ออปโป้ (OPPO) แบรนด์โทรศัพท์มือถือเพื่อการถ่ายภาพประกาศร่วมมือเป็นพาร์ทเนอร์กับศูนย์ค้นคว้าวิจัย NYU WIRELESS ที่ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (NYU Tandon School of Engineering) สถาบันด้านวิศวกรรมเอกชน ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีไร้สายสำหรับยุคใหม่
ออปโป้จะร่วมมือกับ NYU WIRELESS เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีระบบ 5G และทำงานร่วมกับนักเรียนและคณาจารย์ โดย NYU WIRELESSเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำการศึกษาวิจัยนานาชาติที่เชื่อมโยงผลการวิจัยคลื่นความถี่ 5G จากนักวิจัยต่างๆทั่วโลก ซึ่งผลงานวิจัยที่ผ่านมาได้ถูกอ้างอิงโดย องค์กรด้านบริหารความถี่ของประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ Federal Communications Commission (FCC) เมื่อคณะกรรมการได้ค้นพบเทคโนโลยีคลื่นความถี่ระดับมิลลิเมตรที่ใช้ในการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง
ยิ่งไปกว่านั้นออปโป้ ยังได้เข้าร่วมการประชุม Brooklyn 5G Summit ครั้งที่ 4 ที่จัดขึ้น ณ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (NYU) ระหว่างวันที่ 19-21 เมษายน 2560 โดยมุ่งเน้นไปที่การออกแบบแผนงานเพื่อรองรับคลื่นความถี่ 5G และการวางข้อกำหนดขอบเขตการใช้งานอินเทอร์เน็ตในธุรกิจอย่างเทคโนโลยีไร้สาย ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อรวบรวมผู้นำทั่วโลกจากธุรกิจยานยนต์ ระบบบริการสุขภาพ ภาคศึกษา และ ภาครัฐเข้าไว้ด้วยกัน
Sundeep Rangan รองศาสตราจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (NYU Tandon School of Engineering) กล่าวว่า “พวกเราตั้งตารอที่จะได้ทำงานอย่างใกล้ชิดและรู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้ร่วมงานกับทางออปโป้ ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ สู่ตลาดโดยตลอด ดังนั้นการที่ได้มาร่วมมือกับศูนย์ค้นคว้าวิจัย NYU WIRELESS จะช่วยเสริมศักยภาพในการรับส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
Hai Tang ผู้บริหารฝ่ายควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์จากบริษัทออปโป้ กล่าวว่า “NYU WIRELESS เป็นเหมือนแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับนวัตกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีโทรคมนาคมแห่งสำคัญ ซึ่งเรารู้สึกยินดีที่ได้มาร่วมงานกันในครั้งนี้ ในฐานะหนึ่งในผู้จำหน่ายสมาร์ทโฟนอันดับต้นๆของโลก เราขอให้สัญญาว่าจะพัฒนาค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยี 5G อย่างจริงจัง และเราเชื่อว่าความร่วมมือนี้จะมีบทบาทสำคัญในวิวัฒนาการการสื่อสารสำหรับอนาคต”
ที่ผ่านมาออปโป้ได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งการร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นอีกสิ่งที่ตอกย้ำความสามารถและความเป็นผู้นำในด้านอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ทั้งยังช่วยยกระดับงานวิจัยเกี่ยวกับระบบเครือข่าย 5G ในระดับสากลอีกด้วย