นายไบรอัน เคอซานิทช์ ซีอีโอของอินเทล เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงการริเริ่มและความร่วมมือกับพันธมิตรผู้ผลิตหลายรายเพื่อกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมสำหรับอุปกรณ์แบบพกพาและอุปกรณ์ Wearables
นายเคอซานิทช์ แสดงให้เห็นว่าโลกของคอมพิวเตอร์กำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลจะเป็นสิ่งที่ทุกคนมองข้ามไม่ได้ และจะต้องมีอยู่ในอุปกรณ์ทุกชิ้น เมื่อโลกกำลังก้าวไปสู่ยุคที่เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเทคโนโลยีจะมีความหมายต่อผู้ใช้งานต่างกันไปตามแต่การใช้งาน โดยนายเคอซานิทช์ กล่าวว่าตัวอย่างที่ชัดเจนจะเห็นได้จากเทคโนโลยีที่อินเทลกำลังจะเปิดตัวในปีนี้ เช่น อุปกรณ์ในกลุ่ม Intel® RealSense™ (อินเทล® เรียลเซนส์™) ที่จะสามารถทำให้ทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์สามารถรับรู้และประมวลผลเลียนแบบมนุษย์ได้
อุปกรณ์ Wearables จากอินเทล
นายเคอซานิทช์ กล่าวว่า อินเทล กำลังคิดค้นและริเริ่มแนวคิดในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นนวัตกรรมของ อุปกรณ์ Wearables โดยอินเทลจะคิดค้นอุปกรณ์พร้อมทั้งระบบที่เป็นต้นแบบ และพร้อมให้ผู้ผลิตนำไปพัฒนาต่อได้
ซีอีโอของอินเทลยังเน้นย้ำถึงอุปกรณ์ Wearable ตัวอย่างหลายชิ้น เช่น หูฟัง ระบบไบโอเมตริกซ์ ที่สามารถตรวจสอบสุขภาพของผู้สวมใส่ได้ และ อุปกรณ์ชุดหูฟังแบบอัจฉริยะที่สามารถทำงานร่วมกับระบบเทคโนโลยีผู้ช่วยส่วนตัวที่พร้อมให้คุณใช้งานได้ตลอดเวลา รวมถึงภาชนะอัจฉริยะที่สามารถชาร์จไฟแบบไร้สาย เพื่ออุ่นอาหารได้ เป็นต้น
ซีอีโอของอินเทล กล่าวเพิ่มเติมถึงความร่วมมือกับ บาร์นี่ย์ส นิวยอร์ค (Barneys New York*) สถาบันนักออกแบบแฟชั่นแห่งสหรัฐอเมริกา (the Council of Fashion Designers of America*) และ โอเพ่น เซเรโมนี่ (Opening Ceremony*) ที่ร่วมสร้างสรรค์และวางจำหน่ายอุปกรณ์ Wearables รวมถึงการจัดการแข่งขันระดับโลก “Make it Wearable” เพื่อสร้างความตื่นตัวในการสร้างสรรค์และคิดค้นนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีนี้ โดยเกณฑ์การตัดสินจะวัดจากผลงานที่มีความอัจฉริยะและมีความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ ที่ทำให้อุปกรณ์ที่สวมใส่ได้เป็นที่นิยมผ่านแนวคิดอันล้ำสมัยของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับทุกชีวิตทั่วโลก เช่น การใช้ที่เหมาะสมและเกิดประโยชน์อย่างจริงจัง ความเพลิดเพลินในการใช้งาน อายุของแบตเตอรี่ รวมไปถึงความปลอดภัยของข้อมูลและการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
นอกจากการพัฒนาอุปกรณ์ Wearables ที่เป็นตัวอย่างแล้ว อินเทลยังให้ความสำคัญกับการเข้าถึงอุปกรณ์เหล่านี้ในราคาย่อมเยาโดยจะมีการนำเสนอแพลตฟอร์มที่มีราคาไม่สูง เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานแบบส่วนบุคคล หรือผู้ประกอบการรายย่อยได้ต่อยอดในการพัฒนา อุปกรณ์กลุ่มนี้ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ท หรืออุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กลงอีกได้
