กล้องหลังแจ่ม…กล้องหน้าพอทน
กล้องหลัง 8MP ของ Note Pro นั้นโดยส่วนตัวผมว่าพอๆ กับ Note 10.1 (2014) คือภาพคม (แต่อย่าซูมเยอะ) สีไม่เพี้ยน ถ่ายในที่แสงน้อยพอได้ (แต่แฟลชไม่ช่วยอะไรมาก) ซอพแวร์ก็ถือเป็นทีเด็ดของ Samsung เพราะลูกเล่นเพียบทั้งปรับตั้งค่าทั้งเอ็ฟเฟ็ค ถ่ายวิดีโอ 1080p ก็เก็บรายละเอียดดีทีเดียว แต่กล้องหน้าถึงจะบอกว่า 2MP แต่ไม่ชัดเท่าไหร่ ถ้าเอาไว้ถ่าย Selfie คงพอไหวครับ
หน้าจอ (almost) Best in Class
หลายคนอาจจะผิดหวังที่ Note Pro ไม่ได้ใช้หน้าจอ AMOLED แต่เป็น Super Clear TFT LCD กระนั้นบอกได้เลยว่าคุณภาพที่ออกมานั้นไม่แพ้กันเลย หน้าจอนั้นแสดงสีออกมาได้ค่อนข้างตรงและแม่นยำ ความสว่างเฉลี่ยอยู่ที่ 373.6 cd/m2 ซึ่งถือว่าเป็นรองแค่ iPad Air เท่านั้น การใช้งานกลางแจ้งไม่เป็นปัญหา ทว่าในส่วนของมุมมองนั้นแท็บเล็ตที่ใช้จอ IPS อย่าง iPad Air และ Surface Pro 2 ทำได้ดีกว่า
สำหรับคนที่ชอบตัวเลขอาจจะไม่ประทับใจกับความละเอียดระดับ WQXGA เพราะนั่นหมายถึงจำนวนพิกเซลต่อพื้นที่ที่น้อยลงเมื่อเทียบกับ Note 10.1 (2014)(247ppi ต่อ 299ppi) หรือ iPad Air (264ppi) แต่ในการใช้งานจริงมันยากที่จะสังเกตครับ ระบบทัชนั้นน่าพอใจเพราะนอกจากรองรับทัช 10 จุดแล้วยังใช้งานกับ S Pen ได้อย่างไม่มีที่ติ
ซอฟต์แวร์ของ Samsung ใช้ประโยชน์จากพื้นที่หน้าจออย่างเต็มที่ โดยเฉพาะฟีเจอร์เด็ดอย่าง Multi-Window ซึ่งสามารถแสดงและใช้งานแอพฯ ได้พร้อมๆ กันถึง 4 ตัว นอกจากนี้ขนาดของหน้าจอและลำโพงสเตอริโอยังเหมาะสำหรับการเล่นเกมส์ (โดยเฉพาะแนววางแผน) และดูหนัง/วิดีโอ (ความละเอียดสูงๆ) อีกด้วย
ซอฟต์แวร์จัดหนัก (ไปมั้ย)
แน่นอนว่า Note Pro ต้องมาพร้อม Android 4.4.2 KitKat แต่เรื่องซอพแวร์ก็เป็นประเด็นที่หลายฝ่ายถกเถียงกันครับ อุปกรณ์ Android ของ Samsung นั้นมาพร้อม UI และซอพแวร์ของ Samsung เองซึ่งจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าไม่ติดเรื่องปริมาณ ทาง Samsung เองก็เคยออกมายอมรับนะครับว่าเค้าไม่เก่งเรื่องซอพแวร์เหมือนที่ทำฮาร์ดแวร์…แต่ก็พยายามปรับปรุงอยู่
ในเมื่อคุณภาพไม่ได้ก็ต้องเอาปริมาณเข้าว่า นั่นจึงเป็นที่มาของซอพแวร์จำนวนมากในอุปกรณ์ Galaxy ซึ่งบางคนเรียกว่าเป็น Bloatware ใน Note Pro ตัว OS ก็ใช้ไปแล้วประมาณ 6GB ส่วนแอพฯ ที่ติดตั้งมาให้ก็ปาเข้าไปอีกราวๆ 1.5GB ซึ่งก็แปลว่าเมื่อเราซื้อ Note Pro มาจะเหลือพื้นที่ใช้งานจริงประมาณ 22.3/52.1GB (32GB=29.8GiB, 64GB=59.6GiB ถ้างงลองหา GB vs. GiB อ่านดูครับ)
ว่าถึง UI แบบใหม่เสียหน่อย Note Pro นั้นยังคงใช้ TouchWiz อยู่แต่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น และเพิ่ม Magazine UX ซึ่งเป็น UI ที่รูปร่างหน้าตาคล้ายกับแอพฯ Flipboard เข้าไป
เมนู Notification ก็ทำเสียใหม่ซึ่งนอกจากสวยขึ้นแล้วยังใช้งานได้ดีขึ้นS-Pen ก็ยังมาพร้อมฟีเจอร์เด็ดอย่าง Air Command และ Air view ในจำนวนซอพแวร์ที่ให้มามากมายนั้นก็มีไม่น้อยที่สมควรปรบมือให้ เช่น e-Meeting, Remote PC, WebEx Meeting, Hancom Office จะเห็นว่าโดยมากเป็นแอพฯ ที่เน้นทำงานหรือใช้ทางธุรกิจ