ในงานแถลงข่าวของ Microsoft เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สตีฟ บอลเมอร์(Steve Ballmer) และผู้บริหารระดับสูงของ Microsoft ได้มีการพูดถึงอุปกรณ์ชิ้นใหม่ของทางบริษัทซึ่งก็คือ แท็บเล็ตนั่นเอง มันก็คงเป็นการที่ดีที่จะลองนำเอาแท็บเล็ตของ Microsoft ตัวนี้ไปเปรียบเทียบกับแท็บเล็ตเจ้าอื่นๆในตลาดดู
หากแต่ว่าเราไม่สามารถนำเจ้า Surface ทั้งสองรุ่นไปเทียบกับ แท็บเล็ตทั้งหมดในตลาดได้ถ้าจะเปรียบเทียบให้ถูกรุ่นนั้น คงต้องนำ ARM-base Surface สำหรับ Window RT ไปเทียบกับ แท็บเล็ตอื่นๆ ส่วนอีกตัวหนึ่งคือ Surface Window8 Pro ต้องนำไปเทียบกับ Ultrabooks ทั้งหลายที่มีอยู่ในตลาดเนื่องจากทั้งเสปกและความสามารถของตัว Surface Window 8 Pro จะละม้ายคล้ายคลึงกับ Ultrabooks มากกว่าจะเป็นแท็บเล็ตต่อไปนี้จะใช้ว่า Surface RT แทน ARM-base Surface สำหรับ Window RT และ Surface Pro แทน Surface Window 8 Pro
มีหลายคนหลงคิดว่าเจ้า Surface Pro นี่แหละที่รอคอยมานานที่สามารถทำงานได้เหมือนกัน desktop อีกทั้งยังสามารถเล่นเกมที่ต้องใช้กราฟิกรองรับเยอะๆอย่าง Diablo3 ได้เพราะเนื่องจากมันใช้หน่วยประมวลผลเช่นเดียวกับ แล็บท็อปเลยซึ่งก็คือตระกูลของ Intel ซึ่งสามารถใช้งานในส่วนโปรแกรมที่ซับซ้อนมากๆ ได้
แต่ในความเป็นจริงแล้วหลายๆคนมองข้ามจุดสำคัญข้อหนึ่งไปว่า แท้จริงแล้วราคาของเจ้าแท็บเล็ตตัวนี้ไม่น่าจะเทียบได้กับแท็บเล็ตทั่วไปเลยทีเดียว ด้วยราคา $499 ก็สามารถซื้อ New iPad 16GB ได้แล้ว แต่ทาง Microsoft ก็ได้บอกอยู่แล้วว่าราคาของ Surface Pro ตัวนี้ต้องนำไปเปรียบเทียบกับตัว Ultrabooks ไม่ใช่แท็บเล็ตอย่างที่เข้าใจ ซึ่งหมายความว่าจะต้องแพงกว่าขึ้นเป็นหลักร้อยเหรียญเลยทีเดียว เผลอๆ อาจะเท่ากับตัว 64 GB iPad($700) กันเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าราคาจะไม่ใช่อย่างเดียวที่คนซื้อจะคำนึงถึงเมื่อเวลาต้องการซื้อแท็บเล็ตสักเครื่อง อย่าลืมว่า น้ำหนักของเจ้าตัว Surface Pro นี่ก็หนักถึง 2 ปอนด์กันเลยทีเดียวซึ่งก็ถือว่าหนักมากสำหรับแท็บเล็ต
จากสเปกต่างๆที่ปรากฏออกมาแล้วยิ่งเรื่องความละเอียดของหน้าจอนี่ยิ่งชัดเลย เมื่อทาง Microsoft ประกาศออกมาว่า Surface Pro นั้นเป็นแบบ “Full HD” ซึ่งหมายความว่าความละเอียดน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1920×1200 พิกเซลเป็นอย่างน้อย แต่นั่นก็ยังตกเป็นรอง Android แท็บเล็ตของ Asus และ Acer อยู่ดี อาจจะมีได้เปรียบเล็กๆว่าเนื่องจากหน้าจอเล็กกว่าประมาณ 0.5 นิ้วความละเอียดของพิกเซลเลยมากขึ้นมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ยังไม่มีแท็บเล็ตตัวไหนที่จะขึ้นชั้นเข้าไปเทียบกับ iPad ของทาง Apple ได้อยู่ดีเนื่องจาก Retinal Display ของ iPad นั้นละเอียดถึง 2048×1536 เลยทีเดียว
