บริษัท เทรนด์ไมโคร อินคอร์ปอเรท ผู้นำระดับโลกด้านการรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์เปิดเผยรายงานล่าสุดที่ระบุว่าภัยคุกคามต่อแอนดรอยด์ ระบบคลาวด์ และอุปกรณ์ดิจิทัลในชีวิตประจำวันจะทำให้การต่อสู้กับอาชญากรไซเบอร์ในปี 2556 มีความซับซ้อนมากขึ้นกว่าเดิม
นายไรมันด์ จีนส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (ซีทีโอ) บริษัท เทรนด์ไมโคร กล่าวเปิดเผยว่า“ในปี 2556 ผู้คนจะพบกับช่วงเวลาที่ยุ่งยากมากยิ่งขึ้นในการจัดการเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์ต่างๆ ของตน แพลตฟอร์ม ระบบปฏิบัติการ และโมเดลการรักษาความปลอดภัยที่หลากหลายจะทำให้การป้องกันตัวเราเองเกิดความยุ่งยากมากกว่าที่เคยเป็นมาก่อน”
จากรายงานเรื่อง “Security Threats to Business, the Digital Lifestyle, and the Cloud” ภัยคุกคามที่องค์กรธุรกิจและผู้บริโภคจะต้องเผชิญในปี 2556 สรุปได้ว่า
- ภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดในช่วงปี 2556 อาจเป็นแอพพลิเคชั่นแอนดรอยด์ที่เป็นอันตรายและมีความเสี่ยงสูง โดยเทรนด์ไมโคร คาดการณ์ว่าภัยคุกคามดังกล่าวจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านรายการในปี 2556 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากจำนวน 350,000 รายการเมื่อสิ้นปี 2555
- แม้ว่ามัลแวร์พีซีดั้งเดิมอาจลดจำนวนลงเล็กน้อย แต่ภัยคุกคามที่ตั้งเป้าหมายไปยังอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์กลับมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นมาแทนที่
- การเพิ่มจำนวนของอุปกรณ์ดิจิทัลในชีวิตประจำวัน หมายความว่าภัยคุกคามอาจเกิดขึ้นได้ในสถานที่ใหม่ๆ และในสถานที่ที่คาดไม่ถึง เช่น เครื่องรับโทรทัศน์ และอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือน
- แอฟริกากลายเป็นเมืองท่าที่ปลอดภัยในการผ่านเข้าออกสำหรับอาชญากรไซเบอร์
การคาดการณ์อื่นๆ
- การที่องค์กรธุรกิจปรับใช้ Windows 8 ล่าช้า นั่นหมายความว่าผู้บริโภคจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์หลักจากประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
- อาชญากรไซเบอร์จะตั้งเป้าหมายโจมตีไปที่บริการคลาวด์ และการละเมิดข้อมูลจะยังคงเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงในปี 2556 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่เดิมไม่ได้ปกป้องข้อมูลในระบบคลาวด์ รวมถึงระบบจัดเก็บข้อมูลแบบดั้งเดิมด้วย
- ผู้บริโภคจะใช้อุปกรณ์และแพลตฟอร์มด้านการประมวลผลที่หลากหลายเพิ่มขึ้น ซึ่งนั่นส่งผลให้การรักษาความปลอดภัยเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากขึ้น
- การโจมตีที่มีแรงจูงใจทางการเมืองจะขยายตัวเพิ่มมากขึ้นในปี 2556
- ภัยคุกคามในรูปแบบมัลแวร์ทั่วไปจะมีการพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป และจะเกิดการโจมตีรูปแบบใหม่ที่มีความสำคัญจำนวนหนึ่ง แต่ยังคงเป็นการโจมตีที่มีความซับซ้อนมากกว่าเดิมและยากที่จะตรวจจับ
- ความพยายามที่จะจัดการกับอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลกกำลังได้รับการผลักดันมากขึ้น แต่อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองหรือสามปีจึงจะสามารถบรรลุผลได้อย่างสมบูรณ์
“ข่าวดีก็คือนี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับผู้ดูแลระบบรักษาความปลอดภัยที่จะกำหนดมาตรฐานและนำเสนอโซลูชั่นใหม่ๆ อันจะส่งผลทางลบต่อระบบเศรษฐกิจของกระบวนการใต้ดิน ถ้าสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงในปี 2556 ก็อาจได้รับการจดจำว่าเป็นปีแห่งจุดเปลี่ยนสำคัญในการทำสงครามกับอาชญากรรมไซเบอร์ก็เป็นได้” นายจีนส์กล่าวสรุปท้าย