ปี 2016 เป็นปีที่สำคัญสำหรับบริษัทที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้และควบคุมข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีกว่า ในปีนี้เราให้คำมั่นสัญญาซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญทางเทคโนโลยีของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมต่อของเครือข่ายเพื่อขยายไปทุกๆที่ ขณะที่เทคโนโลยีบอร์ดแบนด์ไร้สายในระบบ 4G ซึ่งมีให้บริการเพื่อที่จะช่วยปูทางขยายการใช้งานของ Internet of Things ที่กำลังจะมาถึงในปีนี้
สำหรับในปี 2017 เทคโนโลยีเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาด้วยความรวดเร็ว ซีบราจึงได้มองหาเทรนด์ธุรกิจของปีหน้าและผลกระทบที่องค์กรจะได้รับ อีกทั้งซีบราได้นำเสนอ 2 เทรนด์หลักที่เข้ามามีบทบาทต่อแวดวงธุรกิจเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคอนาคต ซึ่งเป็นยุคที่บิ๊กดาต้าและเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงค์ (IoT) จะเข้ามามีบทบาทสำคัญมาก
ในฐานะซีบรา เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากเกี่ยวกับเทคโนโลยีเหล่านี้ที่จะนำเข้าไปสู่องค์กร ลูกค้า พาร์ทเนอร์ และกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ที่จะเชื่อมต่อและมีบทบาทด้านความทันสมัยระดับโลกโดยจะช่วยเพิ่มมุมมองการดำเนินงานต่างๆในเชิงธุรกิจ
1.ธุรกิจจะได้รับสิทธิประโยชน์จากการใช้งานที่ดีกว่าเพื่อนำไปสู่ทรัพยากร มนุษย์ และธุรกรรมต่างๆ
อุปกรณ์ต่างๆได้เข้ามามีบทบาทในการใช้งานที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID – Radio frequency identification) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานได้สะดวกและง่ายดาย อุปกรณ์เซ็นเซอร์มีกระบวนการสั่งการด้วยเสียงดิจิทัลในการสื่อสารกับมนุษย์ จากการรายงานของการ์ทเนอร์ได้คาดการณ์ว่ามีอุปกรณ์ในการเชื่อมต่อ กว่า 6.4 พันล้านชิ้น ซึ่งถูกใช้งานทั่วโลกในปี 2016 ซึ่งเพิ่มขึ้นมา 30 % จากปี 2015 และในปี 2020 คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนอุปกรณ์เพิ่มมากขึ้นอีกกว่า 20.8 พันล้านชิ้น
สำหรับ ปี 2017 การสื่อสารจะมีการเติบโตมากขึ้นในแวดวงธุรกิจ โดยอุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้สามารถใช้งานในด้านการสั่งการด้วยเสียงได้ กระบวนการเหล่านี้สามารถกระตุ้นความน่าดึงดูดใจให้กับองค์กรต่างๆที่การเพิ่มการดำเนินงานด้านมุมมองต่างๆที่จะสร้างการรับรู้และทราบถึงข้อจำกัดต่างๆ
สำหรับการติดตามสินค้าจะต้องอาศัยอุปกรณ์ที่รองรับการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสแกนบาร์โค้ดแบบเลเซอร์, บาร์โค้ดชนิดสองมิติ (2D) เครื่องอ่าน RFID และ Beacons (บีคอนส์) เพื่อใช้ในการสื่อสาร โดยอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยแปลตัวเลข ตัวอักษร อีกทั้งแปลข้อมูลเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตีความและเข้าใจได้ง่ายขึ้น เมื่อผู้บริโภคมีความต้องการทางด้านข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้เราต้องเพิ่มจำนวนของอุปกรณ์จัดเก็บและรวบรวมข้อมูลเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
นอกเหนือจาก Operational visibility ซึ่งเป็นการบริหารจัดการใหม่ที่ให้ความสามารถในการสอดส่องการดำเนินงาน องค์กรก็จำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ด้านประสิทธิภาพของการทำงานและคุณภาพของอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจว่าจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยไม่มีข้อบกพร่องใดๆ ซึงจะส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานซึ่งอาจจะทำให้ความพึงพอใจของลูกค้า อีกทั้งยังส่งผลต่อสิทธิประโยชน์ขององค์กรอีกด้วย จากผลการวิจัยเกี่ยวกับการใช้งานคอมพิวเตอร์พกพาของซีบรา ระบุว่า ข้อผิดพลาดของอุปกรณ์หนึ่งชิ้้น อาจจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เกิดความสูญเสียภายใน 80 นาที ซึ่งการจัดการเพื่อใช้งานบนอุปกรณ์เหล่านี้ เช่นการบริการทางด้านระบบปฏิบัติการบนคลาวด์ของซีบรา จะให้ข้อมูลเชิงลึกในการดำเนินงานเพื่อการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดในการแก้ไขปัญหา ก่อนที่จะเริ่มใช้งาน
- การทำความเข้าใจและใช้ประโยชน์จากข้อมูลก่อนจะสูญหาย
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเกือบทุกอุตสาหกรรมมีการเพิ่มขึ้นของข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง ( Unstructured data ) หรือข้อมูลที่ไม่อยู่ในฐานข้อมูล โดยเกิดจากปัจจัยการเก็บข้อมูลผ่านพฤติกรรมผู้บริโภค, Internet of Things (IoT) และ การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเหล่านี้ยังคงประสบปัญหา และทำให้ไม่สามารถเข้าใจข้อมูลได้เพียงพอและทันท่วงที ซีบราเชื่อว่าข้อมูลอาจจะสูญหายเพราะระยะเวลาที่จำกัด ธุรกิจต่างๆ ต้องเข้าใจและนำข้อมูลมาใช้ก่อนที่จะถูกลบเลือนไป อย่างไรก็ตาม องค์กรต่างๆ มีแนวโน้มที่จะสูญเสียข้อมูลเชิงลึกที่มีมูลค่า ซึ่งมาจากแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน สำหรับการถอดรหัสข้อมูลที่เก็บรวบรวมผ่านอุปกรณ์ที่เปิดใช้งาน IOT และอุปกรณ์ที่สวมใส่ (Wearable) มีส่วนช่วยให้บริษัทให้ความสำคัญกับกระบวนการตัดสินใจในเชิงธุรกิจซึ่งมาพร้อมข้อมูลจำนวนมาก จากการรายงานของไอดีซี เผยว่า ในปี 2020 ผู้ใช้งานในระบบออนไลน์จะสร้างข้อมูลใหม่ 1.7 เมกะไบต์ทุกวินาที ภายใต้แนวคิด “perishable data” ซึ่งเราจะพบว่า หนึ่งในความท้าทายที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถแปลผลข้อมูลเพื่อให้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่ดำเนินงานด้วยความรวดเร็วเท่าที่เป็นไปได้
ประเทศไทยเดินหน้าผลักดันให้อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งเป็นการแสดงผลที่ดีที่สุดสำหรับองค์กร โดยจะมีบทบาทความสำคัญในอนาคตอันใกล้เป็นอย่างมาก สำหรับการสร้างและรวบรวมข้อมูลยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องและมีความถูกต้องแม่นยำ ทำให้องค์กรต่างๆสามารถรับข้อมูลเชิงลึกที่่มีความสำคัญอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ส่งผลให้องค์กรเหล่านี้สามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมประสิทธิภาพได้มากขึ้น