ไม่เคยมีคำว่าพอสำหรับความเร็วอินเทอร์เน็ต หากใครเกิดทันสมัยโมเด็ม 56k อาจจะพอนึกภาพออกว่าแค่โหลดภาพหรือไฟล์ไม่กี่กิโลไบต์นั้นต้องรอเป็นเวลาหลายนาที ยิ่งไฟล์ใหญ่ๆ ขนาดเมกะไบต์ขึ้นไปนี่ไม่ต้องพูดถึง รอกันเป็นวันๆ เลยทีเดียว ถึงแม้ปัจจุบันความเร็วของอินเทอร์เน็ตจะเร็วขึ้นเป็น 100 เท่า แต่ยังไงๆ มันก็ไม่เคยให้ความรู้สึกรวดเร็วปรู๊ดปร๊าดทันใจเราเสียเลย แน่นอนว่าคอนเทนต์สมัย 20 ปีที่แล้ว กับตอนนี้มันต่างกันลิบลับ ความต้องการแบนด์วิธจึงไม่เคยเพียงพอเสียที แน่นอนว่าจึงเกิดเทคนิคต่างๆ มากมายเพื่อให้ได้ความเร็วเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสูงสุดเสมอ
เทคนิคที่ว่ามีหลากหลายครับ ทั้งการปรับแต่งค่าริจิสตรี้ของวินโดวส์ และการใช้โปรแกรมประเภทปรับแก้ค่า MTU ให้เหมาะสม ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งวิธีเหล่านี้บ้างก็ได้ผล บ้างก็ไม่เกิดอะไรขึ้น หรืออย่างร้ายแรงสุดก็คือต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้อีกเลย เนื่องจากปรับแก้ค่าไม่ถูกต้อง ก็มีหลายคนประสบกับตัวเองมาแล้ว
Load Balancing วิธีเพิ่มความเร็วที่ได้ผล
อีกเทคนิคหนึ่งที่หลังๆ ค่อนข้างแพร่หลายในหมู่ยูซเซอร์ตามบ้านมากขึ้น ก็คือเทคนิคที่เรียกว่าโหลด บาลานซิ่ง เทคนิคนี้คือการนำสายสัญญาณอินเทอร์เน็ตมากกว่า 1 เส้น (ส่วนใหญ่จะทำกัน 2 เส้น) มาช่วยกันรับส่งข้อมูล ผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่า Load balancing ซึ่งสามารถกำหนดได้ว่า จะให้ทำงานแบบแบ็กอัพ หรือ จะให้ทำงานแบบเพิ่มความเร็ว เหตุที่เป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะอุปกรณ์ที่ใช้ทำ Load Balancing นี้ มีราคาถูกลง (แต่ก็ยังแพงกว่าเราเตอร์ทั่วไปอยู่ดี) พอที่จะซื้อหามาใช้ตามบ้านหรือร้านอินเทอร์เน็ตได้ รวมทั้งยังมีซอฟต์แวร์ที่ใช้พื้นฐานของลินุกซ์เซิร์ฟเวอร์มาปรับแต่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ธรรมดาๆ กลายเป็น Load Balancing ได้ด้วย เช่น PFSense เป็นต้น ก็ถือว่าเป็นทางเลือกแบบประหยัดงบอีกทางหนึ่ง
แต่ไม่ว่าจะใช้แบบไหนก็จะเห็นว่า ต้องมีการลงทุน (ซื้อเราเตอร์ที่มีความสามารถ Load Balancing) และมีความรู้ทางด้านเน็ตเวิร์ก (PFSense) มากพอสมควร ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับยูซเซอร์อีกหลายๆ ท่านที่ต้องการเพิ่มความเร็วเน็ตที่บ้านให้ตนเอง
วิธีดับเบิ้ลความเร็วอินเทอร์เน็ตแบบ PCToday
แน่นอนว่า PCToday ทั้งที คงต้องนำเสนอวิธีที่หลายๆ คนควรจะทำตามได้ ไม่ยากจนเกินไป และให้ผลดีพอสมควร สำหรับวันนี้ผมมีเทคนิค 2 แบบมานำเสนอ สำหรับใครที่อยากเพิ่มความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ใช้ที่บ้าน โดย สมมติว่าที่บ้านของท่านมี…
- สายสัญญาณ ADSL 2 เส้น อาจมาจากผู้ให้บริการเจ้าเดียวกัน หรือ คนละเจ้าก็ได้ หรือ
- มีสายสัญญาณ ADSL 1 เส้น และมี 3G โมเด็มเราเตอร์ 1 ตัว หรือ
