Vivaldi คือบราวเซอร์ใหม่ล่าสุด จากทีมพัฒนาพัฒนา Opera เก่าที่แยกตัวออกมา โดย Vivaldi จะเน้นให้เป็นบราวเซอร์ที่ใช้ง่าย เปิดเว็บรวดเร็ว กินทรัพยากรน้อย ใช้กับเครื่องได้ทุกสเปก ปัจจุบัน Vivaldi ยังอยู่ในรุ่น Beta 2 ซึ่งหมายความว่ายังไม่ใช่ตัวสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เราก็สามารถไปโหลดมาลองกันได้ครับที่ vivaldi.com
หน้าตาและอินเทอร์เฟซ
แนวคิดของ Vivaldi คือความเรียบง่าย น้อยได้มาก มินิมัลลิสต์ถูกใจฮิปสเตอร์ แต่ในความเรียบง่าย ก็ต้องมีฟังก์ชั่นที่ครบถ้วนตามมาตรฐานที่บราวเซอร์ปัจจุบันควรจะมี อ้อ จุดขายอีกข้อหนึ่งของ Vivaldi ก็คือ ภายในกรอบทั้งหมดนี้เราสามารถปรับแต่งเปลี่ยนแปลงได้ (เกือบ) ทุกอย่าง หรือที่เรียกว่า Customization นั่นเอง
เมื่อเปิด Vivaldi ครั้งแรก ก็พบกับความเรียบง่าย ด้านบนคือแท็บเปิดเว็บ ซึ่งจะเปิดซ้อนไปเรื่อยๆ มีลูกเล่นเล็กน้อยก็คือ สีตรงแท็บและบาร์ด้านบนจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามโทนสีของเว็บที่เปิดครับ เช่น เปิดเฟซบุ๊กก็จะเป็นสีน้ำเงิน เปิดยูทูปก็จะเป็นสีแดง เป็นต้น เข้าใจว่าตัว Vivaldi อ่านค่าสีจากโลโก้ Favicon แล้วเปลี่ยนตาม ถัดมาเป็น URL Bar ตรงกลางคือพื้นที่แสดงเว็บไซต์ โดยครั้งแรกจะแสดง Speed Dial หรือบุ๊กมาร์กด่วนที่เราใช้เข้าเว็บบ่อยๆ ล่างสุดของหน้าต่างคือสเตตัสบาร์ มีคอนโทรลตั้งต้นมาให้ 2 อันคือ ซูมเว็บกับเลือกเปิดปิดรูปภาพที่แสดงในเว็บ
โดยรวมแล้วหน้าตาดูเรียบง่ายดีครับ เวอร์ชั่นเบต้านี้ยังไม่มีธีมให้เลือกใช้เหมือนอย่างพวก Chrome และ Firefox แต่โดยส่วนตัวผมชอบสีพื้นๆ แบบนี้ ถ้าใส่ลายแบ็กกราวด์ลงไปแล้วมันลายตาไปหน่อย
Speed Dial
คือหน้าที่รวบรวมเว็บที่เข้าบ่อย จริงๆ แล้วก็ไม่ต่างกับบุ๊กมาร์กครับ แค่ว่าถ้าเราจับเว็บที่เข้าบ่อยมาใส่ใน Speed Dial มันก็จะดูเรียงสวยงามดีกว่า เราสามารถสร้างโฟลเดอร์สำหรับแยกหมวดหมู่เว็บได้ด้วย โดยการกดที่ปุ่ม + แล้วก็สามารถเปลี่ยนภาพพื้นหลังเป็นภาพอะไรก็ได้นะครับ ที่ Settings และถ้าจะสลับไปดู Bookmark กับ History ก็คลิกที่เมนูใกล้ๆ กันได้เลย
Panel
Vivaldi จะมีพาเนลซึ่งก็คือแท็บเครื่องมือพิเศษมาให้ โดยปกติจะอยู่ทางซ้ายมือ แต่เราก็สามารถปรับให้มันอยู่ริมฝั่งไหนก็ได้แล้วแต่ถนัด ในพาเนลจะมีเครื่องมือหลักๆ คือ
- Bookmark แสดงรายการบุ๊กมาร์กทั้งหมด
- Download แสดงหน้าต่างการดาวน์โหลดไฟล์
- Notes ก็ตามชื่อ คือเอาไว้จดโน้ตนั่นล่ะครับ สามารถแนบรูป แนบลิงค์ได้ แนบสกรีนช็อตหน้าเว็บที่เปิดอยู่ได้
- Web Panel อันนี้ผมว่ามีประโยชน์ เพราะเราสามารถเพิ่มเว็บที่เข้าบ่อยๆ ในพาเนลนี้ได้ แล้วเวลาเปิด มันจะเปิดเป็นหน้าต่างคู่กันดังภาพ แต่ก็ยังมีบั๊กอยู่ประปราย
- ความจริงมี email และ contact ด้วย แต่ยังพัฒนาไม่เสร็จ
เราสามารถปิดเปิดพาเนลนี้ได้ โดยกดปุ่มเล็กๆ ที่มุมซ้ายล่างครับ
Tab Stack รวมหน้าเว็บในแท็บเดียว
