เปิดตัวแล้ววันนี้กับอัลตร้าบุ๊ก™ เฟสสอง พร้อมแล็ปท็อป และ ออล-อิน-วัน พีซีที่ใช้ อินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 3 ผลักดันวิสัยทัศน์ให้อุตสาหกรรมไอทีสู่สุดยอดของประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบ
วันนี้ อินเทล คอร์ปอเรชั่น ประกาศเปิดตัว อัลตร้าบุ๊ก™ เฟสที่ 2 ที่มาพร้อมกับดีไซน์บางเฉียบและการตอบสนองที่เร็วขึ้นออกสู่ตลาด อัลตร้าบุ๊กรุ่นใหม่นี้ใช้ อินเทล™ คอร์™ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 3 ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยีขนาด 22 นาโนเมตรรุ่นแรกของโลก และนำนวัตกรรมอันล้ำสมัยจากทรานซิสเตอร์ 3 มิติ แบบTri-Gate มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนอง และปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ชิปรุ่นใหม่นี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพด้านมีเดีย และการรับชมภาพกราฟิก พร้อมกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน และรูปแบบดีไซน์ให้เลือกได้หลากหลายยิ่งขึ้น
อัลตร้าบุ๊กเหล่านี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ช่วยให้อินเทลได้บรรลุวิสัยทัศน์ในการนำเสนอสุดยอดของประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบด้านการประมวลผลแบบระยะยาวที่ครอบคลุมทั่วทุกวงการอุตสาหกรรม โดยนวัตกรรมดังกล่าวจะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป ตามเป้าหมายของอินเทลและวงการไอทีที่ต้องการยกระดับประสบการณ์ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ให้มีความคล่องตัวและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น
นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโคร อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เช่นเดียวกับตอนที่อินเทล™ เซนทริโน™ เปิดตัวเมื่อสิบปีที่แล้ว วันนี้คือการปฏิวัติระบบการประมวลผลคอมพิวเตอร์ครั้งสำคัญ อินเทลคาดว่าจะมีจำนวนอัลตร้าบุ๊กเปิดตัวเพิ่มขึ้นอีก 5 เท่าตัวจากเดิมที่เราเคยคาดการณ์ไว้ โดยจะมีดีไซน์ใหม่ที่เหมาะสำหรับการใช้งานเชิงธุรกิจ แบบระบบสัมผัส และ คอนเวอร์ทิเบิล เป็นต้น นอกจากนี้เรายังได้พัฒนาประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยและการตอบสนองให้ดียิ่งขึ้น โดยอุปกรณ์อัลตร้าบุ๊กที่ใช้ อินเทล คอร์ เจนเนอเรชั่น 3 จะทำให้รูปแบบการใช้อุปกรณ์โมบายล์คอมพิวติ้งที่เรารู้จักในปัจจุบัน กลายเป็นสิ่งล้าสมัยไปอย่างสิ้นเชิง”
เปิดประสบการณ์ที่เหนือชั้น : การตอบสนอง, ดีไซน์ ระบบป้องกัน และ โมบายล์
อัลตร้าบุ๊กจะมาพร้อมกับคุณสมบัติในการตอบสนองที่รวดเร็ว ซึ่งหมายความว่าระบบสามารถเปลี่ยนจาก โหมด Deep Sleep (S4 Mode) กลับคืนสู่สภาพพร้อมใช้งานของตัวเครื่องได้ภายในไม่ถึง 7 วินาที อีกทั้งอัลตร้าบุ๊กทุกรุ่นจำเป็นต้องมีคุณสมบัติ “ตอบสนองระหว่างการใช้งาน” (responsive while active) โดยสามารถดาวน์โหลด และเล่นแอพลิเคชั่นโปรดของผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
การเชื่อมต่อด้วยความเร็วสูงยังเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติพิเศษที่เพิ่มขึ้น ด้วย USB 3.0 หรือ เทคโนโลยี ธันเดอร์โบลท์™ (Thunderbolt™) หรือทั้งสองอย่าง โดย เทคโนโลยี ธันเดอร์โบลท์ สามารถรองรับการถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูง ทำให้คุณสามารถส่งภาพยนตร์ในระบบไฮเดฟฟินิชั่นไปยัง อัลตร้าบุ๊กได้ภายในเวลาไม่เกิน 30 วินาที เป็นต้น
