สองรางวัลที่รับรองประสบการณ์ด้านเสียงที่ดีที่สุด หูฟังรุ่น HE 1060/HEV 1060 สุดล้ำจากเซนไฮเซอร์ รับรางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยมจากงาน CES 2016

เซนไฮเซอร์ ได้รับรางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยมจากงานแสดงเทคโนโลยีในครัวเรือนที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง CES (Consumer Electronics Show) 2016 ที่ผ่านมา สำหรับหูฟังดีไซน์ล้ำสมัยรุ่น HE 1060/HEV 1060 (เอชอี 1060/เอชอีวี 1060) โดยมีการประกาศไปเมื่อเร็วๆ นี้ว่าระบบหูฟังแบบ electrostatic (อิเล็กโทรสแตติก)ดังกล่าวได้รับไปทั้งรางวัลในสาขา “หูฟัง” และสาขา “ Home Audio-Video (โฮม ออดิโอ-วิดีโอ) ประสิทธิภาพสูง” เซนไฮเซอร์ HE 1060/HEV 1060 ซึ่งผลิตด้วยมือในเยอรมนีทุกชิ้นและจะวางจำหน่ายตั้งแต่กลางปี 2559 เป็นต้นไปนี้ สามารถทำให้คณะกรรมการประทับใจได้จากการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยและวัสดุที่เลือกมาอย่างพิถีพิถันให้เข้ากับงานฝีมือชั้นสูงได้อย่างลงตัว นี่คือผลงานชิ้นเอกที่มาพร้อมกับมูลค่าที่คู่ควร โดยหูฟังชั้นเลิศเหล่านี้สนนราคาอยู่ที่ราว 50,000 ยูโร (ประมาณ 1,953,000 บาท) ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการรางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยมในงาน CES ถูกตัดสินโดยกลุ่มนักออกแบบอุตสาหกรรมและวิศวกรอิสระที่มีผลงานโดดเด่น ตลอดจนสมาชิกกลุ่มสื่อกลางการค้า เพื่อยกย่องผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคที่ล้ำสมัยทั้งในด้านดีไซน์และกลไกการทำงานในทั้ง 27 สาขารางวัล

“HE 1060/HEV 1060เซนไฮเซอร์ ได้ท้าทายขอบเขตเดิมๆ ของระบบเครื่องเสียงระดับสูง ด้วยหูฟังรุ่น  HE 1060/HEV 1060 นี้ ที่แสดงถึงการไม่ประนีประนอมต่อกฎเกณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อรังสรรค์หูฟังที่ดีที่สุดในโลกขึ้นมา” มัวริซ การ์เคร่ ผู้อำนวยการธุรกิจผลิตภัณฑ์เล่นและบันทึกเสียงของเซนไฮเซอร์ กล่าว “  HE 1060/HEV 1060  เป็นรุ่นที่ถูกพัฒนาต่อเนื่องมาจากหูฟังรุ่นตำนานอย่าง Orpheus (ออร์เฟียส) 1990/1991 ซึ่งได้สร้างมาตรฐานใหม่ของการฟังขึ้นในยุคนั้น เสียงตอบรับที่น่าเหลือเชื่อที่ผู้คนมีต่อการเปิดตัว HE 1060/HEV 1060  ดังเช่นการมอบรางวัลนวัตกรรมยอดเยี่ยมของ CES ครั้งนี้ ถือเป็นเครื่องชี้วัดว่าเซนไฮเซอร์ ประสบความสำเร็จในการกำหนดอนาคตของวงการเครื่องเสียงโลกอย่างแท้จริง”

หูฟังรุ่น HE 1060/HEV 1060 เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา และได้ก้าวข้ามมาตรฐานเดิมที่มีอยู่ของระบบหูฟังรุ่นก่อนๆ ด้วยการถ่ายทอดเสียงที่แม่นยำ ลดการเกิดเสียงเพี้ยนลงได้ต่ำที่สุดตั้งแต่ที่เคยมีการตรวจวัดระบบเครื่องเสียงมา เกิดเป็นมิติเสียงที่เหนือชั้น และสามารถตอบสนองความถี่ที่กว้างกว่าความสามารถในการได้ยินของมนุษย์

