เอสเอพี เอสอี (NYSE: SAP) ล่าสุดได้ประกาศการขยายตัวของ SAP® Cloud Platform ซึ่งเคยเป็นที่รู้จักในชื่อ SAP HANA® Cloud Platform ก่อนหน้านี้ ด้วยความสามารถใหม่ๆ และส่วนขยายเพิ่มเติมใหม่ๆ เพื่อการส่งมอบบริการ platform as a service (PaaS) ให้กับผู้นำในวงการอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วยชุดการให้บริการด้านธุรกิจที่ครอบคลุมมากขึ้น ช่วยให้ SAP Cloud Platform สามารถตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่สำคัญมากที่สุด ด้วยการช่วยเพิ่มความง่ายและรวดเร็วในการสร้างแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ รวมถึงช่วยเร่งการขยายและรวบการใช้งานของแอพพลิเคชั่นต่างๆจากเอสเอพีเข้าด้วยกัน พร้อมทั้งมอบพลังด้านนวัตกรรมจากอินเตอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (ไอโอที) เร่งการทำงานของโปรเจ็คด้าน บิ๊ก ดาต้า ต่างๆ และช่วยให้ธุรกิจต่างๆสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นด้าน machine learning และ artificial intelligence ได้ดียิ่งขึ้น
นายเบิร์นด ลูเคิร์ต กรรมการผู้บริหาร ฝ่าย Products & Innovation จาก เอสเอพี เอสอี กล่าวว่า “ตั้งแต่เราเปิดตัวบริการ PaaS ไปเมื่อสามปีที่แล้ว เราได้พัฒนาให้มันกลายเป็นแพลตฟอร์ม ดิจิตอล เอ็นเตอร์ไพรซ์ ที่ช่วยให้ลูกค้า พาร์ทเนอร์ และนักพัฒนาสามารถสร้างโซลูชั่นที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถเชื่อมต่อผู้คน สิ่งของ และธุรกิจต่างๆเข้าด้วยกันได้อย่างชาญฉลาด เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่มากขึ้นของแพลตฟอร์มดังกล่าว เราจึงได้ทำการรีแบรนด์และตั้งชื่อมันขึ้นใหม่ว่า SAP Cloud Platform ซึ่งแพลตฟอร์มดังกล่าวได้สร้างความแตกต่างทางดิจิตอล โดยการเชื่อมต่อสมาร์ท ดีไวซ์ และเครื่องจักรต่างๆที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเข้ากับผู้คน และกระบวนการดำเนินงานต่างๆ สู่การบรรลุผลทางธุรกิจที่เหนือกว่า”
ปัจจุบัน แอพพลิเคชั่น เอ็นเตอร์ไพรซ์จากเอสเอพี และอีกมากกว่า 1,000 แอพพลิเคชั่นจากพาร์ทเนอร์ ได้ถูกสร้างขึ้นบน SAP Cloud Platform โดยจะมีการเพิ่มบริการใหม่ๆเข้าไปบน SAP Cloud Platform อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างรากฐานสำหรับ SAP Leonardo ชุดโซลูชั่นไอโอทีจากเอสเอพี ซึ่งเชื่อมต่อดีไวซ์อัจฉริยะ เข้ากับผู้คนและขั้นตอนการดำเนินธุรกิจต่างๆ, SAP Clea ชุดโซลูชั่นและการบริการที่เกี่ยวข้องกับ machine learning รวมไปถึงชุดโซลูชั่น SAP BusinessObjects™ Cloud และ SAP Digital Boardroom ด้วยเช่นกัน
ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จาก SAP Cloud Platform ได้อย่างทั่วถึง
Aesculap หนึ่งในแผนกของบริษัทเฮลธ์แคร์ระดับโลกอย่าง B. Braun Melsungen AG ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์และการให้บริการด้านกระบวนการหลัก (core processes) ในการผ่าตัด
