ทรูมูฟ เอช ผู้นำบริการ WiFi และ 3G สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศ ประกาศความร่วมมือกับ สมาพันธ์ WBA (Wireless Broadband Alliance) และซิสโก้นำ Next Generation Hotspot (Hotspot 2.0) มาเปิดให้ลูกค้าทดลองสัมผัส เป็นครั้งแรกในเอเชีย โดย Next Generation Hotspot (Hotspot 2.0) เป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีจาก WBA ที่ปรับปรุง การเชื่อมโยงสัญญาณระหว่าง WiFi และ 3G ได้อัตโนมัติ
พร้อมความปลอดภัยของข้อมูลสูง ผู้สนใจสามารถทดลองใช้บริการได้ ณ ทรูช้อป สาขาเซ็นทรัล พระราม 9 และทรูช้อป สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ตั้งแต่วันนี้ ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2555
นายสุพจน์ มหพันธ์ ผู้อำนวยการ ด้านธุรกิจบริการระหว่างประเทศ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เทคโนโลยี Next Generation Hotspot (Hotspot 2.0) เกิดจากความร่วมมือของสมาชิกสมาพันธ์ WBA ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ผู้ให้บริการโซลูชั่นเครือข่าย และผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารชั้นแนวหน้า ที่ออกแบบขึ้นเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ลูกค้าในการใช้งานโมบายล์ อินเทอร์เน็ต โดยจะเชื่อมโยงสัญญาณระหว่าง WiFi และ 3G อย่างอัตโนมัติ ทำให้สามารถออนไลน์ไร้สายได้ตลอดเวลา ราบรื่นไม่ติดขัดแม้ขณะปรับเปลี่ยนการเชื่อมโยงสัญญาณ อีกทั้งยังส่งผลให้มีพื้นที่บริการครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยขณะนี้กำลังทดสอบนวัตกรรมดังกล่าวในประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และฮ่องกง ขณะที่ผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่ผ่านมา จะถูกนำไปเสนอในการประชุม GSMA World Congress ที่จะจัดขึ้นปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ณ เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน
“ทรูมูฟ เอช ในฐานะสมาชิกสมาพันธ์ Wireless Broadband Alliance (WBA) และหนึ่งในคณะผู้บริหารของสมาพันธ์ ที่เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมทั้งเป็นผู้นำบริการ WiFi และ 3G เพียงรายเดียวของไทยที่มีส่วนร่วมในโครงการ Next Generation Hotspot (Hotspot 2.0) ภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีบทบาทสำคัญในโครงการนำร่องทดสอบนวัตกรรมเทคโนโลยีนี้ ยิ่งไปกว่านั้น โครงการดังกล่าวยังสอดคล้องกับกลยุทธ์คอนเวอร์เจนซ์ของกลุ่มทรู ที่มุ่งมั่นเพิ่มความสะดวกสบาย ให้ใช้ชีวิตอิสระยิ่งขึ้นผ่านการเชื่อมโยง
บรอดแบนด์ไร้สายอย่างราบรื่น และมีความปลอดภัยสูงในการรับส่งข้อมูล”
ดร. ธัชพล โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สมาร์ทโฟนกำลังเปลี่ยนรูปแบบการสื่อสารไร้สายในปัจจุบัน และ WiFi ถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างประสบการณ์เชื่อมโยงไร้สายความเร็วสูง จากรายงานการประเมินผลของ Cisco Visual Networking Index ประจำปี 2554 คาดว่าจะมีเครื่องมือสื่อสารไร้สายมากกว่า 7.1 พันล้านเครื่องในปี 2558 ซึ่งเกือบจะเท่ากับจำนวนประชากร 7.2 พันล้านคนในปีเดียวกัน เรารู้สึกภูมิใจที่ได้มีโอกาสร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรมการสื่อสารไร้สาย คือ สมาพันธ์ WBA (Wireless Broadband Alliance) และ ทรูมูฟ เอช ในการทดลองให้บริการเชื่อมโยงไร้สายความเร็วสูงที่สมบูรณ์แบบในประเทศไทย”
นายนนท์ อิงคุทานนท์ ผู้จัดการทั่วไป สายงานบริการบรอดแบนด์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จุดเด่นของเทคโนโลยี Next Generation Hotspot (Hotspot 2.0) คือเพิ่ม
ความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการใช้งาน เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์เชื่อมโยงบรอดแบนด์ไร้สายผ่านซิมการ์ด และโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่รองรับเทคโนโลยีนี้ ที่จะทำการเลือกโครงข่าย WiFi Hotspot ให้อัตโนมัติ ลูกค้าไม่ต้องจำ SSID (Service Set IDentifier) ไม่ว่าจะใช้งานที่ใดทั่วโลก และด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ระบบจะจดจำข้อมูลผู้ใช้ผ่านซิมการ์ด จึงล็อกอินใช้งานได้โดยไม่ต้องพิมพ์ Username และ Password
ยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้ายังมั่นใจได้ว่าการใช้งานจะปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานสากล เพราะเข้ารหัสการรับส่งข้อมูลด้วยระบบ WPA2-Enterprise (WiFi Protected Access 2) ที่นำคุณลักษณะในระบบเครือข่าย
องค์กรแบบส่วนตัว (Private Enterprise Network) มาไว้ในระบบเครือข่ายฮอตสปอตสาธารณะ เพื่อลดการโจมตีจากภายนอกได้ เช่น การปลอมแปลง SSID เป็นชื่อเดียวกัน การเจาะดูข้อมูล และการบุกรุกเข้ามาในระบบ เป็นต้น โดยทรูมูฟ เอช ขอเชิญผู้สนใจทดลองสัมผัสประสบการณ์ดังกล่าวได้แล้วที่ทรูช้อป สาขาเซ็นทรัล พระราม 9 และ ทรูช้อป สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ตั้งแต่วันนี้ ถึง 29 กุมภาพันธ์นี้”
ทั้งนี้ นวัตกรรมเทคโนโลยี Next Generation Hotspot (Hotspot 2.0) ยังมีประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม
การสื่อสารเคลื่อนที่ โดยจะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถบริหารจัดการช่องทางของการรับส่งข้อมูลได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงนับเป็นโอกาสสำคัญของกลุ่มทรู ที่ได้ร่วมมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมบรอดแบนด์ไร้สายระดับโลก