การต่อสู้ระหว่างการ์ดจอค่ายแดงกับค่ายเขียวยังดำเนินต่อไป และดูท่าว่าจะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในสังเวียนระดับเฮฟวี่เวต ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ AMD ได้เปิดตัวการ์ดจอ Dual-GPU Radeon R9 295X2 ไปแล้ว ทาง Nvidia เองก็มีอาวุธหนักอย่าง Titan Z เตรียมไว้อยู่เช่นกัน วันนี้เราจะไปดูกันว่าใครจะอยู่ใครจะไปในตลาดการ์ดจอระดับอภิมหาพรีเมี่ยม
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน PCToday ทุกท่าน ช่วงนี้บ้านเราเริ่มฝนตกถี่ขึ้นเรื่อยๆ ก็คงจะเรียกได้ว่าใกล้เข้าหน้าฝนแล้วกระมัง แต่ทางฝรั่งหลายๆ ประเทศเค้าถือว่าเข้าช่วงซัมเมอร์ครับ ก็ตามประเพณีการขายคือพอถึงหน้าเทศกาลหรือฤดูกาลเปลี่ยนก็จะมีการเซลล์/ลดราคาสินค้ากัน ถ้าเป็นสมัยก่อนเราคงไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรกับเค้าเพราะระยะทางไกลกันเหลือเกิน แต่ในยุคไอทีแบบนี้ตลาดมันเชื่อมถึงกันหมดด้วยอินเทอร์เน็ต สามารถช็อปปิ้งจากหน้าคอมพ์ได้สบายๆ
หนึ่งในสินค้าที่ลดราคาและน่าซื้อมากๆ คือเกมส์ครับ บรรดาร้านค้าออนไลน์ต่างพากันลดราคาเกมส์กันแบบถล่มทลาย เกมส์บิ๊กเนมก็มีการเอามาแจกกันฟรีๆ ด้วย อย่างช่วงเดือน 2 เดือนที่ผ่านมา Origin แจกทั้ง Dead Space, Battlefield 3 และ Plants vs. Zombies GoTY ฝั่ง Steam ก็แจก Sniper Elite V2 นี่ยังไม่นับเกมส์อินดี้และ MMO อีกนับไม่ถ้วน
เกมส์และการ์ดจอ…เพราะเรานั้นคู่กัน
เกมส์จำนวนไม่น้อยนั้นต้องการฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสมถึงจะเล่นได้สนุกไม่เสียอารมณ์ เกมส์พีซีนั้นขึ้นชื่อมาแต่ไหนแต่ไรว่ามีกราฟิกที่สวยกว่าคอนโซล แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าฮาร์ดแวร์ที่สูงปรี๊ดและมีทีท่าว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ หากดูจากเกมส์ใหม่ๆ อย่าง Wolfenstien: The New Order นั้นต้องการแรมขั้นต่ำ 3GB วินโดวส์ 64-bit และพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ประมาณ 50GB Titanfall นั้นก็ไม่แพ้กันคือต้องการแรม 4GB วินโดวส์ 64-bit และ HDD 48GB
แค่ Texture High กับ AA 4x แรมการ์ดจอ 3GB ก็ตันแล้ว
ล่าสุดจริงๆ คือ Watch Dogs ซึ่งตั้งสเปกแรมขั้นต่ำไว้ 6GB และถ้าต้องการเล่นด้วย Texture แบบ Ultra การ์ดจอต้องมีแรม 3GB ขึ้นไป ครับ…เรารู้กันว่าสเปกนั้นเค้าตั้งไว้เป็นเกณฑ์คร่าวๆ เฉย อย่างแรมนั้นถ้าบอก 3-4GB จริงๆ 2GB ก็เอาอยู่ Watch Dogs นั้นแรม 4GB ก็พอไปไหว แต่เรื่อง Texture แบบ Ultra นี่ยังไงก็ต้องมีแรมการ์ดจอ 3GB ครับ Watch Dogs นั้นเป็นตัวอย่างของเกมส์ในอนาคตซึ่งต้องการแรมทั้งของระบบและการ์ดจอเพื่อรองรับกราฟิกที่สูงขึ้น
ณ วันนี้คอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PS4 และ Xbox One ได้เปรียบกว่าพีซีเพราะแรมของเค้าเป็น GDDR5 ซึ่งแชร์กันระหว่างระบบและกราฟิก ต่างจากพีซีซึ่งแรมระบบกับแรมการ์ดจอนั้นแยกกัน ช่วงที่เปิดตัวสเปก PS4/Xbox One มีคนจำนวนไม่น้อยโวยว่าจะเอา GDDR5 ไปทำไมตั้ง 8GB…ผมว่า Watch Dogs ตอบคำถามนั้นแล้ว และเกมส์ใหม่ๆ ก็มีลักษณะนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
แล้วคนเล่นพีซีจะทำไง