นายมาร์ติน รันเคล กรรมการผู้จัดการของ B. Braun IT Service GmbH กล่าวว่า “ด้วยการร่วมมือกับเอสเอพี ทำให้เราสามารถพัฒนาเครื่องมือสำหรับแผนก Aesculap ซึ่งช่วยให้บุคลากรของโรงพยาบาลทำงานได้ง่ายขึ้น ด้วยการใช้งาน SAP Cloud Platform เราสามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับ iOS ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการบริหารจัดการภาชนะบรรจุแบบฆ่าเชื้อสำหรับเครื่องมือผ่าตัดของโรงพยาบาล สิ่งนี้ช่วยให้โรงพยาบาลสามารถเพิ่มสุขอนามัยและคุณภาพของเครื่องมือผ่าตัดได้มากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับตลาดที่กำลังเกิดใหม่ ซึ่งโรงพยาบาลต่างๆอาจจะมีอุปกรณ์และเครื่องมือที่ยังไม่ครบครัน”
การบริการใหม่ๆที่ถูกเพิ่มเข้าไปใน SAP Cloud Platform
- SAP Cloud Platform SDK for iOSเตรียมออกวางจำหน่ายในวันที่ 30 มีนาคมนี้ การบริการดังกล่าวถูกสร้างขึ้นเพื่อมอบเครื่องมือและความสามารถในการย่อ-ขยายที่นักพัฒนา นักออกแบบ และธุรกิจต่างๆต้องการในการสร้างแอพพลิเคชั่นเกรดเอ็นเตอร์ไพรซ์สำหรับ iPhone และ iPad ได้รวดเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีรากฐานจาก SAP Cloud Platform และ Swift โปรแกรมภาษาแบบโมเดิร์นจาก Apple
- แอพพลิเคชั่นสำหรับโทรศัพท์มือถือSAP Project Companion เตรียมออกวางจำหน่ายในวันที่ 30 มีนาคมนี้ มันคือแอพพลิเคชั่นสำหรับ iOS ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อมอบการบูรณาการผ่าน SAP Cloud Platform ด้วยโซลูชั่น SAP S/4HANA® Professional Services Cloud ซึ่งผู้ใช้งานสามารถใช้ประโยชน์จากดาต้าแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้คำปรึกษา หรือผู้จัดการโปรเจ็ค หรือผู้ใช้งานอื่นๆที่ใช้ชีวิตแบบไม่อยู่นิ่งกับที่ ก็สามารถสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่ไร้ความซับซ้อนได้ด้วยเช่นกัน
- SAP API Business Hubมอบตัวเลือก application programming interfaces (APIs) นับไม่ถ้วนสำหรับแอพพลิเคชั่นเอสเอพีโดยเฉพาะ ซึ่ง APIs เหล่านี้จะถูกเพิ่มเข้าไปใน Hub อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ง่ายต่อการสร้างและทดสอบการทำงานใหม่ๆและแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ตัวอย่างเช่น API ใหม่สำหรับ SAP S/4HANA Cloud suite, SAP Mobile Service application และ SAP Localization Hub, tax service
- SAP Cloud Platform Workflow serviceเตรียมออกวางจำหน่ายในวันที่ 30 มีนาคมนี้ เป็นบริการที่มีจุดมุ่งหมายในการมอบคำจำกัดความใหม่ให้กับฟังก์ชั่นของธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ โดยการเชื่อมต่อฟังก์ชั่นเหล่านั้นอย่างรวดเร็วและง่ายดายเข้ากับ graphical interface สำหรับนักวิเคราะห์ธุรกิจ เพื่อสร้างเวิร์คโฟลว์ในกระบวนการทางธุรกิจที่มีระบบมากขึ้น
- SAP Cloud Platform Virtual Machine serviceออกวางจำหน่ายในยุโรป, ตะวันออกกลาง, และภูมิภาคแอฟริกา (EMEA) ช่วงพฤศจิกายนที่ผ่านมา เตรียมออกวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาภายในไตรมาสแรกของปีนี้ เป็นบริการที่ช่วยให้ลูกค้าสร้างภูมิทัศน์สำหรับโซลูชั่นของตนได้อย่างสมบูรณ์ โดยการเพิ่มปริมาณงานที่เหมาะสม ซึ่งอ้างอิงจากซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ปัจจุบันในองค์กร หรือภาษาต่างๆ และรุ่นการใช้งานของซอฟต์แวร์ที่สามารถใช้งานได้โดยตรงบน SAP Cloud Platform