ฟีเจอร์พิเศษที่มีเฉพาะ Vivaldi (ในตอนนี้) คือ Tab stack ครับ ปกติเวลาเราเปิดเว็บหลายๆ เว็บ บราวเซอร์จะเปิดแยกเป็นแท็บไว้ด้านบนซึ่งเราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่ Vivaldi ไปไกลกว่านั้น โดยสามารถเอาแท็บที่เปิดหน้าเว็บไว้มารวมกันอยู่ในแท็บเดียวได้ ประโยชน์ที่เห็นชัดๆ ก็คือ มีที่ว่างตรงแท็บด้านบนมากขึ้น (เปิดเว็บได้อีก) และที่เด็ดกว่าก็คือ เราสามารถเปิดหน้าเว็บในแท็บเดียวกันให้แสดงพร้อมกันได้โดยแบ่งหน้าจอเป็นส่วนๆ ครับ สูงสุดเท่าที่ได้ลองคือแสดงหน้าต่างเว็บพร้อมกัน 9 ช่อง แต่ดูไม่รู้เรื่องมันเล็กไป ผมว่าดูเป็นคู่ทีละสองน่ะเหมาะดีแล้ว
คุณสมบัติพิเศษอื่นๆ
- เวลาเอาเมาส์ไปวางบนเว็บแท็บ จะแสดงรูปตัวอย่างขึ้นมา (เลือกปิดได้)
- กด F2 จะเปิดหน้า Quick Command สามารถพิมพ์คำสั่งต่างๆ ที่มีให้ใช้ เช่น เปิด Task manager หรือพิมพ์ URL เพื่อเปิดเว็บก็ได้
- มี Task Manager ส่วนตัว เปิดโดยการกดปุ่ม Shift+Escape อันนี้ผมว่าดี เพราะเราสามารถเลือกปิดแท็บบางแท็บที่มันค้างได้ เช่น พวกเว็บที่ติดตรงสคริปต์จาวาต่างๆ ปกติเราต้องรีสตาร์ทบราวเซอร์ใหม่ทั้งหมด แต่พอมี Task Manager เราก็เลือกให้ปิดเฉพาะแท็บที่แฮงค์ได้ครับ
- เนื่องจากเอนจิ้นเดียวกันกับ Chrome เราจึงสามารถลงส่วนขยายหรือแอพจาก Chrome Web Store จากกูเกิ้ลได้ ที่ผมใช้บ่อยๆ ก็คือ Xmarks และ Lastpass ก็ใช้ได้ปกตินะ
- Vivaldi App Launcher คือชอร์ตคัตที่เอาไว้เรียกแอพใช้งานแบบด่วนๆ โดยไม่ต้องเปิดบราวเซอร์ก่อน จับมาวางไว้ที่ Task view ของวินโดวส์ด้านล่างได้
- มี Notification ที่ทำงานร่วมกับเฟซบุ๊กได้
ทดสอบประสิทธิภาพ
[gdoc key=”https://docs.google.com/spreadsheets/d/1epRTs6ba6uRXH3KcoU2aUKAElVyBGhJeV6_kbtY0yBM/edit#gid=0″ chart=”column” title=”ทดสอบประสิทธิภาพด้วยเบนช์มาร์ก (คะแนนยิ่งมากยิ่งดี)”]
[gdoc key=”https://docs.google.com/spreadsheets/d/1epRTs6ba6uRXH3KcoU2aUKAElVyBGhJeV6_kbtY0yBM/edit#gid=1394612716″ chart=”column” title=”ทดสอบความเร็วการเปิดเว็บ (เวลาเป็นวินาที ยิ่งน้อยยิ่งดี)”]
จากการทดสอบ Vivaldi มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับกลางๆ ครับ ไม่ได้โดดเด่นกว่าบราวเซอร์อื่นเท่าไร จะว่าไปผลทดสอบออกจะใกล้เคียงกับ Chrome เสียด้วยซ้ำ เพราะใช้เอนจิ้นตัวเดียวกัน
แต่ถ้าวัดจากความรู้สึกของผมเอง ผมว่า Vivaldi เปิดเว็บที่มีรูปภาพเยอะๆ ได้เร็วกว่าบราวเซอร์อื่นๆ นิดหน่อยนะ
นอกจากนี้ผมว่าระบบจัดการกับเว็บที่ค้างค่อนข้างดีครับ (Task manager) สามารถปิดเป็นเว็บๆ ไปได้ ไม่ต้องปิดทั้งโปรแกรม ทำให้ไม่กระทบกับเว็บอื่นๆ ที่กำลังใช้งานพร้อมกัน ตรงนี้แม้แต่ Chrome กับ Firefox บอกเลยว่าสู้ไม่ได้
บั๊กที่พบ
- Web Panel เล่นคลิปยูทูปไม่ได้ (แก้โดยมาเปิดเล่นคลิปที่หน้าต่างหลักแทน)
- มีปัญหากับตัว WordPress กดดูพรีวิวโพสต์หรือเพจไม่ได้
- ระบบจัดการบุ๊กมาร์กยังไม่สมบูรณ์
- อื่นๆ ประปราย
สำหรับ Vivaldi นี้ ผมว่าถ้าเสร็จสมบูรณ์เมื่อไร น่าใช้ไม่น้อยเลยล่ะครับ เพราะลำพังแค่เรื่องความเร็วในการเปิดเว็บ รันสคริปต์ต่างๆ และเปิดเว็บต่างๆ ไม่ค่อยเจอปัญหา บั๊กเล็กๆ น้อยๆ ที่เหลือผมว่าก็ไม่น่าเกินความสามารถของทีมพัฒนาที่จะแก้ไขได้แน่นอน ตอนนี้บอกเลยว่าผมรอเวอร์ชั่น Final อยู่ ออกเมื่อไรคงเป็นบราวเซอร์อีกตัวหนึ่งที่อยู่ในเครื่องผมแน่นอน