ปี 2014 คืออีกหนึ่งปีที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภค เนื่องจากเป็นปีที่มีดีไวซ์และเก็ดเจ็ทต่างๆออกมามากมายเพื่อตอบสนองการใช้ งานของผู้คนทั้งสำหรับเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว ดีไวซ์รุ่นใหม่ที่ออกมาเปลี่ยนวิธีการใช้งานอุปกรณ์ไอทีแบบเดิมๆออกไปช่วย ให้ดีไวซ์มีศักยภาพมากขึ้น ทั้งแท็บเล็ตที่มีโปรเจ็คเตอร์ในตัวที่ทำให้ทุกที่เป็นโรงหนังขนานย่อมได้ ง่ายๆ, อย่างแท็บเล็ตและอัลตร้าโมบายคุณสมบัติครบครัน, หรือแม้กระทั่งเวิร์คสเตชั่นที่ถูกนำมาใส่ลูกเล่นเพิ่มขึ้น สิ่งเหล่านี้ทำให้ปี 2014 เป็นปีที่น่าสนใจสำหรับวงการคอมพิวเตอร์ไอที
และ ในปีนี้วงการคอมพิวเตอร์และไอทีจะน่าสนใจมากขึ้นกว่าปีก่อนเนื่องจากมี ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ก่อกำเนิดขึ้นมากมายซึ่งทยอยกันนำลงสู่ตลาด เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้งานกัน ต่อไปนี้คือตัวอย่างของเทรนด์สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เราน่าจะได้เห็นกันในปี 2015
1. ใช้งานได้ทุกที่ในยุคดิจิตอล
ผู้ผลิต อุปกรณ์ไอทีไม่ว่าจะเป็นโปรเซสเซอร์หรือกราฟฟิคต่างๆสำหรับเดสก์ท๊อปจะหันมา ผลิตผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงานแบตเตอร์รี่น้อยและมีระบบระบายความร้อนที่ดีขึ้น และผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบขึ้นจะเน้นให้ความคล่องตัว พกพาไปได้ทุกที่
ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ไอทีที่พกพาได้ชนิดต่างๆเริ่มมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป และส่งผู้ให้ผู้บริโภคเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ตนต้องการมากกว่าการมองหา อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพทางคอมพิวเตอร์อันครบครัน เทรนด์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปนี้เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีต่างๆได้ คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมและลูกเล่นใหม่ๆมากกว่าแค่การผลิต อุปกรณ์ที่เน้นประสิทธิภาพด้านการแสดงผล รายงานจาก IDC ระบุว่า บริษัทในประเทศไทยริ่มหันมาให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ที่ให้ความคล่องตัว พกพาได้สะดวกในทุกที่ และเชื่อว่าภายในปี 2015 บริษัทชั้นนำของไทยกว่าครึ่งจะเน้นนโยบายในการซื้ออุปกรณ์ที่ให้ความคล่อง ตัวด้านการใช้งาน
2. อุปกรณ์ไร้สาย ลดความยุ่งยาก
อุปกรณ์ เสริมสำหรับฮาร์ดแวร์ถูกผลิตเพื่อช่วยลดความยุ่งยากในการเชื่อมต่อและใช้งาน อุปกรณ์ไอทีต่างๆ USB 3.1 จะช่วยให้ลดความยุ่งยากในการเชื่อมต่อสายเคเบิ้ลหลายๆสายให้รวมอยู่ในสาย เดียวโดยมีคุณสมบัติ อาทิ การเชื่อมต่อ DisplayPort พร้อมจ่ายไฟให้อุปกรณ์ไปในตัว ที่ชาร์จดีไวซ์แบบไร้สาย เพื่อชาร์จแบตเตอร์รี่ให้อุปกรณ์และเพิ่มความเสถียรในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ แบบไร้สายก็มีแนวโน้มที่จะเปิดตัวในปี 2015 เช่นกัน