เพื่อเป็นการตอกย้ำแนวคิดนี้ นายเคอซานิทช์ได้เปิดตัว Intel® Edison ซึ่งเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Intel® Quark มีขนาดเล็กเท่ากับ SD Card และติดตั้งการเชื่อมต่อแบบไร้สายเพื่อรองรับระบบปฏิบัติการที่หลากหลาย ซึ่งอุปกรณ์ต้นแบบของ Intel® Edison ที่จะวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายนปีนี้จะสร้างให้เกิดนวัตกรรมที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จากทั้งนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผู้ประกอบการ และนักออกแบบผลิตภัณฑ์
“เรายังไม่ได้เห็นอุปกรณ์ที่สวมใส่ได้วางจำหน่ายอย่างกว้างขวาง เพราะว่ามันยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างจริงจัง และยังไม่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราอย่างแท้จริง ซึ่งอินเทลทราบดีถึงความท้าทายนี้ ดังนั้นเป้าหมายของเราคือการทำให้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใด ถ้าอุปกรณ์เหล่านั้นมีหน้าที่ประมวลผล และเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ อินเทลจะต้องเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในการมอบระบบประมวลผลให้กับอุปกรณ์นั้นๆ” นายเคอซานิทช์ กล่าว
ความปลอดภัยในข้อมูลและอุปกรณ์ที่เพิ่มมากขึ้น
นายเคอซานิทช์ ยังได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่อย่าง Intel Security (อินเทล ซิเคียวริตี้) ซึ่งหมายถึงสินค้าและบริการในกลุ่มการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และได้เผยถึงแผนที่จะเปลี่ยนสินค้าภายใต้แบรนด์ McAfee มาเป็น แบรนด์ Intel Security อีกด้วย ซึ่งจะยังคงการรักษาความปลอดภัยทางข้อมูลอย่างสูงสุดเช่นเดิม
“การรักษาความปลอดภัยในการรักษาเอกลักษณ์บนโลกดิจิตอลนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออุปกรณ์แบบพกพาและแอพพลิเคชั่นต่างๆมีความสำคัญกับชีวิตเรามากขึ้น อินเทลมีมุ่งมั่นที่จะทำให้โลกออนไลน์มีความปลอดภัยมากขึ้น และต้องก้าวล้ำหน้าภัยที่กำลังคุกคาม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวที่จัดเก็บอยู่ในอุปกรณ์แบบพกพาและอุปกรณ์ Wearables ให้ได้” นายเคอซานิทช์ กล่าวเพิ่มเติม
นายเคอซานิทช์ กล่าวว่า อินเทลมีแผนที่จะติดตั้งซอฟท์แวร์ป้องกันไวรัสที่ได้รับรับรางวัลอย่าง McAfee ไว้ในอุปกรณ์แบบพกพา ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ไอโฟน* ไอแพด* รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์* โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ จะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้
แนวคิดในการนำอุปกรณ์ส่วนตัวมาใช้ที่ทำงาน หรือ bring-your-own-device นั้นกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น ทำให้หลายองค์กรห้ามการนำอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่ไม่สามารถทำงานร่วมกับระบบความปลอดภัยภายในขององค์กรมาใช้ ในปีนี้อินเทลจึงจะเปิดตัว Intel Device Protection เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานอุปกรณ์ที่มีหน่วยประมวลผลของอินเทลและใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เพื่อเข้าถึงมาตรฐานการรักษาความปลอยภัยของข้อมูลอย่างสูงสุด เพื่อการใช้งานทั้งที่บ้านและที่ทำงาน
อุปกรณ์ wearables เช่น อุปกรณ์ชุดหูฟังแบบอัจฉริยะที่สามารถทำงานร่วมกับระบบเทคโนโลยีผู้ช่วยส่วนตัวที่พร้อมให้คุณใช้งานได้ตลอดเวลา รวมถึงภาชนะอัจฉริยะที่สามารถชาร์จไฟแบบไร้สายเพื่ออุ่นอาหารได้