ออราเคิลเปิดตัวชุดให้บริการโครงสร้างพื้นฐานบนระบบคลาวด์ (IaaS) ในรูปแบบ Bare Metal Cloud Services ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วกว่า 11.5 เท่า ในราคาที่ถูกกว่าผู้ให้บริการคู่แข่งถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการขยายบริการออราเคิลคลาวด์แพลตฟอร์มช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้บริการระบบซอฟต์แวร์ทั้งแบบ multi-tenant และ single-tenant และสามารถใช้บริการออราเคิลอื่นคลาวด์อื่นๆ ได้แก่ Oracle Bare Metal Cloud Services, Oracle Ravello Cloud Service, Oracle Container Cloud Service รวมทั้งยกระดับการทำงานของ Oracle Cloud services
เห็นได้ชัดว่าขณะนี้องค์กรธุรกิจใช้ประโยชน์จากระบบคลาวด์สาธารณะมากขึ้น หลายองค์กรเผชิญปัญหาในการทำงานทั้งระบบความปลอดภัย และข้อคำนึงด้านการบริหารจัดการ นั่นหมายความว่าองค์กรไม่สามารถยกเลิกระบบไอทีเดิมและถ่ายเทข้อมูลการทำงานทั้งหมดไปยังระบบคลาวด์ได้ ซึ่งบริการคลาวด์ IaaS ล่าสุดจากออราเคิล ช่วยให้องค์กรสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ โดยเพิ่มความสามารถในการควบคุมการใช้ประโยชน์จากระบบคลาวด์ และในขณะเดียวกันยังคงประโยชน์ที่ได้จากการทำงานของดาต้าเซ็นเตอร์ ภายในองค์กรอีกด้วย
Oracle Bare Metal Cloud Services ถือบริการคลาวด์สาธารณะขั้นสูง ที่ประกอบด้วยสภาพแวดล้อมระบบการทำงานเครือข่ายแบบจำลองเต็มรูปแบบ นวัตกรรมการให้บริการรูปแบบใหม่เหล่านี้ช่วยให้การทำงาน Database-as-service, ระบบจัดเก็บข้อมูล และ การเชื่อมต่อ VPN สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ Oracle Bare Metal Cloud Services ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเพิ่มความสามารถผ่านการทำงานของซอฟต์แวร์ Virtual Cloud Network (VCN) ที่ทำให้หน้าที่ดูแลการทำงานในส่วนของความปลอดภัยและความยืดหยุ่นของเครือข่ายแบบ on-premise ภายในองค์กร อีกทั้ง Oracle Bare Metal Cloud Servicesยังช่วยเพิ่มความเร็วของเครือข่ายโดยการเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างคอมพิวเตอร์และโหนด
การทำงานของ Oracle Bare Metal Cloud Services ประกอบด้วยสามโดเมนที่ช่วยสร้างความพร้อมใช้งานสูงและเพิ่มระบบที่คงทนต่อความเสียหายของแอพพลิเคชั่นคลาวด์ ซึ่งยังสามารถทำงานร่วมกับ Oracle Cloud Platform เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากระบบออราเคิลคลาวด์
เพื่อยกระดับดาต้าเซ็นเตอร์, เครือข่าย และโครงสร้างพื้นฐานเซิร์ฟเวอร์ ให้ล้ำสมัยที่สุด Oracle Bare Metal Services ถูกออกแบบด้วยวิธีการที่แตกต่างในการพัฒนาคลาวด์แพลตฟอร์มเพื่อให้ผู้ใช้งานมีตัวเลือกและความยืดหยุ่นในกานใช้งานระบบคลาวด์มากขึ้น โดยมาพร้อม Ultra-Dense Compute Servers ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับปริมาณงานภายในองค์กร ด้วยการให้ค่าปริมาณสูงสุดในการอ่านและเขียนไฟล์ ( IOPS ) และปริมาณการรับและการส่งข้อมูลผ่านเซิร์ฟเวอร์สตอเรจได้สูงสุดอีกด้วย
อีกทั้งผู้ใช้งานยังสามารถกำหนด ความเร็วของ IOPS ได้ถึง 10 เท่า ซึ่อถือเป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าที่มองหาระบบคลาวด์ในราคาย่อมเยา นอกจากนิ้ยังให้การทำงานประสิทธิภาพสูงโดยไม่ต้องใช้ระบบปฏิบัติการซอฟต์แวร์บนโฮสต์คอมพิวเตอร์ ซึ่งออราเคิลสามารถลดความเสี่ยงและส่งมอบการรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในระบบคลาวด์
เพื่อขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ Oracle Cloud Platform ออราเคิลยังเปิดตัว Oracle Ravello Cloud Service ระบบการให้บริการคลาวด์แบบแรกที่ให้ลูกค้าสามารถใช้ VMware และ Kernel-based Virtual Machine (KVM) ในระบบคลาวด์สาธารณะโดยไม่ต้องมีการตั้งค่าแอพลิเคชันหรือเปลียนเครือช่าย
นอกจากนี้ยังเปิดตัว Oracle Container Cloud Service ที่องกรค์สามารถติดตั้งใช้งานได้อย่างง่ายดาย และ Oracle FastConnect เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้สามารถเชื่มต่อดาต้าเซ็นเตอร์ได้อย่างปลอดภัยและให้การเชื่อมต่อกับโครงข่ายแบบ IPsec VPN และ MPLS อีกด้วย
นายโธมัส คูเรียน ประธานกรรมการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ออราเคิล กล่าวว่า “เนื่องจากหลายองค์กรเริ่มใช้บริการคลาว์ดเพื่อลดความซับซ้อนในการทำงานของโครงสร้างพื้นฐานไอทีและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมการจัดการฝ่ายไอที บริการใหม่ล่าสุดของ Oracle Cloud Platform ช่วยให้องค์กรสามารถเชื่อมต่อการใช้งานผ่านระบบ Virtual Cloud Network (VCN) ที่สามารถทำงานร่วมกับดาต้าเซ็นเตอร์ภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ”