มร.เม ซีไล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า TP-LINK ได้รับการ จัดอันดับโดย IDC บริษัทวิจัยตลาดไอทีชั้นนำของโลก ให้เป็นผู้นำในตลาดอุปกรณ์เครือข่ายไร้สาย โดยในไตรมาส สุดท้ายปี 2014 บริษัทฯ มีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 41.23% สูงกว่าแบรนด์คู่แข่งอันดับสองของตลาดเกือบ 4 เท่าตัว ทั้งยังมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยในปีที่แล้วมีอัตราเติบโตที่ 10% ด้วยยอดขายทั่วโลก 154 ล้านเครื่อง คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบัน TP-LINK มีสำนักงานใน 38 ประเทศ และ กระจายสินค้าไปมากกว่า 120 ตลาดทั่วโลก
“TP-LINK เริ่มรุกตลาดเมืองไทยตั้งแต่ปี 2005 และได้ป้อนสินค้ามากกว่า 200 รุ่นเข้าสู่ตลาด จนแบรนด์ TP-LINK กลายเป็นที่คุ้นเคยในกลุ่มลูกค้าผู้ใช้ตามบ้าน ธุรกิจเอสเอ็มอี ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ และในปีที่แล้ว TP-LINK ยังสามารถรักษาตำแหน่งเจ้าตลาดด้วยส่วนแบ่งตลาด 48% ส่วนในเจ็ดเดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ ขายได้แล้ว 553,173 เครื่อง แต่ยังจะเดินหน้ารุกตลาดต่อไปด้วยการเปิดตัวนวัตกรรม อย่าง Archer C3200 และ Archer C2600 ไวเลสเราเตอร์กิกะบิตความเร็วสูง และ Touch P5 เราเตอร์พร้อมจอทัชสกรีนรุ่นแรกของ TP-LINK รวมถึง HS110 สมาร์ทปลั๊กที่ควบคุมการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน และ Google OnHub เราเตอร์รุ่นแรกจากค่ายกูเกิลที่ผลิตโดย TP-LINK เพื่อสร้างความคึกคักให้กับวงการไอทีในช่วงท้ายปี และเพิ่มยอดขายให้ได้ทะลุ 1 ล้านเครื่อง หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 20% จากปีที่แล้ว”
“นอกจากสินค้าของ TP-LINK จะเป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพแล้ว ความหลากหลายของสินค้า ก็สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม การมีพาร์ทเนอร์ที่ดีอย่าง King Intelligent Technology และ Synnex ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ทั้งแบรนด์และยอดขายของ TP-LINK เติบโตมาโดยตลอด บริษัทฯ จะยังคงทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่างใกล้ชิด เพื่อ
ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ โดยมีแผนจะออกโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายในแต่ละช่วง และเน้นที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ ผ่านกิจกรรมทางการตลาดและงานแสดงสินค้าต่างๆ” มร.เม ซีไล กล่าว
ด้านนายทรงศักดิ์ สังขเวทัย ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงสินค้าใหม่ที่เปิดตัวในวันนี้ว่า TP-LINK มั่นใจว่าสินค้าไฮไลท์ทั้ง 5 รุ่นนี้จะสร้างสีสันให้กับตลาดไอทีในช่วงโค้งสุดท้ายของปีได้อย่างแน่นอน โดยเริ่มจาก Archer AC3200 เราเตอร์แบบกิกะบิตที่ใช้เทคโนโลยี Tri-Band ทำให้เชื่อมต่ออุปกรณ์หลายๆ ตัวได้โดยไม่ต้องห่วงว่าสัญญาณจะตกลง โดยเครื่องจะปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ได้ถึง 3 สัญญาณ ได้แก่ ระดับความเร็ว 600Mbps บนย่านความถี่ 2.4GHz และ 1,300Mbps บนความถี่ 5GHz ได้สองเครือข่าย รวมกันเป็นความเร็วระดับ 3,200 Mbps Archer AC3200 มีเสาอากาศภายนอก 6 เสา ส่งสัญญาณได้ครอบคลุม และมีความเสถียรมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังใช้ซีพียู dual-core 1GHz และซีพียูเสริม 3 ชุด (co-processors) ช่วยให้การเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์ทำได้พร้อมกันอย่างไร้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการท่องเว็ปไซต์ การสตรีมมิ่ง และเล่น เกมส์ได้ในเวลาเดียวกัน
