ออราเคิลช่วยให้องค์กรต่างๆ ขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้าน Customer Experience ด้วย Oracle Service Cloud และ Oracle Social Cloud เวอร์ชั่นล่าสุด

ออราเคิลเปิดตัวฟังก์ชั่นการใช้งานใหม่ที่ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญใน Oracle Service Cloud และ Oracle Social Cloud ซึ่งช่วยให้องค์กรต่างๆ ส่งมอบประสบการณ์ลูกค้า (customer experience) ที่ดียิ่งขึ้นและขับเคลื่อนการตัดสินใจทางธุรกิจที่ใช้ข้อมูลรอบด้านมากขึ้น ทั้งนี้ ขีดความสามารถใหม่ๆ ด้านการบริการลูกค้าผ่านโลกโซเชี่ยลช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถเพิ่มระดับความผูกพันกับแบรนด์ผ่านทางโลกโซเชียลและข้อมูลเชิงลึกด้วยโซลูชั่นประเภท community self-service และระบบ incident routing ที่พัฒนาขึ้นใหม่ให้ดียิ่งขึ้น และด้วยคุณสมบัติด้าน social listening และ analytics ที่ต่อยอดไปยัง private data source หลากหลายรูปแบบ

ปัจจุบัน กว่า 1 ใน 3 ของลูกค้าเลือกติดต่อหรือมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ต่างๆ ผ่านช่องทางโซเชียลมากกว่าทางโทรศัพท์หรืออีเมล์ (Nielsen) และความแตกต่างระหว่างช่องทางโซเชียลและแบบดั้งเดิมก็กำลังสูญสลายไป ด้วยเหตุนี้ ในการส่งมอบประสบการณ์ลูกค้า (customer experience) ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ผ่านช่องทางปกติและดิจิตอลที่แพร่หลายมากขึ้นนั้น แผนกดูแลลูกค้าจำเป็นต้องนำเสนอบริการที่ดีและครบวงจรในสถานที่และเวลาที่ลูกค้าต้องการ ไม่ว่าจะเป็นบน Twitter, Facebook, ชุมชนออนไลน์ หรือโซเชียลเน็ตเวิร์คอื่นๆ กล่าวคือ องค์กรจะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้ด้วยการส่งมอบประสบการณ์ลูกค้าแบบครบวงจรและทันสมัย​​ผ่านช่องทางที่หลากหลาย

 

คุณสมบัติใหม่ล่าสุดของ Oracle Service Cloud ประกอบด้วย Community Self-Service ซึ่งเป็นวิธีการใหม่ในการส่งมอบบริการแบบ web self-service ที่จะนำปฏิสัมพันธ์แบบชุมชนเข้าไปสู่ประสบการณ์หลักหลากหลายช่องทางบนเว็บโดยตรง โดยปัจจุบัน Oracle Service Cloud จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจและไร้รอยต่อระหว่างบริการผ่านเว็บและการมีปฏิสัมพันธ์แบบชุมชน ใช้ประโยชน์จากพลังของความรู้ของลูกค้าในการปรับปรุงการให้บริการ คุณสมบัตินี้จะช่วยให้องค์กรปรับปรุงระบบการติดต่อขอความช่วยเหลือของลูกค้าและช่วยให้ลูกค้าได้คำตอบอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ผลักดันประสิทธิภาพด้านต่างๆ โดยการลดภาระการร้องขอความช่วยเหลือโดยรวมของคอนแท็คเซ็นเตอร์

 

“ผลการวิจัยของการ์ทเนอร์ (Gartner) ระบุว่า การลงทุนพัฒนาระบบประเภท Peer-to-Peer Communities ช่วยลดค่าใช้จ่ายและช่วยเพิ่มผลกำไร ทั้งนี้ ในหมายเหตุงานวิจัยเมื่อเดือนธันวาคม 2014 ในหัวข้อ Nine CRM Projects to Do Right Now for Customer Serviceลูกค้าของการ์ทเนอร์ที่ประสบความสำเร็จในด้านนี้ได้เห็นอัตราที่ลดลงโดยเฉลี่ย 20% ของการขอความช่วยเหลือจากลูกค้าหลังใช้ระบบ Peer-to-Peer Communities” ไมเคิล มาออซ รองประธานและนักวิเคราะห์อาวุโสของการ์ทเนอร์ กล่าว “ลูกค้าจะได้เห็นประโยชน์ทางธุรกิจด้านอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ด้วยการให้การสนับสนุนช่วยเหลือลูกค้าในรูปแบบ community-based ลูกค้าสามารถรับรู้ถึงโอกาสในการขายใหม่ๆ และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าที่มีอยู่ ซึ่งส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้นในหลายกรณี”

 

นอกจากนี้ ออราเคิลยังได้เปิดตัวขีดความสามารถด้านเวิร์คโฟล์และออโตเมชั่นใหม่ๆ ระหว่าง Oracle Social Cloud และ Oracle Service Cloud ซึ่งช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จากพลังของข้อมูลเชิงลึกและการสร้างความผูกพันธ์กับแบรนด์ผ่านทางโลกโซเชียล ปัจจุบันผู้ใช้งานในแง่ธุรกิจสามารถแนบคุณลักษณะตามบริบทและบันทึกที่สร้างขึ้นจากการโพสต์หรือเหตุการณ์ที่ระบุโดย Oracle Social Cloud ไปยัง Oracle Service Cloud ได้โดยตรง และด้วยการให้ข้อมูลและบริบทของลูกค้ามากขึ้น องค์กรต่างๆ สามารถปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ ผลักดันประสิทธิภาพ และร่นระยะเวลาหาข้อสรุป เนื่องจากโพสต์ต่างๆ บนโลกโซเชียลถูกแชร์ไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้อย่างรวดเร็ว

 

การเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นระหว่าง Oracle Social Cloud และ Oracle Service Cloud ประกอบด้วย ระบบ social listening และ analytics ที่ถูกขยายไปยังแหล่งข้อมูลองค์กรแบบ private-data source เช่น ขีดความสามารถใหม่ด้าน Community Self-Service ข้อมูลการสำรวจ การสนทนา และบันทึกการโทร ปัจจุบันองค์กรต่างๆ สามารถรับฟังและวิเคราะห์ข้อมูลที่กระจัดกระจาย และได้รับข้อมูลเชิงลึกที่มาพร้อมเงื่อนไข แนวคิดหลัก อารมณ์ความรู้สึก และเกณฑ์ชี้วัดของลูกค้า และสามารถดูข้อมูลส่วนที่เป็น private และ public ควบคู่กันไปใน dashboard ของ Oracle Social Cloud Relationship Management

 

“ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจมีการแข่งขันรุนแรงในปัจจุบัน การทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญเพื่อที่จะนำเสนอบริการและประสบการณ์ที่โดดเด่นและแตกต่าง ไม่ว่าจะบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่เป็นสาธารณะ ผ่านชุมชนออนไลน์ต่างๆ หรือภายในคอนแท็คเซ็นเตอร์ที่มีการติดต่อสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างใกล้ชิด” เดวิด แวป รองประธานกลุ่มบริษัท ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของออราเคิล กล่าว “การปรับปรุงคุณสมบัติของ Oracle Service Cloud และ Oracle Social Cloud ครั้งนี้ ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถรับฟัง ระบุ และติดตามการสนทนาผ่านทางโลกโซเชียลได้ ทำให้พวกเขาตอบสนองต่อลูกค้าที่กำลังมองหาคำตอบหรือความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยบ่มเพาะกลุ่ม brand ambassador ที่มีความภักดีได้เป็นอย่างดี”

 

การปรับปรุงขีดความสามารถล่าสุดของ Oracle Social Cloud และ Oracle Service Cloud ช่วยส่งเสริมความมุ่งมั่นของออราเคิลที่จะช่วยให้องค์กรต่างๆ ใช้ประโยชน์จากช่องทางโซเชียลเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ลูกค้าและต่อยอดการพัฒนาโซลูชั่นด้านการยกระดับบริการลูกค้าผ่านโซเชียลด้วย Twitter ของออราเคิลที่เปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ได้อีกด้วย

 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าฟังบรรยายของ สตีเฟ่น ฟิโอเรตติ ในหัวข้อ Accelerating Success with Modern Service in the Cloud เวลา 15:10 น. ใน A204 ในวันอังคารที่ 18 กันยายน ที่งาน CRM Evolution ในนิวยอร์ก และเยี่ยมชมนวัตกรรมของออราเคิลได้ที่บูธหมายเลข 300

Latest

ใช้ NAS ให้เป็น Google Photo server ด้วย immich

หลายคนชอบใช้ google photo ในการแบ็กอัพรูปจากมือถือ เพราะมีลูกเล่นให้ใช้เยอะแยะ แต่ติดที่ว่าเนื้อที่มักไม่เคยพอ และต้องจ่ายรายปี ต่ำๆ ก็ต้อง...

รัน Stable Diffusion เร็วขึ้น 10x ด้วย AMD GPU

ปกติแล้วตัว Stable Diffusion (ต่อไปขอเรียกสั้นๆ ว่า SD) สามารถติดตั้งและใช้งานได้เลยบน Nvidia GPU...

สร้างภาพ AI บนวินโดวส์ + การ์ดจอ AMD ด้วย Amuse AI

คนใช้การ์ดจอ AMD จะมีความเป็นลูกเมียน้อยอยู่นิดนึง เพราะโปรแกรมและโมเดลสร้างภาพส่วนใหญ่ จะออกแบบมาให้ใช้กับ CUDA ของ Nvidia เป็นหลัก แต่ต่อไปนี้คนใช้...

ใช้ windows 11 อย่างเซียน ด้วย PowerToys (ฟรี)

PowerToys เป็นชุดเครื่องมือฟรีจาก Microsoft ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของผู้ใช้ Windows โดยเฉพาะ Windows 11 ซึ่ง...

Newsletter

Don't miss

ใช้ NAS ให้เป็น Google Photo server ด้วย immich

หลายคนชอบใช้ google photo ในการแบ็กอัพรูปจากมือถือ เพราะมีลูกเล่นให้ใช้เยอะแยะ แต่ติดที่ว่าเนื้อที่มักไม่เคยพอ และต้องจ่ายรายปี ต่ำๆ ก็ต้อง...

รัน Stable Diffusion เร็วขึ้น 10x ด้วย AMD GPU

ปกติแล้วตัว Stable Diffusion (ต่อไปขอเรียกสั้นๆ ว่า SD) สามารถติดตั้งและใช้งานได้เลยบน Nvidia GPU...

สร้างภาพ AI บนวินโดวส์ + การ์ดจอ AMD ด้วย Amuse AI

คนใช้การ์ดจอ AMD จะมีความเป็นลูกเมียน้อยอยู่นิดนึง เพราะโปรแกรมและโมเดลสร้างภาพส่วนใหญ่ จะออกแบบมาให้ใช้กับ CUDA ของ Nvidia เป็นหลัก แต่ต่อไปนี้คนใช้...

ใช้ windows 11 อย่างเซียน ด้วย PowerToys (ฟรี)

PowerToys เป็นชุดเครื่องมือฟรีจาก Microsoft ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของผู้ใช้ Windows โดยเฉพาะ Windows 11 ซึ่ง...

หยอดปุกรอ!! 4 รถแบรนด์ดัง พลังงานไฮโดรเจน น่าจับตาปี 2023

สำหรับปี 2023 เป็นต้นไปนี้ เราจะเห็นรถพลังงานไฮโดรเจนเปิดตัวมากขึ้น ดูเหมือนทุกค่ายจะซุ่มทำรถไฮโดรเจนของตัวเอง แล้วเหมือนจะนัดกันเปิดตัวในปีนี้พร้อมๆ กัน

ใช้ NAS ให้เป็น Google Photo server ด้วย immich

หลายคนชอบใช้ google photo ในการแบ็กอัพรูปจากมือถือ เพราะมีลูกเล่นให้ใช้เยอะแยะ แต่ติดที่ว่าเนื้อที่มักไม่เคยพอ และต้องจ่ายรายปี ต่ำๆ ก็ต้อง 7-8 ร้อยกว่าบาทต่อปีเลยทีเดียว แต่ถ้าหากคุณมีเครื่อง NAS อยู่ที่บ้าน ผมจะมาบอกข่าวดีว่า เราสามารถทำให้ NAS แบ็กอัพรูปถ่ายจากมือถือเป็นเหมือน google photo ได้ด้วยแอพที่ชื่อว่า immich immich มีความสามารถใกล้เคียงกับ google photo...

รัน Stable Diffusion เร็วขึ้น 10x ด้วย AMD GPU

ปกติแล้วตัว Stable Diffusion (ต่อไปขอเรียกสั้นๆ ว่า SD) สามารถติดตั้งและใช้งานได้เลยบน Nvidia GPU โดยไม่ต้องปรับแต่งอะไรทั้งสิ้น แต่พอเป็นเครื่อง AMD GPU ตัว SD จะรันไม่ได้ ต้องไปรันบน CPU แทน ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าประสิทธิภาพสู้รันบน GPU ไม่ได้เลย บล็อกนี้เลยจะมาแสดงวิธีการติดตั้งและรัน SD บนเครื่องที่ใช้การ์ดจอ...

สร้างภาพ AI บนวินโดวส์ + การ์ดจอ AMD ด้วย Amuse AI

คนใช้การ์ดจอ AMD จะมีความเป็นลูกเมียน้อยอยู่นิดนึง เพราะโปรแกรมและโมเดลสร้างภาพส่วนใหญ่ จะออกแบบมาให้ใช้กับ CUDA ของ Nvidia เป็นหลัก แต่ต่อไปนี้คนใช้ AMD ไม่ต้องน้อยใจอีกต่อไป เพราะ Amuse AI คือโปรแกรมที่ออกแบบมาให้ใช้กับแพลตฟอร์มของ AMD โดยเฉพาะครับ สำหรับการ์ดจอนั้น ทาง Amuse AI แนะนำให้ใช้รุ่น RX 7000 ที่มี...

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here