เปิดตัวในประเทศไทยกันไปสดๆ ร้อนๆ นับเป็นประเทศที่ 2 หลังจากที่ได้เปิดตัวในจีน กับมือถือรุ่นเล็ก เน้นประหยัด แต่ให้สเปคแบบจัดเต็มๆ มาก ที่สำคัญคือไม่ล็อคซิมเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ซะด้วย
สเปคเยี่ยมแบตอึดเล่นเกมได้ทั้งวัน
Xiaomi Redmi 7A มาพร้อมหน้าจอ 5.45″ อัตราส่วน 18:9 ความละเอียด HD+ (1440×720) ไม่มีติ่ง ไม่มีรู แต่ขอบบนล่างจะใหญ่หน่อย ซีพียู SnapDragon 439 Octa-Core ความเร็ว 2.0GHz. ที่ใช้สถาปัตยกรรมของ Arm Cortex-A53 มาพร้อมหน่วยความจำ RAM 2GB และ ROM และ Android 9 Pie ที่ครอบด้วย MiUi 10 ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 ขนาดคือ 16GB และ 32 GB ซึ่งสามารถใส่ MicroSD การ์ดเพิ่มได้ แบตเตอรี่ที่ให้มาขนาด 4,000 mAh ใช้งานได้ทั้งวัน และยังสามารถใช้ฟังวิทยุ(หรืออัดเสียงจากวิทยุได้) โดยไม่ต้องเสียบหูฟังเวลาใช้งาน
กล้องชัด ปลดล็อคด้วยใบหน้า
บอกก่อนว่ารุ่นนี้ไม่มีแสกนนิ้วมือมาให้ แต่สามารถปลดล็อคได้ด้วยกล้อง AI ด้านหน้า แค่ยกขึ้นมาส่องก็ปลดล็อคได้ทันที ตัวกล้องเป็นเลนส์เดี่ยวทั้งหน้า และหลัง กล้องหน้า 5MP f2.2 กล้องหลัง 12MP f2.2 เช่นกัน ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX486
มีให้เลือก 5 สี 2 สเปค
Xiaomi Redmi 7A มีให้เลือก 2 ขนาดความจุคือ 16GB และ 32 GB โดยรุ่น 16GB จะมามีสีให้เลือกแค่ 2 สี Matte Blue, และ Matte Black สนนราคาที่ 2,999 บาท
ส่วนรุ่น 32GB จะมีให้เลือก 3 สี Matte Black , Gem Blue และ Gem Red สีก็จะแหล่มกว่าหน่อย สนนราคาที่ 3,399 บาท
ทั้ง 2 รุ่นเปิดจองแล้ววันนี่ ถึง 10 กรกฏาคมนี้ ที่ Lazmall ของ Xiaomi ใน Lazada และจะขายจริงวันที่ 12 กรกฏาคม นี้
Promotion Lazada
เฉพาะผู้ที่สั่งจองเท่านั้น จะได้รับ MemoryCard ขนาด 32GB ฟรี!!! และถ้าจองตอนหกโมงของทุกวัน จะแจกนาฬิกาวัดชีพจร Mi Band 3 ให้วันละ 10 เรือนฟรี
ฟันธง : คุ้มที่สุดในราคานี้
โดยรวมแล้วเป็นมือถือรุ่นล่างๆ ราคาไม่แพงสเปคไม่สูงมากแต่ก็น่าจะคุ้มที่สุดในตลาดแล้วมั้ง เพราะได้ซีพียูตัวใหม่ที่ราคาระดับนี้ยังไม่มีให้เห็น แรมน้อยไปนิดแค่ 2GB อาจจะเล่นเกมได้ไม่ดี รอม 16GB/32GB ไม่ใช่ปัญหาใส่เมมเพิ่มได้ ดีไซน์ส่วนตัวคิดว่าไม่โดนเพราะดูเก่าไปหน่อย จอไม่เต็มขอบเดี่ยวนี้หายากละ แต่สี Gem Blue และ Gem Red สวยมากจริงๆ กล้องไม่ใช่เลนคู่ แต่ใช้ IMX486 ถ่ายออกมาสวยอยู่มี AI ให้ด้วย โดยรวมแล้วถ้าอยากได้มือถือราคาถูกๆ ตัวนี้เรียกว่าคุ้มสุดแหละ ตามสไตล์ของ Xiaomi แต่ถ้ามีงบอีกซักหน่อยไปรุ่นที่สูงกว่า อย่าง Redmi Note 7 ก็จะได้ทั้งสเปคและลูกเล่นที่มากขึ้นอีกพอสมควร