จนถึงตอนนี้ถ้าบอกว่า Surface Pro ของทาง Microsoft ไม่ได้ทำขึ้นมาเพื่อแข่งกับแท็บเล็ตทั้งหลายทั้งแหล่แล้ว จะเอาตัวนี้มาแข่งกับ Ultrabooks ได้ยังไงลองมาดูกันว่าแท็บเล็ตของทาง Microsoft ตัวนี้มีอะไรดีบ้างทีจะไปสู้บนเวที Ultrabooks
เริ่มต้นด้วยความคล่องตัวและรองรับการใช้งานได้หลายรูปแบบก่อนเลย กล่าวได้ว่าเมื่อเวลาที่เราต้องใช้งานแบบ แท็บเล็ตมันก็สามารถทำงานแบบแท็บเล็ตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เมื่อเราต้องการเปลี่ยนมาทำงานที่ซับซ้อนขึ้นโดยอยากให้เป็น แล็บท็อป ก็เพียงแค่นำคีย์บอร์ดมาติดเข้าไป เพียงเท่านี้จากแท็บเล็ตก็จะกลายมาเป็นแล็บท็อปได้ง่ายๆ แถมยังมีฟีเจอร์ของ Window8 แบบทัชอย่างครบครัน อีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือรองรับดิจิตอลอิงค์ หรือการเขียนด้วยปากกาบนตัวอุปกรณ์นั่นเองซึ่งจะทำให้มีความสะดวกสบายขึ้นมากในการทำงานโดยไม่ต้องพึ่งการจิ้มคีย์บอร์ดเพียงอย่างเดียวเสมอไป แม้ว่าทาง Microsoft ยังไม่ได้ออกมาบอกว่าอุปกรณ์ปากกาที่ว่านี้จะรวมมาอยู่ในตัวแท็บเล็ตเลยหรือไม่ หรือจะต้องทำการซื้อแยกเสมือนหนึ่งว่าเป็นอุปกรณ์เสริมบางคนอาจจะบอกว่าด้วยขนาด 10.6 นิ้วถือว่าเล็กไปสำหรับ Ultrabooks แต่ก็อย่าลืมว่าถ้าแลกกันกับความสามารถที่หลากหลายพร้อมประสิทธิภาพก็สามารถมองข้ามจุดด้อยอันนี้ไปได้อย่างไม่น่าเกลียด
Surface RT vs iPad และ Androids แท็บเล็ต
ถ้า Surface Pro ไม่ได้เป็นความตั้งใจของ Microsoft ที่จะทำออกมาชนกับแท็บเล็ตอย่าง iPad แล้วคงต้องมองลงมาที่ตัวเล็กกว่าอย่าง Surface RT ว่าจะมีอะไรไปสู้กับ iPad หรือ Android แท็บเล็ตได้บ้าง
สำหรับ Surface RT นี้มีพอร์ตต่างๆมากกว่า แท็บเล็ตตัวอื่นๆในตลาดอีกทั้งยังมีความสามารถที่จะเปิดสองแอพในหน้าจอเดียวกันได้อีกในขณะที่แท็บเล็ตอื่นไม่สามารถทำได้ ในส่วนของความจุเริ่มต้น Surface RT เริ่มต้นที่ 32GB เมื่อเปรียบเทียบกับ Android แท็บเล็ตอื่นๆที่เริ่มต้นที่ 16 GB ซึ่งก็ถือว่าไปเปรียบมากกว่า และถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีความละเอียดของหน้าจอล้ำลึกเหมือนอย่าง iPad แต่หน้าจอของ Surface RT ก็ทำให้รู้สึกว่าไม่มีช่องว่างระหว่างหน้าจอและภาพ อีกทั้งคุณภาพของภาพและกระจกที่ตัดแสงสะท้อน รวมถึงขาตั้งแบบติดมากับแท็บเล็ตเลยซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับแท็บเล็ตเวลาตั้งโต้ะใช้งาน
