บริษัทซีเกท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (NASDAQ: STX) (หรือในที่นี้เรียกว่า “บริษัท”) รายงานผลประกอบการทางการเงินประจำไตรมาสที่สี่และผลประกอบการทางการเงินประจำปีการเงิน 2013 ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีการเงิน 2013 บริษัทรายงานยอดรายรับ ประมาณ 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐ กำไรขั้นต้นร้อยละ 27.4 กำไรสุทธิจำนวน 348 ล้านเหรียญสหรัฐ และกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 94 เซ็นต์ สำหรับผลประกอบการทางการเงินที่ยังไม่ได้รับการรับรองทางด้านบัญชี ซึ่งไม่รวมผลกระทบของบางรายการ ซีเกทรายงานกำไรขั้นต้นร้อยละ 28 กำไรสุทธิจำนวน 447 ล้านเหรียญสหรัฐ และกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 1.20 เหรียญสหรัฐ ในไตรมาสที่ 4 ของปีการเงิน 2013 ซีเกททำเงินประมาณ 394 ล้านเหรียญสหรัฐจากการดำเนินงาน จ่ายเงิน ปันผลเป็นเงินสด จำนวน 137 ล้านเหรียญสหรัฐและใช้เงินประมาณ 42 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อซื้อหุ้นสามัญ ประมาณ 1 ล้านหุ้นคืนกลับมา
สำหรับปีการเงินที่สิ้นสุด ณ วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556 จากผลประกอบการทางการเงินที่ได้รับการรับรองทางด้านบัญชี บริษัทรายงานยอดรายรับจำนวน 14,400 ล้านเหรียญสหรัฐ กำไรขั้นต้นร้อยละ 27.5 กำไรสุทธิ กำไรสุทธิจำนวน 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐและกำไรสุทธิต่อหุ้น เท่ากับ 4.81 เหรียญสหรัฐ สำหรับผลประกอบการทางการเงินที่ยังไม่ได้รับการรับรองทางด้านบัญชี บริษัทรายงานกำไรขั้นต้นร้อยละ 28 และกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 5.31 เหรียญสหรัฐ ในปีการเงิน 2013 บริษัทคืนเงินจำนวนร้อยละ 71 ของกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน หรือจำนวนร้อยละ 96 ของกระแสเงินสดอิสระ แก่ผู้ถือหุ้นในรูปของเงินปันผลและการซื้อหุ้นกลับคืนมา จึงทำให้มีเงินสด รายการเทียบเท่าเงินสด เงินสดที่มีภาระผูกพันและเงินลงทุนชั่วคราว รวมกันทั้งสิ้น ประมาณ 2,300 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงสิ้นสุดปีการเงินดังกล่าว
“ผลประกอบการทางการเงินของซีเกทสะท้อนให้เห็นความเข้มแข็งในการปฏิบัติงานในช่วงเวลาแห่ง ความเปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอนและโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ” นายสตีฟ ลุคโซ่ ประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของซีเกท (Steve Luczo, Seagate chairman, president and chief executive officer) กล่าว “เมื่อมองไปข้างหน้า เราเชื่อว่าแนวโน้มการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับจัดเก็บข้อมูลจะถูกผลักดันโดยคลาวด์ ตลาดพกพาและความก้าวหน้าของโอเพ่น ซอร์ส (open source advancement) อันจะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ ๆ อันมหาศาลสำหรับซีเกท เราจะยังคงสร้างความสมดุลของผลประกอบการทางการเงินในระยะสั้นและการพัฒนาเชิงกลยุทธ์ในระยะยาวในขณะที่เพิ่มมูลค่าของผู้ถือหุ้นให้อยู่ในระดับสูงสุด”