“Archer C2600 เราเตอร์ความเร็วสูง ที่จะช่วยสร้างความบันเทิงบนโลกไร้สายภายในบ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบ มาพร้อมกับ MU-MIMO (Multi-User MIMO) ซึ่งให้ความเร็วมากขึ้นกว่าเดิม 3 เท่า โดยใช้เทคโนโลยี 4-Stream เพิ่มกำลังส่งสัญญาณ Wi-Fi บนย่านความถี่ 2.4GHz และ 5GHz เร็วสูงสุดถึง 800Mbps และ 1,733Mbps ผสานพลังกับซีพียู dual-core 1.4GHz ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลายเครื่องได้ในเวลาเดียวกันอย่างสบายๆ นอกจากนี้ Archer C2600 ยังมีเสาอากาศ 4 เสา ส่งสัญญาณแบบ Omni-directional Wireless และเทคโนโลยี Beamforming ที่ช่วยเพิ่มความครอบคลุมของสัญญาณ พร้อมทั้ง USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต ที่ใช้ในการแชร์ไฟล์ผ่านเครือข่าย และมี 4 พอร์ต LAN ระดับกิกะบิต ช่วยเรื่องการถ่ายโอนข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว TP-LINK ยังรองรับแอพพลิเคชั่น TP-LINK Tether ให้ผู้ใช้ติดตั้งและจัดการเราเตอร์เองได้อย่างง่ายๆ ผ่านอุปกรณ์ที่ใช้ระบบ ปฏิบัติการ iOS และ Android”
นายทรงศักดิ์กล่าวต่อว่า “อีกไฮไลท์คือ Touch P5 หรือ AC1900 เราเตอร์สำหรับเกมส์และการสตรีมมิ่งระดับ 4K HD Video รุ่นแรกของ TP-LINK และของวงการเราเตอร์ที่ใช้ทัชสกรีนเพื่อเพิ่มความง่ายในการติดตั้งเครื่องและ จัดการตั้งเครือข่าย ทั้งยังใช้ 3 เสาอากาศและเทคโนโลยี Beamforming เพื่อเพิ่มระยะทางและประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณ Wi-Fi Touch P5 ยังถูกออกแบบมาให้ใช้เป็นได้ทั้งเราเตอร์ รีพีตเตอร์ และแอคเซสพอยต์ อีกสินค้าที่ TP-LINK คาดว่าจะขายดีหลังจากเปิดตัวก็คือ HS110 สมาร์ทปลั๊กสำหรับจัดการและควบคุมการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนที่ใช้ iOS และ Android ผ่าน TP-LINK Cloud”
“ล่าสุด TP-LINK ได้ร่วมกับ Google ผลิตไวเลสเราเตอร์รุ่นแรกของ Google ในชื่อ TGR1900 หรือรู้จักกันในชื่อ ทางการตลาดว่า Google OnHub ที่มีดีไซน์เรียบหรู ผู้ใช้สามารถติดตั้งและควบคุมการทำงานได้อย่างง่ายดาย ผ่านสมาร์ทโฟนทั้งระบบ iOS และ Android ด้วยแอพพลิเคชั่น Google On เราเตอร์ทรงกระบอกนี้ยังโดดเด่นใน เรื่องความแรงในการส่งสัญญาณแบบทะลุทะลวง ช่วยสตรีมมิ่งได้อย่างราบรื่น และดาวน์โหลดด้วยความเร็วสูง เพราะใช้ซีพียู IPQ8064 dual-core 1.4GHz และมีเสาสัญญาณภายในถึง 13 เสา ที่ทำหน้าที่กระจายสัญญาณ บนย่านความถี่ 2.4GHz และ 5GHz คลื่นละ 6 เสา และอีกหนึ่งเสาจะช่วยตรวจสภาพการใช้งานเครือข่ายไร้สาย ในบริเวณโดยรอบทุก 5 นาที และทำการเลือกช่องรับสัญญาณอัตโนมัติทันทีที่พบสัญญาณรบกวนมากเกินไป”
สำหรับราคาสินค้าในช่วงเปิดตัว Archer C3200 อยู่ที่ 10,900 บาท Archer C2600 ราคา 9,690 บาท Touch P5 ราคาอยู่ที่ 7,900 บาท ผู้สนใจสินค้าสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TP-LINK โทร 0-2440-0763 หรือ facebook.com/tplinkenterprisesthailand
“สินค้าที่เปิดตัวในครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี WLAN ของ TP-LINK แต่จะช่วย ให้แบรนด์ TP-LINK กลายเป็นที่ต้องการมากขึ้นในตลาดเมืองไทย เราเตอร์ทุกรุ่นที่เปิดตัวล้วนแต่มีจุดเด่นทั้งใน เรื่องความเร็วสูงในการส่งสัญญาณ ไร้ปัญหาเรื่องจุดอับสัญญาณภายในพื้นที่ติดตั้ง และรองรับการเชื่อมต่อกับ อุปกรณ์ต่างๆ ได้พร้อมกันโดยสัญญาณไม่ดร็อป ซึ่งช่วยการทำงานและความบันเทิงต่างๆ ดำเนินไปได้โดยไม่สะดุด หรือแม้แต่สมาร์ทปลั๊กก็ช่วยสร้างบ้านหรือออฟฟิศอัจฉริยะขึ้นได้แบบง่ายๆ บริษัทฯ มั่นใจว่าสินค้าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีแน่นอน” นายทรงศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย