ในยุคที่เส้นแบ่งระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์จางลงทุกขณะ เราต่างแบ่งปันเรื่องราวส่วนตัวทั้งสุขและทุกข์อย่างเปิดเผยแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เชื่อมต่อกับผู้คนที่เรารัก บันทึกทุกความเคลื่อนไหว ซึ่งทุกสิ่งนี้สามารถพบได้บน Facebook แต่ความสะดวกสบายนี้จะต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ เนื่องจากความปลอดภัยบนโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่สำคัญไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง และผู้ใหญ่ควรมั่นใจว่าเด็กๆ เห็นความสำคัญนี้เช่นกัน Facebook จึงขอแนะนำขั้นตอนง่ายๆ เพื่อรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเมื่อเข้าใช้ Facebook ไม่ว่าจะเป็นการจัดการโปรไฟล์ส่วนตัวหรือ Facebook สำหรับธุรกิจก็ตาม
อัพเดตข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานอย่างสม่ำเสมอ
หนึ่งในวิธีพื้นฐานเพื่อป้องกันการถูกแฮกข้อมูลคือ การเปลี่ยนพาสเวิร์ดอย่างสม่ำเสมอ หรือทุก 2 เดือนเป็นอย่างน้อย พาสเวิร์ดที่ใช้ควรมีความปลอดภัยสูง มีทั้งตัวเลข ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็กผสมกัน หากมีการเปลี่ยนอีเมล์ใหม่ อย่าลืมอัพเดตข้อมูลอีเมล์ใน Facebook ด้วยเช่นกัน โดยสามารถแก้ไขข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานได้ที่ Account settings (การตั้งค่าบัญชีผู้ใช้ทั่วไป) หรือ https://www.facebook.com/settings
ป้องกันภัยจากฟิชชิงหรือการหลอกลวงบนอินเทอร์เน็ต
แฮกเกอร์หรือผู้สร้างสแปมสามารถสร้างเว็บไซต์หลอกซึ่งมีหน้าตาเหมือนหน้าล็อกอิน (ลงชื่อเข้าใช้) ของ Facebook เมื่อกรอกชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่าน แฮกเกอร์จะได้รับข้อมูลเดียวกันและสามารถติดต่อเพื่อนหรือผู้ติดตามบน Facebook ของคุณได้ รวมถึงแอบอ้างเป็นคุณในการโพสต์ข้อความต่างๆ อีกด้วย เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของ การฟิชชิง ผู้ใช้งาน Facebook จึงควรสังเกตสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังพบกับการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต ดังนี้
- ข้อความในกล่องข้อความที่พิมพ์ผิด/สะกดไม่ถูกต้อง หรือมีการใช้ฟอนต์หลากหลายในข้อความเดียว
- ลิงค์หลอก: เมื่อคุณเลื่อนเม้าส์ไปบนลิงค์ ควรตรวจสอบที่อยู่ของลิงค์ที่ขึ้นบริเวณด้านล่างของเว็บบราวเซอร์ให้แน่ใจว่าตรงกับลิงค์ที่คุณต้องการจะคลิก
- ข้อความที่อ้างว่าได้แนบไฟล์พาสเวิร์ดของคุณมา เนื่องจาก Facebook ไม่มีนโยบายในการส่งพาสเวิร์ดเป็นไฟล์แนบ
- ข้อความที่แจ้งให้คุณกรอกข้อมูลส่วนตัวต่างๆ เช่น พาสเวิร์ดของบัญชีผู้ใช้งาน หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี หมายเลขบัตรเครดิต/รหัส PIN และอื่นๆ ทั้งนี้ Facebook ไม่มีนโยบายในการขอข้อมูลดังกล่าวจากผู้ใช้งานแต่อย่างใด
- ข้อความที่อ้างว่าบัญชีผู้ใช้งานของคุณจะถูกลบหรือระงับ หากคุณไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำโดยทันที
ตัวอย่างของหน้าล็อกอินปลอมสังเกตได้จาก URL ไม่ใช่ชื่อโดเมนของ Facebook
ลองใช้ฟีเจอร์ “การอนุมัติการเข้าสู่ระบบ” (login approvals)
กันไว้ก่อนย่อมดีกว่าเสียใจภายหลังเสมอ เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความปลอดภัยสูงสุดให้กับบัญชีผู้ใช้งาน Facebook ของคุณ ให้เลือกใช้ฟีเจอร์ “การอนุมัติการเข้าสู่ระบบ” ซึ่งอยู่ในหัวข้อการตั้งค่าความปลอดภัย (security settings) เมื่อเปิดการใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวแล้ว ระบบจะให้คุณกรอกรหัสความปลอดภัยพิเศษทุกครั้ง เมื่อคุณเข้าใช้งานจากคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ที่คุณไม่เคยใช้มาก่อน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวได้ที่ https://www.facebook.com/help/www/148233965247823
