WD® บริษัทในเครือของเวสเทิร์น ดิจิตอล และครองตำแหน่งผู้นำระดับโลกด้านอุตสาหกรรมการจัดเก็บข้อมูล ได้ทำการสาธิตฮาร์ดดิสก์แบบไฮบริดความจุ 4 TB ที่ทำงานรวดเร็วที่สุดในโลกที่บูธ SATA-IO (#205) ในงาน Storage Visions 2015 ซึ่งจัดให้มีในวันที่ 4 ถึง 5 มกราคมที่ผ่านมา ในเมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา โดยฮาร์ดดิสก์ต้นแบบของ WD รุ่นนี้ใช้อินเทอร์เฟส SATA Express PCI-e เป็นฮาร์ดดิสก์ลูกผสมขนาด 3.5 นิ้ว ความจุ 4 TB กับโซลิดสเตทไดรฟ์ที่ระดับความจุสูงสุด 128 GB เพื่อมอบประสิทธิภาพในระดับเหนือชั้น และโซลูชันที่คุ้มค่าสมราคาเมื่อเทียบกิกะไบต์ต่อดอลลาร์สำหรับการใช้งานบนเครื่องเดสก์ท็อปและการเล่นเกม
การสาธิตอินเทอร์เฟส WD SATA Express สองรอบที่งาน Storage Visions 2015 ประกอบด้วยการโชว์เมนบอร์ดที่พร้อมวางจำหน่ายจาก ASRock และ Gigabyte ซึ่งเป็นพันธมิตรของ WD โดยระบบเหล่านี้จะแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อระหว่างกันตามมาตรฐาน SATA Express PCI-e แบบใช้สาย และตัวเลือกในการกำหนดค่าคอนฟิกสำหรับการแคชแบบวอลุ่มเดียว และเทคโนโลยี RAID
การใช้งานบนเดสก์ท็อปแบบหนักหน่วงจะได้รับประโยชน์จากขนาดของแคชที่ใหญ่ขึ้น (จะมีการสาธิตในขนาดความจุ 64 GB) ด้วยการเก็บรักษาข้อมูลหลักที่มีการเข้าถึงบ่อยที่สุดผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม โดยทั้งนี้ ในห้องปฏิบัติการของ WD ฮาร์ดดิสก์ SATA Express ความจุ 4 TB พร้อมแคชขนาด 64 GB ทำคะแนนได้ 4,459 คะแนนตามเกณฑ์มาตรฐาน PCMark8 อันเป็นการแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับโซลิดสเตทไดรฟ์ที่ระดับมูลค่าที่เหมาะสมเมื่อเทียบกิกะไบต์ต่อดอลลาร์
ข้อมูลตามเกณฑ์มาตรฐาน PCMark8 ที่รวบรวมจากแพลตฟอร์ม Asus Z97-A, core i5 3.4GHz, 16GB DRAM
การคำนวณ GB/$ จากการสุ่มตัวอย่างราคาค้าปลีก ณ วันที่ 14 ธันวาคม
แมท รูทเทิลเลดจ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลของ WD กล่าวว่า “WD มุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับแวดวงอุตสาหกรรมนี้ เพื่อผลักดันให้เกิดขอบเขตที่กว้างไกลในสิ่งที่คุณคาดหวังว่าจะได้รับจากฮาร์ดดิสก์แบบดั้งเดิม และด้วยการเขยิบขึ้นไปสู่มาตรฐานการเชื่อมต่อแบบ PCI Express อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์จึงได้จับคู่ระบบบัสจัดเก็บข้อมูลซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดในโลกเข้ากับระบบบัสบนคอมพิวเตอร์ยอดนิยมมากที่สุดของโลก ซึ่งการจับคู่กันนี้เป็นการปูทางไปสู่การเติบโตที่แข็งแกร่ง เพื่อสร้างสรรค์ศักยภาพใหม่ๆ พร้อมกับการรักษาไว้ซึ่งความสามารถในการผลักดันฮาร์ดดิสก์มาตรฐาน SATA แบบเก่าเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ทำงานภายใต้มาตรฐาน SATA Express แบบใหม่”
ด้านแกรี่ ไมสเตอร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมของ WD แสดงความเห็นว่า “วัฒนธรรมของ WD คือหนึ่งในความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับพันธมิตรอุตสาหกรรมในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว” และเสริมว่า “เรามองเห็นถึงอุตสาหกรรมที่กำลังเขยิบไปสู่การออกแบบระบบย่อยโดยรวมของเครื่องพีซีให้ง่ายขึ้นในรูปของระบบบัสจัดเก็บข้อมูลแบบเดี่ยวผ่านโปรโตคอล PCIe โดยในการสาธิตครั้งนี้ เราได้วางให้ฮาร์ดดิสก์ หน่วยความจำแฟลชชนิด NAND และเทคโนโลยี SATAe รวมกันเป็นแพคเกจเดียว จึงเป็นการเพิ่มพื้นที่ว่างหนึ่งสล็อตในระบบ และลดความยุ่งยากในส่วนของวิธีการที่ลูกค้าของเราต้องใช้เพื่อสร้างและรักษาระบบจัดเก็บข้อมูลขั้นสูงดังกล่าวนี้ไว้ และเมื่อลูกค้าของเราขอให้เราเลื่อนขั้นไปสู่ระบบบัสจัดเก็บข้อมูลที่สูงขึ้น เราก็จะลงมือทำงานทุกสิ่งทุกอย่างที่จำเป็น เพื่อให้พร้อมสำหรับการสนับสนุนความเคลื่อนไหวนี้”
เจมส์ ลี รองประธานฝ่ายขายและการตลาดของ ASRock กล่าวว่า “ASRock ภูมิใจที่ได้นำเสนอความเร็วในการทำงานเกือบ 10 Gbit ต่อวินาที เมื่อเทคโนโลยี RAID ได้กระจายข้อมูลของฮาร์ดดิสก์ต้นแบบของ WD สองยูนิต และเสริมว่า “ ASRock อยู่แถวหน้าในการสร้างสรรค์ระบบและสถาปัตยกรรมแบบใหม่ที่จะฝ่าฟันให้พ้นจากปัญหาคอขวดแบบเดิมๆ”
ขณะที่แจ็คสัน ซิ่ว ผู้จัดการฝ่ายการวางแผนผลิตภัณฑ์ของ Gigabyte แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า “การสาธิตของ Gigabyte จะแสดงให้เห็นว่าฮาร์ดดิสก์ SATAe ต้นแบบของ WD จะสร้างประสบการณ์ในการเล่นเกมระดับเวิลด์คลาสได้อย่างไร” และเพิ่มเติมว่า “และที่นำมารวมอยู่ในการสาธิตของเราก็คือ งานที่เราได้ทำร่วมกับ WD เพื่อสร้างการผสมผสานระหว่างฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์กับระบบย่อยแบบแฟลชให้ดูเหมือนเป็นวอลุ่มเดียวสำหรับผู้ใช้ จึงเป็นการเพิ่มขุมพลังของการมีอุปกรณ์หลายตัวที่แยกต่างหากในหนึ่งระบบ และความสะดวกในการมีไดรฟ์เดียวที่จะต้องจัดการ”