- SAP Cloud Platform IoT serviceออกวางจำหน่ายแล้วในเวอร์ชั่นเบต้า ด้วยการสนับสนุนจากมากกว่า 40 ดีไวซ์ โปรโตคอล บริการด้านการบริหารจัดการดีไวซ์ดังกล่าว สามารถช่วยให้องค์กรต่างๆใช้ประโยชน์จากไอโอที ในการตรวจสอบอย่างทันท่วงที และตอบสนองได้รวดเร็วขึ้น ส่วนขยายดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบรวมบริการด้านไอโอทีต่างๆเข้ากับ SAP Cloud Platform Streaming Analytics service เพื่อการประมวลผลดาต้าได้อย่างรวดเร็วขึ้น
- SAP Cloud Platform Big Data Services (ชื่อก่อนหน้านี้คือAltiscale) มอบ Hadoop บนคลาวด์ ซึ่งช่วยมอบรากฐานที่แข็งแรงให้กับแอพพลิเคชั่น บิ๊ก ดาต้า ต่างๆ
- ดาต้า เซ็นเตอร์ แห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่ญี่ปุ่นและจีน พร้อมด้วยการสนับสนุนด้านภาษาเต็มรูปแบบ
SAP Cloud Platform คือแอพพลิเคชั่นคลาวด์ และโซลูชั่นแบบบูรณาการที่มีความคล่องตัว ทำหน้าที่ช่วยสนับสนุนการขยายตัวของแอพพลิเคชั่นดิจิตอลหลักต่างๆ ได้แก่ SAP S/4HANA, SAP SuccessFactors®, SAP Ariba®, SAP Fieldglass®, Concur® และแอพพลิเคชั่นอื่นๆจากเอสเอพี ด้วยแอพพลิเคชั่นที่สร้างขึ้นโดยเอสเอพีกว่า 1,000 แอพ และพาร์ทเนอร์มากกว่า 600 รายบน SAP Cloud Platform ลูกค้าและพาร์ทเนอร์ของเอสเอพีสามารถใช้ประโยชน์จากคลาวด์และการเชื่อมต่อสู่เครือข่ายทางธุรกิจของตนได้อย่างง่ายดายผ่าน SAP Cloud Platform
คริสตอฟ มูลลี กรรมการผู้จัดการอาวุโส และผู้อำนวยการฝ่าย Global SAP practice จาก Accenture กล่าวว่า “จากการเป็นผู้ใช้งาน SAP Cloud Platform รายแรกๆ Accenture ได้เริ่มพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ๆขึ้น เพื่อสร้างมูลค่าการลงทุนที่มากขึ้นให้กับลูกค้าในการเลือกใช้โซลูชั่นSuccessFactors จากเอสเอพี นอกจากนี้ เรายังมีการพัฒนาบน SAP Cloud Platform อย่างต่อเนื่อง ผ่าน Accenture Liquid Studio for SAP Solutions ซึ่งช่วยวางรูปแบบและส่งมอบแอพพลิเคชั่นต่างๆให้กับลูกค้าของเราได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น machine learning,ไอโอที, และการวิเคราะห์ชั้นสูงเพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิตอลที่รวดเร็วขึ้น เราจะยังคงเดินหน้าใช้ SAP Cloud Platform เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถสร้างสรรค์และส่งมอบผลลัพธ์ทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วในเวลาเดียวกัน”
For more information, visit the SAP News Center. Follow SAP on Twitter at @sapnews.
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ท่านสามารถเยี่ยมชมเว็บไซด์ SAP News Center หรือติดตามความเคลื่อนไหวผ่านทวิตเตอร์ @sapnews
*IDC, Worldwide Competitive Cloud Public Cloud Platform as a Service Forecast 2016–2020, doc #US40779916, July 2016