ตั้งค่าความปลอดภัยให้กับข้อมูลส่วนตัวและโพสต์
อีกวิธีที่สำคัญในการป้องกันคือ การตั้งค่าเลือกผู้ที่จะสามารถเห็นข้อมูลและโพสต์ของคุณ เครื่องมือความเป็นส่วนตัวของ Facebook ช่วยให้คุณกำหนดผู้ที่จะเข้าชมไทม์ไลน์ ข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงโพสต์และรูปภาพต่างๆ ของคุณได้อย่างเต็มที่ โดยแบ่งเพื่อนเป็นกลุ่มต่างๆ และกำหนดสิทธิ์ในการเข้าชมของแต่ละกลุ่ม นอกจากนี้ ยังเลือกได้ว่า
แอพลิเคชั่นต่างๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณได้มากน้อยเพียงใดอีกด้วย โดยตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้ที่
“ทางลัดความเป็นส่วนตัว” บนมุมขวาของทุกหน้า (สัญลักษณ์รูปแม่กุญแจ) หรือที่ลิงค์ https://www.facebook.com/settings/?tab=privacy&ref=mb
Facebook ยังมีเครื่องมือด้านความเป็นส่วนตัวอื่นๆ หรือ Interactive Tools เพื่อให้ตรวจสอบได้ว่าบุคคลทั่วไปจะเห็นโปรไฟล์ส่วนตัวของคุณมากน้อยเพียงไร โดยจะทำให้คุณเห็นไทม์ไลน์ของตัวเองในมุมมองที่บุคคลทั่วไปเห็น เมื่อพวกเขาค้นหาคุณจากโปรแกรมค้นหาต่างๆ และยังมีเครื่องมืออื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพโดยอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/about/privacy/tools
รายงานพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
Facebook ไม่นิ่งเฉยต่อพฤติกรรมไม่เหมาะสมซึ่งละเมิดเงื่อนไขการใช้งานของเรา สิ่งที่ควรทำ หากพบเห็นหรือถูกละเมิดด้วยพฤติกรรมดังกล่าว คือการรายงานให้ทาง Facebook ทราบในทันที วิธีที่ง่ายที่สุดคือการกดลิงค์ “Report” (รายงาน) ที่อยู่ใกล้กับโพสต์ ไทม์ไลน์ และเพจ
นอกจากนี้หากคุณถูกคุมคามผ่านกล่องข้อความ คุณสามารถคลิกรายงานพฤติกรรม ซึ่งจะบล็อกผู้ที่ส่งข้อความดังกล่าวโดยอัตโนมัติอีกด้วย การรายงานพฤติกรรมไม่เหมาะสมทุกครั้งจะไม่มีการเผยแพร่ให้ผู้อื่นทราบแต่อย่างใด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขการใช้งาน Facebook สามารถอ่านได้จาก https://www.facebook.com/terms.php
การรายงานทางสังคม (Social reporting)
เมื่อคุณล็อกอินเข้า Facebook ในเช้าวันถัดมาและเห็นรูปที่ไม่ค่อยเหมาะสมของคุณจากกิจกรรมใดๆ ก็ตามเมื่อคืนก่อน คุณจะทำอย่างไรเมื่อการโพสต์รูปดังกล่าวไม่ได้ละเมิดเงื่อนไขของ Facebook แต่คุณไม่อยากให้รูปดังกล่าวเปิดเผยต่อสาธารณะ คุณสามารถใช้การรายงานทางสังคมซึ่งเป็นการรายงานรูปภาพของตนเองและส่งข้อความไปยังผู้โพสต์เพื่อขอให้นำรูปของคุณออกจาก Facebook
คิดให้ดีก่อนที่จะแชร์
โลกอินเทอร์เน็ตนับเป็นโลกที่เชื่อมกับชีวิตของเราอย่างใกล้ชิดในปัจจุบัน มารยาททางสังคมต่างๆ จึงควรยึดถือปฏิบัติเช่นเดียวกัน ก่อนที่จะแบ่งปันเรื่องราวใดๆ บน Facebook จึงควรไตร่ตรองก่อนว่าคุณต้องการที่จะสื่อเช่นนั้นจริงๆ และสิ่งที่คุณกำลังจะแชร์นั้นละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นหรือไม่
หากคุณเป็นแอดมินของเพจบน Facebook ควรตรวจสอบให้มั่นใจว่าคุณกำลังล็อกอินอยู่ในบัญชีผู้ใช้ที่ถูกต้อง ระหว่างบัญชีผู้ใช้ส่วนตัวกับบัญชีผู้ใช้ของเพจก่อนที่จะโพสต์ข้อความ โดยสามารถเลือกสลับบัญชีผู้ใช้ได้ง่ายๆ จากเมนู
แบบดร็อปดาวน์ที่อยู่ด้านขวามือของแถบค้นหา
ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ Facebook ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเสมอมา เราเชื่อมั่นว่าการรักษาความปลอดภัยบนโลกออนไลน์จะเกิดขึ้นได้หากได้รับความร่วมมือจากทุกๆ คนในการสร้างสรรค์สังคมที่เป็นมิตรและปราศจากภัยคุกคามที่ซึ่งเราสามารถแบ่งปันเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างไร้ความกังวล
ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยบน Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/safety