เหมือนจะเป็นเทรนด์ของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่อะไรๆ ก็ปรับตัวเข้ามาอยู่ใกล้เรามากขึ้น สามารถเข้าถึงและใช้งานได้สะดวกมากขึ้น มีความหลากหลายรองรับการทำงานรูปแบบต่างๆ มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ ที่แต่ก่อนมักมีข้อจำกัดในการใช้งาน สามารถใช้ได้เฉพาะกับเครื่องคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กเท่านั้น แต่มาในวันนี้มีการพัฒนาให้สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้มากขึ้น มีความสามารถที่หลากหลายมากขึ้น พร้อมที่จะเป้นตัวกลาง เชื่อมต่อและซิงค์ข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างสะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม Seagate Wireless Plus เป็นเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์อีกหนึ่งรุ่นที่พัฒนาขึ้นมาให้มีความสามารถที่หลากหลาย รองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้สะดวกมากขึ้น ด้วยการทำงานในรูปแบบไร้สาย เชื่อมต่อแบล็คอัพ และยังสามารถซิงค์ข้อมูลจากอุปกรณ์ ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ฟ หรือแม้แต่แท็ปเล็ต และสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวก และรวดเร็วมากกว่า
โดยการทำงานจะคล้ายๆ กับการใช้งานเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ขนาดเล็กโดยทั่วไป ที่แค่เชื่อมต่อสาย USB3.0 เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโน้ตบุ๊กก็จะสามารถใช้งานได้ในทันทีเสมือนมีฮาร์ดดิสก์ลูกหนึ่งเพิ่มขึ้นมาในเครื่องคอมพิวเตอร์ ให้โยนไฟล์งานเอกสารลงไป
แต่หากต้องการใช้งานในแบบไร้สายจะต้องเปิดสัญญาณไวเลสในตัวเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ก่อน โดยกดที่ปุ่มเปิด-ปิดด้านข้าง สังเกตสัญลักษณะไวเลสด้านบนฮาร์ดดิสก์ด้านบนจะเป็นสีฟ้าเมื่อพร้อมทำงาน จากนั้นให้เชื่อมต่อสัญญาณไวเลสของเครื่องคอมพวิเตอร์ โน้ตบุ๊ก หรือตัวแท็ปเล็ตเข้ากับตัวเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ เพื่อเชื่อมต่อการทำงาน
โดยหากใช้งานบนแท็ปเล็ต หรือสมาร์ทโฟนจะต้องใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น Seagate Media สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจาก AppStore บนระบบปฏิบัติการ iOS และใน Play Store บนระบบปฏิบัติการ Android
แอพพลิเคชั่นจะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงไฟล์มัลติมีเดียรูปแบบต่างๆ ที่เก็บอยู่ในเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น
เราสามารถที่จะเชื่อมต่อซิ่งค์ข้อมูลเรียกดูไฟล์ หรือจัดการทำงานต่างๆ ของเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ ได้จากภายในแอพพลิเคชั่นได้ง่ายและรวดเร็ว สำหรับยูเซอร์ทั่วไปที่ไม่มีความรู้มากนักก็สามารถเข้าใจได้ง่าย
พร้อมทั้งยังสามารถที่จะเชื่อมต่อซิงค์ข้อมูลกับคลาวด์สาธารณะต่างๆ ได้เช่น Dropbox หรือ Google Drive โดยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายจากที่บ้าน หรือที่ออฟฟิศเข้ากับตัวเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ ระบบจะทำการซิงค์ข้อมูลให้โดยอัตโนมัติ
ต้องบอกเลยว่าเป็นความสามารถที่ชอบมากๆ เพราะนอกจากเราจะซิงค์ข้อมูลจากที่ต่างๆ มารวมกันอยู่ที่เอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ตัวนี้ได้แล้ว ความสามารถนี้ยังช่วยให้เราสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ในช่วงระหว่างที่เราเชื่อมต่อไวเลสกับตัวเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ได้อีกด้วย ปัญหาจากรุ่นก่อนๆ ที่หากต้องการจะเชื่อมไวเลสกับเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์เราจะไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไปพร้อมๆ กันได้เพราะไวเลสของเราเชื่อมต่ออยู่กับเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์นั่นเอง
ในส่วนของการทำงานอย่างที่ได้กล่าวไปตอนต้นแล้วเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์นี้เชื่อมต่อการทำงานผ่านพอร์ต USB3.0 ได้ด้วย พอร์ตเชื่อมต่อจะอยู่ทางด้านบนใช้สำหรับถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง และชาร์จไฟให้กับแบตเตอร์รี่ในตัวเครื่อง สำหรับการทำงานแบบไร้สาย
การทดสอบโอนถ่ายข้อมูลผ่านพอร์ต USB3.0 ด้วยโปรแกรมทดสอบ ATTO Disk Benchmark ความเร็วที่ได้อยู่ประมาณ 121.64 MB/s สำหรับการอ่าน และ 119.42 MB/s สำหรับความเร็วในการเขียน แต่สังเกตว่าความเร็วในการเขียนค่อนข้างที่จะช้าในช่วงต้นอยู่มาก โดยเฉพาะกับไฟล์ขนาดเล็กๆ
ต่อมาลองดูที่โปรแกรมทดสอบ AS SSD มีความเร็วในการอ่านที่ 117.44 MB/s และความเร็วในการเขียนที่ 93.51 MB/s
ปิดท้ายด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark มีความเร็วในการอ่านที่ค่อนข้างสูงทีเดียวทดสอบได้ที่ 125.5 MB/s และ ความเร็วในการเขียนที่ 53.75 MB/s เท่านั้นเอง น่าสงสัยว่าเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ตัวนี้ จะมีปัญหาในการเขียนข้อมูลที่ค่อนข้างช้าโดยเฉพาะกับไฟล์ขนาดลเ็กจำนวนมาก
สเปคแบตเตอรี่ภายในของเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ไม่ได้ระบุไว้เป็นแบตเตอรี่ในแบบไหน หรือความจุเท่าไหร่ ระบุเพียงว่าสามารถใช้งานได้นานราว 10 ชั๋วโมง ค่อนข้างนานอยู่สามารถใช้งานติดต่อกันได้ใน 1 วันโดยไม่ต้องชาร์จ
รูปร่างหน้าตาภายนอกดูเหมือนๆ กับเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ทั่วๆไป แต่ดูจะใหญ่หน่อย วัสดุเป็นพลาสติกดูแข็งแรงดี มีขนาดอยู่ที่ 89 x 127 x 21 มม. หนักประมาณ 272 กรัม ภายในมีฮาร์ดดิสก์แบบ 2.5″ ขนาดความจุ 2TB สำหรับจัดเก็บข้อมูล จะไฟล์งาน ไฟล์ภาพ หรือมัลติมีเดียรูปแบบต่างๆ
สามารถสตรีมไฟล์สดๆ จากตัวเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ รับชมบนสมาร์ทโฟน, แท็ปเล็ต และยังรองรับเทคโนโลยีด้านความบันเทิงอื่นๆ เช่น DLNA,Samsung SmartTV, Airplay โดยสามารถรับชอมไฟล์วีดิโอคุณภาพระดับ HD ได้จาก 3 อุปกรณ์พร้อมๆ กันโดยไม่กระตุกอีกด้วย แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปสามารถเชื่อมต่อพร้อมกันได้ 7 คน
ราคา 7,590 บาท
บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2553-8888
www.synnex.co.th