- มีสายสัญญาณ ADSL 1 เส้น และมีจุดให้บริการ WiFi ที่ท่านมีสิทธิ์ใช้อยู่ใกล้ๆ อีก 1 จุด หรือ
- ไม่มีสายสัญญาณ ADSL เลย แต่ใช้ 3G โมเด็มเราเตอร์อยู่ แถมยังมี WiFi อยู่ใกล้เคียงให้ใช้งานได้อีกด้วย (อะไรจะโชคดีปานนั้น)
ไม่ว่าบ้านของท่านจะมีแบบไหน ประเด็นหลักก็คือ ท่านต้องมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่แยกกันชัดเจนครับ (ถ้ามีแค่เส้นเดียว ก็ไม่รู้จะไปเพิ่มความเร็วยังไงเหมือนกัน) และสายอินเทอร์เน็ตทั้ง 2 เส้นไม่จำเป็นต้องความเร็วเท่ากันก็ได้
อุปกรณ์ที่จำเป็น
เครื่องพีซีหรือโน้ตบุ๊กที่ติดตั้งวินโดวส์เซเว่นเท่านั้นครับ วินโดวส์ที่เวอร์ชั่นต่ำกว่านี้ทำไม่ได้ การ์ดแลน 2 แบบ ซึ่งอาจเป็นแลนแบบมีสาย หรือ ไร้สายทั้งคู่ หรือใช้ผสมกันก็ได้ เช่น เครื่องพีซีมีพอร์ตแลนอยู่แล้ว ก็อาจติดตั้งยูเอสบีไวร์เลสอะแดปเตอร์เพิ่มอีกตัว เป็นต้น
ข้อจำกัดของเทคนิคที่ควรรู้ไว้
สำหรับเทคนิคที่ผมจะนำเสนอต่อไปนี้ ขอทำความเข้าใจก่อนครับว่า มันจะช่วยเพิ่มความเร็วให้ท่านเฉพาะตอนที่ท่านดาวน์โหลดข้อมูลในลักษณะที่สามารถกระจายแพ็กเกจดาวน์โหลดได้พร้อมๆ กัน พูดง่ายๆ ก็คือ การโหลดบิตทอเรนท์ P2P ต่างๆ รวมทั้งโหลดไฟล์ที่ใช้โปรแกรมแบ่งโหลดเช่น Orbit , Flashget จะได้ประโยชน์จากเทคนิคนี้ แต่การเปิดเว็บทั่วไป เช็คอีเมล์ ใช้เฟซบุ๊ก จะไม่ได้รับความเร็วเพิ่มขึ้นแต่อย่างใดนะครับ
เตรียมตัวก่อนเริ่มลงมือ
ก่อนจะเริ่มเบิ้ลความเร็วกัน เราควรจะเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้เรียบร้อยกันก่อนนะครับ ผมคงขอไม่อธิบายขั้นตอนนี้ละกัน เพราะคิดว่าหลายท่านน่าจะทำกันได้อยู่แล้ว เพราะเป็นแค่การเชื่อมต่อธรรมดาๆ เท่านั้น อย่างในตัวอย่างประกอบบทความนี้ ผมใช้โน้ตบุ๊กโดยพอร์ตแลนใช้ต่อเข้ากับ ADSL ของทรูความเร็ว 10Mbps (แน่นอนว่าผ่านโมเด็ม) และใช้ไวร์เลสเชื่อมสัญญาณเข้ากับ 3G โมเด็มเราเตอร์ ซึ่งใส่ซิม 3G ของ i-Mobile 3GX อีกที ซึ่งมีความเร็ว 3Mbps และเมื่อเชื่อมต่อเรียบร้อย จะต้องได้ภาพของ Network and Sharing Center ดังภาพ
ให้สังเกตนะครับว่า ทุกคอนเน็กชั่นต้องต่ออินเทอร์เน็ตได้ (ที่วงกลมสีแดงไว้) ตามภาพนี้ หลายท่านอาจบอกว่า อ้าว ถ้าต่อได้แบบนี้ ก็แสดงว่าความเร็วอินเทอร์เน็ตมันเป็นดับเบิ้ลแล้วสิ ยังครับ ยัง วิธีตรวจสอบก็คือ ให้เราใช้วิดเก็จบนวินโดวส์เซเว่นที่ชื่อว่า Network meter ครับ ดาวน์โหลดได้ที่ https://addgadget.com/network_meter/ ดาวน์โหลดมาติดตั้งให้เรียบร้อย แล้วเรียกขึ้นมา 2 หน้าต่าง โดยปรับค่าของแต่ละอันให้เรียกดูสัญญาณของการ์ดแลนคนละตัว ดังภาพ
กำหนดค่าทั้ง 2 ช่องคือ Network Interface for Internal IP และ Network Interface for Speed ให้ตรงกัน ด้วยวิดเก็จตัวนี้ เราจะสามารถดูความเร็วของการ์ดแลนและไวร์เลสทั้งหมดที่เชื่อมต่ออยู่ได้ครับ
สังเกตว่า ตอนนี้จะมีแค่การ์ดใบใดใบหนึ่ง รับส่งข้อมูลปริมาณมากๆ อยู่ ขณะที่อีกใบไม่ค่อยมีการรับส่งข้อมูลเท่าใดนัก ซึ่งแสดงว่าตอนนี้อินเทอร์เน็ตทั้ง 2 เส้น ยังไม่ทำงานร่วมกันนั่นเอง