานครีเอทีฟ
ราคาและการวางจำหน่าย
จะมีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับราคาของ Adobe Creative Cloud และความสามารถของแอพพลิเคชั่น บริการ และชุมชน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2554 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.adobe.com/go/creativecloud อะโดบีจะยังคงนำเสนอผลิตภัณฑ์ครีเอทีฟทั้งหมดในรูปแบบของโปรแกรม Standalone เช่น Adobe Creative Suite และผลิตภัณฑ์ชั้นนำอย่างเช่น Photoshop, Illustrator, InDesign และ Dreamweaver
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอะโดบีหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องสำหรับประเทศไทย กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.adobe.com/go/creativecloud
และติดตามข่าวได้จากอะโดบี โซเชียลมีเดีย