เพื่อให้ทั้งหมดนี้เป็นไปได้ ทีมผู้เชี่ยวชาญของเซนไฮเซอร์ ได้ใช้เวลาเกือบทั้งทศวรรษ เพื่อพยายามข้ามข้อจำกัดด้านเทคนิคต่างๆ และแน่นอนว่าเพื่อให้เกิดเป็นหูฟังที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมาในโลก HE 1060/HEV 1060 ใช้คอนเซปต์การขยายเสียงแบบใหม่ที่ผสมผสานจุดเด่นของแอมป์หลอดเข้ากับวงจรขยายทรานซิสเตอร์

“จุดเด่นของแอมป์แบบหลอด คือ การประมวลผลสัญญาณฉับพลันที่เหนือกว่า” แอกเซล เกรลล์ ผู้จัดการด้านการบริหารผลิตภัณฑ์เครื่องเสียง ของเซนไฮเซอร์ กล่าว “อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่มี คือ ความไวต่อเสียงรบกวนจากโครงสร้าง ด้วยเหตุนี้ กล่องบรรจุแอมป์ จึงถูกทำขึ้นจากหินอ่อนคาร์เรรา และถูกแขวนลอยเอาไว้อย่างเป็นอิสระ”

HE 1060_HEV 1060_Topview_RGB1_resized-1

การแยกตัวหลอดให้เป็นอิสระจากกัน ที่ผนวกกับคุณสมบัติของหินอ่อนที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจึงทำให้มีประสิทธิภาพในการดูดซับเสียง ช่วยลดเสียงที่ส่งผ่านไปตามโครงสร้างของอาคารต่างๆ ให้ลดลงจนเหลือน้อยที่สุด โดยที่ตัวหลอดแต่ละหลอดเองก็มีวัตถุห่อหุ้มคุณภาพสูงที่กำลังรอการจดสิทธิบัตรอยู่ ซึ่งประกอบด้วยหลอดแก้วควอตซ์ที่ปกป้องสิ่งที่อยู่ภายในจากการรบกวนภายนอก จากนั้น ในส่วนของแอมป์หลอดที่ตามมาด้วยวงจรขยายแรงดันอิมพัลส์ที่ให้ย่านเสียงที่ดีเยี่ยมซึ่งเป็นสิทธิบัตรเฉพาะของเรา ซึ่งผสานรวมกันแล้วขับส่งไปยังหูฟังโดยตรง และผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าประทับใจอย่างยิ่ง นั่นคือ ประสิทธิภาพที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 200 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่น

การเลือกวัสดุสำหรับ HE 1060/HEV 1060 เต็มไปด้วยความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด เพื่อที่จะเสพสัมผัสเส้นเสียงที่ถูกเล่นผ่านหูฟังดังกล่าวได้อย่างเต็มที่ แต่ละชิ้นส่วนของกว่า 6,000 ส่วนประกอบถูกเลือกสรรอย่างบรรจง แต่ละลักษณะเฉพาะของเสียงถูกประเมิน และในที่สุดส่วนผสมที่ลงตัวที่สุดก็ถูกประกอบเข้าด้วยกัน อีกตัวอย่างหนึ่งของงานดีไซน์ที่โดดเด่นอย่างไร้การประนีประนอมนี้ก็คือ การที่เซนไฮเซอร์ เลือกใช้อิเล็กโทรดเซรามิกฉาบทองและไดอะแฟรมฉาบแพลทินัม เพื่อรับรองว่าจะถ่ายทอดเสียงออกมาได้อย่างมีคุณภาพ

 

Latest

ใช้ NAS ให้เป็น Google Photo server ด้วย immich

หลายคนชอบใช้ google photo ในการแบ็กอัพรูปจากมือถือ เพราะมีลูกเล่นให้ใช้เยอะแยะ แต่ติดที่ว่าเนื้อที่มักไม่เคยพอ และต้องจ่ายรายปี ต่ำๆ ก็ต้อง...

รัน Stable Diffusion เร็วขึ้น 10x ด้วย AMD GPU

ปกติแล้วตัว Stable Diffusion (ต่อไปขอเรียกสั้นๆ ว่า SD) สามารถติดตั้งและใช้งานได้เลยบน Nvidia GPU...

สร้างภาพ AI บนวินโดวส์ + การ์ดจอ AMD ด้วย Amuse AI

คนใช้การ์ดจอ AMD จะมีความเป็นลูกเมียน้อยอยู่นิดนึง เพราะโปรแกรมและโมเดลสร้างภาพส่วนใหญ่ จะออกแบบมาให้ใช้กับ CUDA ของ Nvidia เป็นหลัก แต่ต่อไปนี้คนใช้...

