จะบอกว่าเป็นเอ็กเทอนอลฮาร์ดดิสก์ ที่บางที่สุดในโลกในขณะนี้แล้วก็ว่าได้ สำหรับ Seagate Seven ที่ออกแบบให้มีขนาดความบางเพียง 7 ม.ม. ตามชื่อรุ่น พร้อมการดีไซน์ที่โดดเด่น และประสิทธิภาพการใช้งานที่น่าสนใจ
เรียกว่าน่าสนใจตั้งแต่แพ็คเกจภายนอกกันเลยทีเดียว โดย Seagate Seven มาในกล่องกระดาษแข็งสีดำสกรีนรูปตัว Seagate Seven ด้านหน้า ดูหรูหรา สมกับเป็นโปรดักษ์ในระดับพรีเมี่ยม
ภายในกล่องบุด้วยโฟม กันกระแทกอย่างดี มีอุปกรณ์ภายใน ใส่มาให้เป็น ตัวเอ็กเทอนอลฮาร์ดดิสก์ สาย USB3.0 และคู่มือการใช้งาน ที่ไม่มีภาษาไทย แต่ไม่ใช่ปัญหาของแบบนี้ใช้ไม่ยากอยู่แล้ว ถึงมีเราก็ไม่อ่านกัน จริงไหม?
หน้าตาของ Seagate Seven อาจจะดูไม่ค่อยเหมือนกับ เอ็กเทอนอลฮาร์ดดิสก์ ซักเท่าไหร่ ดูไกล้เคียงกับฮาร์ดดิสก์สำหรับโน้ตบุ๊กเสียมากกว่า ด้วยโครงสร้างภายนอกที่เป็นสเตนเลส 100% เพื่อความแข็งแรงทนทาน ต่างกับ เอ็กเทอนอลฮาร์ดดิสก์ทั่วไป ที่มักจะเป็นพลาสติก หรืออลูมิเนียมเสียมากกว่า มียิงเลเซอร์ยี่ห้อรุ่นและขนาดความจุด้านหน้า และไฟแสดงสถานะสีฟ้ามุมด้านซ้ายล่าง
ด้านหลังของเอ็กเทอนอลฮาร์ดดิสก์ เป็นสแตนเลสเช่นกัน ซึ่งข้อเสียอย่างหนึ่งที่พบคือ บอร์ดี้สเตนเลสนี้เป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก ถ้ามีเคลือบกันรอยนิ้วมือให้อีกหน่อยจะเยี่ยมเลย
มาถึงจุดเด่นอย่างที่บอกไว้ สำหรับ Seagate Seven ตัวนี้อยู่ที่ขนาดความบาง ที่บางสุดๆ เพียง 7 ม.ม. เทียบกับฮาร์ดดิสก์โน้ตบุ๊ก 2.5″ ปกติจะหนาประมาณ 9 ม.ม. หรือเท่าๆ กับ ฮาร์ดดิสก์โน้ตบุ๊ก 2.5″ แบบบางที่มีความหนาอยู่ที่ 7 ม.ม. เช่นกัน แต่ถ้าเทียบกับ เอ็กเทอนอลฮาร์ดดิสก์ที่ขายอยู่ในท้องตลาดทั่วไป จะบางกว่าเยอะ
สำหรับการใช้งาน ตัวเอ็กเทอนอลฮาร์ดดิสก์ มีความจุในตัวที่ 500 GB เท่าที่ทราบตอนนี้มีแค่รุ่นเดียวขนาดเดียว ยังไม่มีรุ่นที่ความจุสูงมากกว่านี้ ส่วนการเชื่อมต่อ ตัวฮาร์ดดิสก์จะเชื่อมต่อผ่าน USB3.0 อยู่ด้านล่างของตัวฮาร์ดดิสก์ แค่เสียบก็ใช้งานได้ในทันที ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเสริมก็ได้
แต่ถ้าอยากได้ความสามารถที่เพิ่มขึ้น ติดตั้งตัว Seagate Dashboard ไว้สำหรับจัดการข้อมูลก็ช่วยให้สามารถจัดการข้อมูลต่างๆ ได้สะดวกขึ้น ไม่ว่าจะแบล็คอัพข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ จากสมาร์ทโฟน รวมถึงจากโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ (ดึง รูปภาพ วีดิโอ ต่างๆ ที่โพสลงใน Facebook หรือ instagram เป็นต้น) ได้ในโปรแกรมเดียวกัน
สุดท้ายเรื่องของน้ำหนัก ด้วยความบอร์ดดี้เป็นสแตนเลสทั้งแท่ง ทำให้รู้สึกมีน้ำหนักพอสมควร จากการชั่งน้ำหนักพร้อมสาย USB3.0 อยู่ที่เกือบๆ 2 ขีด
มาถึงด้านความสามารถอย่างที่บอก Seagate Seven เชื่อมต่อผ่าน USB3.0 ที่มีความเร็วในการรับส่งสูง ทดสอบด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark มีความเร็วในการอ่านที่ 334.5 MB/s และความเร็วการเขียนที่ 69.51 MB/s
ตามด้วยโปรแกรม AS SSD ทำความเร็วในการอ่านลดลงมาอยู่ที่ 103.23 MB/s และ ความเร็วการอ่านที่ 81.14 MB/s
สุดท้ายกับโปรแกรม ATTO Disk Benchmark ดูความเร้วในการโอนถ่ายข้อมูลเทียบระหว่างความเร็วในการอ่านและเขียน เทียบกันตามขนาดไฟล์ซึ่งดูจะค่อนข้างสูสีไม่ต่างกันมากนัก โดยสรุปเรื่องประสิทธิภาพ Seagate Seven มีความเร็วในการอ่านค่อนข้างดี ทำความเร็วได้ในทุกๆ การทดสอบ แต่ความเร็วในการอ่านยังค่อนข้างช้าอยู่พอสมควร ถ้าปรับตรงนี้ขึ้นได้อีกหน่อยก็น่าจะดีขึ้น
ราคา 4, 290 บาท
iStudio by copperwired
โทร. 02-665-2950-3
www.mustlovemac.co