โดยส่วนตัวผมว่ามาตรฐานจำนวนแรมการ์ดจอคงต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่เพียงเพราะว่าเกมส์มีรายละเอียดมากขึ้นแต่เทคโนโลยีหน้าจอเองก็พัฒนาขึ้นยิ่งในเรื่องความละเอียด เมื่อซัก 3-4 ปีก่อนแรมการ์ดจอ 1GB เป็นเรื่องปกติ 2GB ถือว่าเกินพอสำหรับระดับ 1080p แต่ต่อไปจะเป็นยุค 4K แรมการ์ดจอ 2GB ต้องถือว่าเป็นขั้นต่ำแล้ว การเลือกซื้อการ์ดจอจากนี้ไปควรเลือกที่มีแรม 3-4GB เป็นอย่างน้อย
เรื่องปริมาณแรมนั้นการ์ดจอระดับ High-end อาจดูเหมือนไม่มีปัญหาเพราะส่วนใหญ่ก็มีแรม 3-6GB อยู่แล้ว แต่ต้องไม่ลืมนะครับว่าการ์ดจอระดับนั้นส่วนใหญ่ใช้เล่นที่ความละเอียดเหนือกว่าคนธรรมดาทั่วๆ ไป เช่น 1440p หรือ 4K (ในขณะที่คนส่วนใหญ่เล่นที่ 1080p) แรมการ์ดจอ 4GB นั้นสามารถรองรับการเล่นเกมส์ที่ระดับ 4K ได้สบาย แต่ก็มีโอกาสช้าหรือกระตุกได้เหมือนกันหากอัด AA เข้าไปด้วย
GeForce GTX Titan Z คำตอบสำหรับคนที่ถวิลหาพลัง
สำหรับเกมเมอร์ฮาร์ดคอร์ความท้าทายจะยิ่งสูงขึ้นเมื่อมีการทำ Multi-monitor ร่วมด้วย ลองนึกถึงการเล่นเกมส์ด้วยจอ 1440p 3 จอหรือที่ความละเอียด 7680×1440 พิกเซลดูสิครับ นี่เป็นความละเอียดระดับเดียวกับเทรนด์ล่าสุดที่กำลังมาคือความละเอียดระดับ 5K หรือ 5120×2160 พิกเซล ซึ่งตามข่าวบอกว่าอุตสาหกรรมทีวีและหนังเตรียมที่จะหันมาใช้ 5K กันไม่น้อย
การทำ Multi-monitor และความละเอียดระดับ 4K ขึ้นไปเป็นตัวอย่างของสถานการณ์ที่แม้แต่การ์ดจออย่าง GeForce GTX Titan Black หรือ Radeon R9 290X ก็เอาไม่อยู่…คำตอบของสถานการณ์เช่นนี้คือถ้าไม่ทำ Crossfire/SLI ก็ต้องหาการ์ดจอใหม่ที่แรงกว่า ทรงพลังกว่า ฝั่ง AMD นั้นให้คำตอบมาแล้วคือ Radeon R9 295X2 ซึ่งเค้าโฆษณาว่าเป็น “การ์ดจอที่เร็วที่สุดในโลก” ส่วน Nvidia มี GeForce GTX Titan Z เป็นหัวหอก
สงคราม Dual-GPU อยู่ที่ความพร้อม
ทั้ง R9 295X2 และ Titan Z ต่างก็เป็นการ์ดจอแบบ Dual-GPU โดย R9 295X2 นั้นเป็นการเอาชิป R9 290X 2 ตัวมาใส่ใน PCB เดียวกัน ส่วน Titan Z นั้นเป็นการเอาชิป GK110 ตัวเต็ม (ที่ใช้ใน 780 Ti และ Titan Black) 2 ตัวมาไว้ใน PCB เดียวเช่นกัน Titan Z นั้นใช้ Titan Black เป็นพื้นฐาน สังเกตได้จากจำนวนแรม (2x6GB) ตรงแรมนี้ Titan Z ได้เปรียบ R9 295X2 อยู่พอสมควร (12GB vs. 8GB) แต่กูรูหลายคนก็ตั้งคำถามว่าจะมีกี่สถานการณ์ที่แรม 12GB มีประโยชน์
นอกจากนี้ดูเหมือนว่ากว่า Nvidia จะเข็น Titan Z ออกมาได้ก็ยากลำบากเหลือเกิน ข่าวเกี่ยวกับ Dual-GPU ของทั้ง 2 ค่ายนั้นลอยๆ มาตั้งแต่ปีที่แล้ว พอย่างเข้าเดือนมีนาคมทุกอย่างก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นโดยทั้ง AMD และ Nvidia ต่างก็เตรียมเปิดตัวการ์ด Dual-GPU อย่างเป็นทางการ โดยเป็น Titan Z ที่เปิดตัวก่อนในช่วงปลายเดือนมีนาคม ส่วน R9 295X2 เปิดตัวช่วงต้นเดือนเมษายน ดูจากตรงนี้เหมือน Nvidia จะพร้อมกว่า AMD
แต่เอาเข้าจริงๆ Nvidia ต้องเลื่อนการวางขาย Titan Z ไปเรื่อยๆ จนมาจบที่ปลายเดือนพฤษภาฯ แต่ถึงตอนนี้ก็ยังนับว่าเป็นไอเท็มหายาก ในขณะที่ในวันแรกๆ นั้น R9 295X2 แม้จะหาไม่ง่ายนักแต่ก็ยังพอหาได้ ถึงตอนนี้ก็มีขายทั่วไปแล้ว นอกจากความพร้อมแล้วราคาก็เป็นอีกประเด็นที่ Nvidia โดนโจมตีไม่น้อย AMD ตั้งราคา R9 295X2 ไว้ที่ 1,499 เหรียญ แต่ Nvidia ตั้งราคา Titan Z ไว้ถึง 2,999 เหรียญ หรือมากกว่า R9 295X2 เท่าตัว