ในปีนี้ ผู้บริโภคมีแน้วโน้มที่จะมองหาอุปกรณ์ที่เป็นแบบมัลติโหมดเพื่อการใช้งานที่ ครบครันในเครื่องเดียว Gartner คาดการณ์ว่าอุปกรณ์ลูกผสม หรือ ทู-อิน-วัน ดีไวซ์มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยจำนวนอุปกรณ์อัลตร้าโมบายในตลาดระดับพรีเมี่ยมจะอยู่ที่ราว 22 เปอร์เซ็นต์ในปี 2014 และเพิ่สูงถึง 32 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2018
3. แท็บเล็ตจะกลายเป็นแก็ดเจ็ตคู่ใจสำหรับคนทำงาน
เรา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเราได้เข้ามาสู่ในยุคที่อุปกรณ์ไร้สายเป็นตัวขับเคลื่อน ประสิทธิภาพในการทำงาน แท็บเล็ตจึงกลายเป็นแก็ดเจ็ทแถวหน้าที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ โดยในปัจจุบันมีแท็บเล็ตหลายต่อหลายรุ่นที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับแล็ป ท็อปชนิดอัลตร้า-โมบายล์
ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ไอทีที่มีชื่อ เสียงด้านความเสถียรของผลิตภัณฑ์และนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆสำหรับคนทำงาน จะโดดเด่นขึ้นมาจากคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด เพราะผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวของเขา จะเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานสำหรับธุรกิจ
4. การกลับมาของคอมพิวเตอร์พีซี
บาง คนอาจจะคิดว่าการเติบโตแท็บเล็ตจะทำให้ความนิยมของคอมพิวเตอร์พีซีลดลง แต่สำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้เน้นการใช้งานนอกสถานที่ คอมพิวเตอร์พีซียังคงเป็นเบอร์หนึ่งในเรื่องประสิทธิภาพ สถาบันการ์ทเนอร์ได้กล่าวไว้ว่าตลาดคอมพิวเตอร์พีซีได้ฟื้นกลับขึ้นมาในปี 201415 ซึ่งก็เราเชื่อว่าแนวโน้มการเติบโตของคอมพิวเตอร์พีซีจะก้าวหน้าขึ้นไปอีกใน อนาคต
5. ผู้บริโภคจะทดลองใช้อุปกรณ์หลายหลากขนาดและรูปแบบ
เมื่อ ก่อน ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ไอทีจะมีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเรือธงยี่ห้อละ 1 เครื่อง แต่ในสมัยนี้ ผู้ผลิตรายใหญ่แต่ละรายเสนอทางเลือกให้กับผู้บริโภค โดยเสนอสมาร์ทโฟนเรือธงหลากหลายรุ่น หลากหลายขนาด และ หลากหลายรูปแบบให้ผู้บริโภคได้เลือกสรร เพราะรู้ว่าการไม่เสนอทางเลือกให้ลูกค้าจะทำให้ตนเป็นรองในสนามแข่งขัน เทรนด์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในตลาดสมาร์ทโฟน แต่ในตลาดคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป, แล็ปท็อป, ผลิตภัณฑ์ไฮบริด และแท็บเล็ตยังมาตัวเลือกใหม่ๆให้ผู้บริโภคอีกด้วย ฉะนั้นผู้บริโภคจึงจะหันไปหาผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ไอทีที่มีชื่อเสียงด้านความ เสถียรของผลิตภัณฑ์และนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ
สถาบันไอดีซีคาด การณ์ว่าจำนวนการส่งออกของแฟ็บเล็ตจะสูงขึ้นมากในปี 2015 นี้ แต่ผู้บริโภคจะยังคงชั่งใจในเรื่องขนาดและรูปแบบที่เหมาะกับตนเองอยู่ เพราะรูปแบบที่เป็นที่นิยมนั้นเริ่มล้าสมัยแล้ว
6. ผู้ประกอบการจะมุ่งเน้นในเรื่องความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ
ใน ปี 2557 ที่ผ่านมา มีวิกฤตทางด้านความปลอดภัยหลายเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้บริโภคพากันอกสั่นขวัญ แขวน ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ตบลีด (Heartbleed) หรือเชลล์ช็อค (Shellshock) ปัจจัยที่สนับสนุนให้เกิดปัญหาน่าปวดหัวสำหรับแผนกไอทีเหล่านี้คือเทรนด์ BYOD ผลสำรวจล่าสุดของสถาบันการ์ทเนอร์เผยว่า ¼ ของผู้ใช้ที่นำเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัวมาทำงานนั้น ได้รับผลกระทบจนทำให้คอมพิวเตอร์ของตนมีปัญหา แต่คนที่ราบงานเรื่องนี้ให้ทางผู้ใหญ่รับทราบมีเพียง 27% เท่านั้น
นี่ เป็นสาเหตุที่ทำให้เทรนด์ CYOD ได้ก่อตัวขึ้นมา เพราะมีผลบวกสำหรับความปลอดภัย อีกทั้งผู้บริโภคยังได้มีทางเลือกอีกด้วย เทรนด์ CYOD นั้นจะยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2015 นี้ โดยภาคธุรกิจจะหันไปหาผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ไอทีให้เป็นผู้สังเกตการณ์ข้อมูลภาย ในองค์กรเพื่อเสริมประสิทธิภาพให้กับระบบรักษาความปลอดภัย และยังง่ายต่อการใช้งานอีกด้วย
7. ไอทีจะมีความสิ่งที่สำคัญมากขึ้น
ทุก วันนี้ แอพพลิเคชั่นต่างๆได้กลายเป็นหัวใจหลักของสมาร์ทโฟน จำนวนแอพพลิเคชั่นที่ผู้บริโภคใช้งานนั้นค่อนข้างที่จะคงที่ จึงทำให้เกิดการแข่งขันที่ดุเดือด แอพพลิเคชั่นที่สามารถตอบสนองการใช้งานมากที่สุดเท่านั้นที่จะสามารถอยู่รอด ได้ ซึ่งจากสถานการณ์นี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้อุปกรณ์ไอทีเพิ่มขีดความสามารถให้ สามารถทำงานได้ง่ายขึ้นและมีประโยชน์เพิ่มขึ้น นอกจากนี้จำนวนของผู้บริโภคที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นสามารถเข้าดูข้อมูลต่างๆ เพื่อช่วยให้ในการใช้ชีวิตประจำวันให้สะดวกยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเช็คตารางการออกกำลังกาย หรือ เวลานัดหมายประจำสัปดาห์
ด้วย แอพพลิเคชั่นที่มีจำนวนมาก การเลือกแอพพลิเคชั่นที่ดีที่สุดนั้นถือเป็นเรื่องยากสำหรับผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ผลิตแอพพลิเคชั่นที่เริ่มเปิดตัวแอพที่ เหมาะสมกับตลาดเป้าหมายในแต่ละกลุ่ม ซึ่งหมายความว่าเร็วๆนี้คุณอาจจะได้เห็นการแอพพลิเคชั่นที่สามารถประเมินผล ยอดขายมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์ธุรกิจรุ่นใหม่ๆ หรือแอพพลิเคชั่นสำหรับแฟชั่นในสมาร์ทโฟนหรือแม้แต่แอพพลิเคชั่นระบบ GPS บนแท็บเล็ตสำหรับผู้ปกครองอีกด้วย ปีนี้ไอทีจะเป็นคำตอบในการใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้นสำหรับคุณ
สรุป ได้ว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในในยุคสมัยใหม่ของอุปกรณ์แก็ดเจ็ต ผู้บริโภคคาดหวังมากกว่าความคล่องตัวและความสะดวกสบายจากอุปกรณ์ไอที เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าวผู้ผลิตควรให้ความสำคัญในการวิเคราะห์ความ ต้องการของผู้บริโภคและนำมาเป็นแนวทางในการออกแบบผลิตภัณฑ์
ที่มี ฟีเจอร์ดึงดูดผู้บริโภคและให้ประโยชน์อย่างแท้จริง ต้องบอกว่า 2558 จะเป็นปีสำหรับการกลับมาของการทำงานอุปกรณ์ไอทีที่มีการทำงานอย่างเสถียรภาพ และปลอดภัย ซึ่งจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ในปี 2558 นั้นจะต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีครบครันของปัจจัยดังกล่าว