เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้เปิดให้ผู้ใช้ลงทะเบียนใช้งาน Skype for Business Mac Preview โดยมีผู้สนใจลงทะเบียนทดลองใช้งานมากกว่า 20,000 คนจากกว่า 7,000 องค์กร เต็มจำนวนที่สามารถรับได้ ดังนั้น ไมโครซอฟท์จึงจำเป็นต้องขอปิดรับการลงทะเบียนเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ทดลองใช้อยู่ในขณะนี้ ไมโครซอฟท์ยินดีแจ้งให้ทราบว่า Skype for Business Mac Preview ได้พัฒนาเข้าสู่เฟสที่สองแล้ว โดยได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ ดังนี้
รายชื่อติดต่อและสถานะความพร้อมใช้งาน – มองเห็นได้ว่ามีใครบ้างกำลังออนไลน์ ออฟไลน์ ติดประชุม ไม่ว่าง หรือว่างอยู่ พร้อมส่งข้อความแชทส่วนตัวไปถึงได้ทันที
การโทรแบบ Peer-to-peer (P2P) – โทรไปยังผู้ใช้ Skype for Business คนอื่นๆ ได้โดยตรงด้วยการใช้ Voiceover IP
สนทนาทางวิดีโอแบบกลุ่ม – ประชุมทางวิดีโอร่วมกันได้สูงสุดถึง 4 คนพร้อมกันไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม
ประวัติการสนทนา – บันทึกรายการสนทนาในอดีตและเริ่มสนทนาต่อได้ตามต้องการ
และเร็วๆ นี้ Skype for Business Mac Preview จะเข้าสู่การพัฒนาในเฟสที่สาม โดยในเฟสที่สามนี้จะมีคุณสมบัติด้านเสียงเพิ่มเข้ามาด้วย เช่น การโทรออกไปยังหมายเลขโทรศัพท์แบบดั้งเดิม เป็นต้น นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังตั้งเป้าหมายไว้อีกด้วยว่า จะเปิดตัว Skype for Business Mac ให้ใช้งานได้ทั่วไปภายในปีนี้ ในระหว่างนี้ ไมโครซอฟท์จะยังอัปเดตบริการต่อไปเรื่อยๆ เพื่อแก้ไขปัญหาและปรับปรุงการใช้งานตามคำแนะนำและคำติชมของผู้ใช้ โดยสามารถตรวจสอบการอัปเดตอย่างอัตโนมัติจากภายในแอปทุกครั้งที่ผู้ใช้เปิดใช้งาน ดังนั้น หากต้องการส่งข้อคิดเห็น คำแนะนำ หรือคำติชมเพิ่มเติม กรุณาส่งไปที่ Skype for Business feedback
สำหรับผู้ใช้ Skype ในการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ ไมโครซอฟท์ขอแนะนำ Skype Meetings เครื่องมือสำหรับการประชุมออนไลน์แบบใหม่ ที่จะช่วยให้การทำงานในธุรกิจทุกขนาดคล่องตัวมากขึ้น ด้วยระบบการประชุมทางเสียงและวิดีโอความละเอียดสูง (HD) แบบเรียลไทม์ พร้อมคุณสมบัติที่ใช้ในการทำงานร่วมกัน เช่น การแชร์หน้าจอและเนื้อหาระหว่างประชุม แค่มีอุปกรณ์ที่มีอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ ไมโครโฟน ลำโพง และกล้อง เพียงเท่านี้ ก็สามารถเรียกประชุมได้อย่างง่ายดาย เพียงส่ง URL ที่มีการกำหนดขึ้นโดยเฉพาะให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุม ผู้เข้าร่วมประชุมก็เพียงแค่คลิกปุ่มแล้วเข้าร่วมการประชุมได้ทันที และในระหว่างการประชุม ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนยังสามารถส่งข้อความแชทถึงกัน แชร์หน้าจอหรือการนำเสนอไฟล์ PowerPoint หรือใช้ตัวชี้เลเซอร์และไวท์บอร์ด เพื่อทำให้การประชุมมีความเป็นอินเทอร์แอคทีฟมากขึ้นได้ เป็นการกระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการประชุมมากขึ้น ส่งผลถึงการประชุมมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้จัดประชุมยังสามารถควบคุมการประชุมได้หลายแบบ เช่น ปิดเสียงผู้ฟังทุกคนเพื่อให้ทุกคนฟังก่อนก็ได้ เป็นต้น สำหรับตัวอย่างการใช้งาน Skype Meetings สามารถรับชมได้ที่ Introducing Skype Meetings
ขณะนี้ ผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาที่มีอีเมลธุรกิจและอยู่ในองค์กรที่ยังไม่ได้ใช้ Office 365 สามารถลงทะเบียนเข้าใช้ Skype Meetings ฟรีได้ที่ www.skype.com/meetings โดยภายใน 60 วันแรก ผู้ลงทะเบียนใช้ฟรีจะเรียกประชุมได้ครั้งละ 10 คนและหลังจากนั้นจะเรียกประชุมได้ครั้งละ 3 คน