ทีนี้ลองมาดูข้อด้อยเมื่อเทียบเจ้า Surface RT กับแท็บเล็ตตัวอื่นดูบ้างเริ่มด้วย น้ำหนักที่ทาง Microsoft ประกาศออกมาว่าประมาณ 1.5 ปอนด์ซึ่งหนักกว่า New iPad อยู่ประมาณ 0.06 ปอนด์ และยิ่งเมื่อเทียบกับเจ้าอื่นๆ iPad ก็ไม่ใช่เป็นแท็บเล็ตที่จัดว่าเบาซะทีเดียว ตัวอย่างง่ายๆเช่น เมื่อเทียบ Surface RT ซึ่งหนักประมาณ 1.5 ปอนด์ในขณะที่ Toshiba Excite 10.1 เบากว่าถึง 0.2 ปอนด์เลยทีเดียว ถ้าพิจารณาในเรื่องของความละเอียดหน้าจอ Microsoft เผยว่า Surface RT เป็นแบบ “HD” ไม่ใช่ “Full HD” ด้วยซ้ำซึ่งหมายความว่าความละเอียดจะอยู่ที่ประมาณ 1388×768 พิกเซล ยิ่งไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับรุ่นท็อปอย่าง iPad กันเลยทีเดียว
บทสรุปของแท็บเล็ตทั้งสองตัวของ Microsoft
จนมาถึงตอนนี้ถึงเราจะไม่รู้ว่าแท็บเล็ตของ Microsoft นี้จะสามารถสะเทือนตลาดได้ถึงขนาดไหน สิ่งที่เราพอรู้และคาดการณ์ได้บ้างแล้วคือในเรื่องของสเปกและราคาและจุดแข็งกับจุดอ่อนบางอย่างที่แท็บเล็ตสองตัวนี้จะต้องเผชิญแน่ๆกับแท็บเล็ตอื่นๆในตลาดในวันที่วางขายออกมา
สุดท้ายแล้วด้วยตัวอุปกรณ์อย่างเดียว Surface RT ก็ยังไม่สามารถล้มยักษ์ใหญ่อย่าง iPad ลงได้อยู่ดี คราวนี้ก็ต้องมาพิจารณากันด้วยเรื่องของ แอพพลิเคชันแล้วว่าทาง Microsoft จะทำออกมาได้ดีขนาดไหนรวมถึงการเลือกพันธมิตรคู่ค้าให้ถูกก็จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ Microsoft แย่งส่วนแบ่งจาก Apple ขึ้นมาได้
ส่วนทางด้าน Surface Pro เมื่อเข้าไปเล่นในตลาด Ultrabooks ก็ต้องเจอความท้าทายที่ว่าจะสามารถเปลี่ยนให้ผู้ใช้แล็บท็อปทั้งหลายหันมาใช้ Surface Pro โดยยอมแลกความประสิทธิภาพรวมถึงการใช้งาน กับ ความทันสมัยกับความรวดเร็วคล่องตัวได้หรือไม่ และอีกคำถามที่น่าสนใจคือ ผู้ใช้จะชอบกับ หน้าจอขนาด 10.6 นิ้วของ Surface Pro หรือไม่ถ้าเทียบว่าต้องใช้งานเป็น Ultrabooks แล้วเรียกได้ว่าเล็กเกินไป จนอาจเป็นข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งก็เป็นได้
แต่ถ้าคิดว่า “Surface” ของ Microsoft ยังไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องของแท็บเล็ต/Ultrabooks แล้วละก็ก็ขอให้อดใจรอกันอีกนิดนึงเชื่อว่าพันธมิตรของ Microsoft ที่พัฒนาบน Window8 ทั้งหลายจะทยอยเปิดตัวเพื่อพัฒนาให้ดีกว่า Surface ของ Microsoft อีกเป็นแน่
ที่มา : www.pcworld.com