ใช้ windows 11 อย่างเซียน ด้วย PowerToys (ฟรี)

PowerToys เป็นชุดเครื่องมือฟรีจาก Microsoft ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของผู้ใช้ Windows โดยเฉพาะ Windows 11 ซึ่ง...

Newsletter

Don't miss

ใช้ NAS ให้เป็น Google Photo server ด้วย immich

หลายคนชอบใช้ google photo ในการแบ็กอัพรูปจากมือถือ เพราะมีลูกเล่นให้ใช้เยอะแยะ แต่ติดที่ว่าเนื้อที่มักไม่เคยพอ และต้องจ่ายรายปี ต่ำๆ ก็ต้อง...

รัน Stable Diffusion เร็วขึ้น 10x ด้วย AMD GPU

ปกติแล้วตัว Stable Diffusion (ต่อไปขอเรียกสั้นๆ ว่า SD) สามารถติดตั้งและใช้งานได้เลยบน Nvidia GPU...

สร้างภาพ AI บนวินโดวส์ + การ์ดจอ AMD ด้วย Amuse AI

คนใช้การ์ดจอ AMD จะมีความเป็นลูกเมียน้อยอยู่นิดนึง เพราะโปรแกรมและโมเดลสร้างภาพส่วนใหญ่ จะออกแบบมาให้ใช้กับ CUDA ของ Nvidia เป็นหลัก แต่ต่อไปนี้คนใช้...

ใช้ windows 11 อย่างเซียน ด้วย PowerToys (ฟรี)

PowerToys เป็นชุดเครื่องมือฟรีจาก Microsoft ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของผู้ใช้ Windows โดยเฉพาะ Windows 11 ซึ่ง...

หยอดปุกรอ!! 4 รถแบรนด์ดัง พลังงานไฮโดรเจน น่าจับตาปี 2023

สำหรับปี 2023 เป็นต้นไปนี้ เราจะเห็นรถพลังงานไฮโดรเจนเปิดตัวมากขึ้น ดูเหมือนทุกค่ายจะซุ่มทำรถไฮโดรเจนของตัวเอง แล้วเหมือนจะนัดกันเปิดตัวในปีนี้พร้อมๆ กัน

ใช้ NAS ให้เป็น Google Photo server ด้วย immich

หลายคนชอบใช้ google photo ในการแบ็กอัพรูปจากมือถือ เพราะมีลูกเล่นให้ใช้เยอะแยะ แต่ติดที่ว่าเนื้อที่มักไม่เคยพอ และต้องจ่ายรายปี ต่ำๆ ก็ต้อง 7-8 ร้อยกว่าบาทต่อปีเลยทีเดียว แต่ถ้าหากคุณมีเครื่อง NAS อยู่ที่บ้าน ผมจะมาบอกข่าวดีว่า เราสามารถทำให้ NAS แบ็กอัพรูปถ่ายจากมือถือเป็นเหมือน google photo ได้ด้วยแอพที่ชื่อว่า immich immich มีความสามารถใกล้เคียงกับ google photo...

รัน Stable Diffusion เร็วขึ้น 10x ด้วย AMD GPU

ปกติแล้วตัว Stable Diffusion (ต่อไปขอเรียกสั้นๆ ว่า SD) สามารถติดตั้งและใช้งานได้เลยบน Nvidia GPU โดยไม่ต้องปรับแต่งอะไรทั้งสิ้น แต่พอเป็นเครื่อง AMD GPU ตัว SD จะรันไม่ได้ ต้องไปรันบน CPU แทน ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าประสิทธิภาพสู้รันบน GPU ไม่ได้เลย บล็อกนี้เลยจะมาแสดงวิธีการติดตั้งและรัน SD บนเครื่องที่ใช้การ์ดจอ...

สร้างภาพ AI บนวินโดวส์ + การ์ดจอ AMD ด้วย Amuse AI

คนใช้การ์ดจอ AMD จะมีความเป็นลูกเมียน้อยอยู่นิดนึง เพราะโปรแกรมและโมเดลสร้างภาพส่วนใหญ่ จะออกแบบมาให้ใช้กับ CUDA ของ Nvidia เป็นหลัก แต่ต่อไปนี้คนใช้ AMD ไม่ต้องน้อยใจอีกต่อไป เพราะ Amuse AI คือโปรแกรมที่ออกแบบมาให้ใช้กับแพลตฟอร์มของ AMD โดยเฉพาะครับ สำหรับการ์ดจอนั้น ทาง Amuse AI แนะนำให้ใช้รุ่น RX 7000 ที่มี...

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here