แต่หากมีการใช้งาน Office 365 ที่มีบริการ Skype for Business อยู่แล้ว ผู้ใช้งานจะสามารถใช้งาน Skype Meetings ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เช่น เรียกประชุมได้มากสุดถึงครั้งละ 250 คน พร้อมทั้งส่งข้อความแชทส่วนตัวถึงใครก็ได้ในองค์กรได้ตลอดเวลา ไม่ใช่เฉพาะระหว่างการประชุมเท่านั้น นอกจากนี้ Skype for Business ยังสามารถใช้ร่วมกับแอป Office 365 อื่นๆ ได้ด้วย เช่น กำหนดเวลาประชุมผ่าน Skype จากปฏิทิน Outlook มองเห็นสถานะของผู้ร่วมประชุมคนอื่นๆ และส่งข้อความแชทส่วนตัวหรือสนทนาทางเสียงหรือวิดีโอจากภายในแอป Outlook, Word หรือ PowerPoint ก็ได้
และเพื่อให้การใช้งาน Skype for Business เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสบผลสำเร็จสูงสุด ไมโครซอฟท์จึงได้จัดทำ Skype Operations Framework (SOF) หรือกรอบการปฏิบัติงานของ Skype ขึ้นมา โดย SOF คือชุดเครื่องมือและคำแนะนำแบบครอบคลุมและครบวงจรที่สุด ช่วยให้การดำเนินการและบริหารการสื่อสารผ่าน Skype for Business เป็นไปอย่างน่าเชื่อถือและคุ้มค่าการลงทุนมากที่สุด โดยเริ่มตั้งแต่การวางแผนการใช้งาน การติดตั้งและปรับใช้งาน การปรับใช้งานทั่วทั้งองค์กร และการดำเนินการ ซึ่งองค์ประกอบหลักในการดำเนินการตามแนวทางของ SOF ให้ประสบผลสำเร็จ คือ
- กรอบการปฏิบัติงาน (Framework) ต้องมีมาตรฐานตั้งแต่การวางแผน การส่งมอบ และการนำ Skype for Business ไปใช้งาน โดยมีคู่มือ เครื่องมือ และแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนใช้ได้จริง
- ความพร้อมใช้งาน (Readiness) ผ่านโปรแกรม Skype Academy ที่มีทั้งการฝึกอบรมและแนะแนวทางการใช้งานให้กับทั้งลูกค้าและคู่ค้าตามสถานการณ์การใช้งานจริง
- ลูกค้า (Customers) และ 4. คู่ค้า (Partners) เป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นการใช้งาน Skype for Business Online โดยภายใน SOF จะมีกระบวนการใช้งานเพื่อช่วยแนะนำลูกค้าและคู่ค้าเกี่ยวกับวิธีใช้เครื่องมือต่างๆ และตอนไหนที่ควรนำเครื่องมือเหล่านั้นไปใช้
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังมีบริการ FastTrack ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยสนับสนุนการใช้งานให้กับลูกค้า โดยช่วยให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนไปใช้ Office 365 ได้อย่างราบรื่นและมั่นใจ ผู้ใช้ Office 365 ทุกคนควรใช้ FastTrack ในการวางแผน ติดตั้ง และนำไปใช้งาน และควรปฏิบัติตาม SOF ตลอดการใช้งาน Skype for Business ไม่เพียงเท่านี้ ไมโครซอฟท์ขอแนะนำให้ใช้บริการอื่นๆ ที่ SOF มีอยู่ด้วย เพื่อมาช่วยในส่วนที่ FastTrack ยังไม่ครอบคลุม เพื่อการใช้งานอย่างต่อเนื่องและงานเฉพาะทางด้านอื่นๆ
ผู้ใช้สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมของ Skype Operations Framework ได้ที่ https://www.skypeoperationsframework.com/ ทางไมโครซอฟท์เองก็มีแผนพัฒนา SOF อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถใหม่ๆ ที่จะมีเพิ่มเติม ตลอดไปจนข้อเสนอพิเศษ กิจกรรม และเครื่องมือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้งาน Skype for Business Online และหากผู้ใช้งานมีข้อเสนอแนะหรือคำติชมใดๆ ที่จะช่วยพัฒนา SOF ให้ตรงกับความต้องการได้ กรุณาส่งข้อคิดเห็นได้ที่ Skype Operation Framework Feedback