คุณสมบัติด้านความปลอดภัยกลายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ใช้งาน อุปกรณ์ และสิ่งของส่วนตัว โดยระบบอัลตร้าบุ๊กรุ่นถัดไปมาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม ประกอบด้วย Intel® Anti-Theft technology ที่สามารถระงับการใช้งานได้โดยอัตโนมัติหากอุปกรณ์มีการสูญหาย หรือถูกขโมย บริการดังกล่าวมีให้เลือกได้ถึง 11 ภาษาในประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยสามารถทดลองใช้ได้ภายในเวลาจำกัด ได้จาก Absolute Software*, McAfee*, Norton* และ Intel
นอกจากนี้ อัลตร้าบุ๊กที่ใช้ อินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 3 ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับ Intel® Identity Protection technology ซึ่งจะช่วยปกป้องอัตลักษณ์ของผู้ใช้งานให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ผู้ใช้อัลตร้าบุ๊กสามารถชำระเงินผ่านธนาคาร, ร้านค้าออนไลน์ โซเชี่ยลมีเดีย เว็บไซต์ หรือ เกมส์เว็บไซต์ได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่อาจเกิดจากผู้ไม่หวังดีผ่านเว็บไซต์ หรือ โซเชี่ยลเน็ตเวิร์กอื่นๆ อีกด้วย
เหนือกว่าด้วยประสิทธิภาพพร้อมการประหยัดพลังงานสูงขึ้น
ด้วยคุณสมบัติอันเหนือชั้นของนวัตกรรมทรานซิสเตอร์ 3 มิติ แบบ Tri-Gate ที่ใช้กระบวนการผลิตแบบ 22 นาโนเมตร วิศวกรของอินเทลจึงสามารถพัฒนาให้ อินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 3 มีความเร็วเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 22 บนแอพพลิเคชั่นแบบมัลติ-เธรด เมื่อเทียบกับความเร็วของ อินเทล™ คอร์™ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 2 ตัวอย่างเช่น ความเร็วในการใช้ซอฟต์แวร์เพื่อตกแต่งภาพหรือเล่มเกมสูงขึ้นมากเมื่อใช้โปรเซสเซอร์ตัวใหม่นี้
อัลตร้าบุ๊กตัวใหม่นี้มีการประมวลผลวิดีโอและภาพกราฟิกแบบ 3 มิติเร็วขึ้นเป็นสองเท่าจากรุ่นก่อน ซึ่งช่วยลดเวลาในการประมวลผลวิดีโอของผู้ใช้ลงได้ถึงครึ่งหนึ่ง พร้อมประสบการณ์การรับชมภาพที่ไม่ติดขัดและสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
เมื่อเทียบการพัฒนาด้านกราฟิกและการประมวลผลวิดีโอระหว่างโปรเซสเซอร์รุ่นนี้กับ อินเทลTM คอร์TM 2 ดูโอ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการบนโน้ตบุ๊กซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของระบบในปัจจุบันที่ออกมาเมื่อ 3 ปีก่อน พบว่า อินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 3 สามารถประมวลผลวิดีโอได้เร็วกว่าถึง 30 เท่า ส่วนคุณสมบัติด้านภาพสามมิติก็ดีขึ้นถึง 19 เท่า
ธุรกิจไอทีรุกสู่ประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบด้านการประมวลผล
ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา อินเทลตระหนักว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์อัลตร้าบุ๊กได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากวงการไอที มีอัลตร้าบุ๊กมากกว่า 20 ดีไซน์เปิดตัวออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา และเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนมาในวันนี้มีอุปกรณ์อัลตร้าบุ๊กที่ใช้อินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 3 กว่า 110 แบบที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา
อินเทลเชื่อมั่นว่าระบบสัมผัสคือคุณสมบัติพิเศษที่จะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมไอทีเกิดการพัฒนาด้านนวัตกรรม และทดลองกับรูปแบบและดีไซน์แห่งอนาคตของระบบอัลตร้าบุ๊กแบบคอนเวอร์ทิเบิล โดยดีไซน์ล้ำสมัยเหล่านี้จะทำหน้าที่เหมือนกับแล็ปท็อปทั่วไป เวลาผู้ใช้งานต้องการ “สร้าง” และ ทำหน้าที่เหมือนกับแท็บเล็ตเวลาที่ผู้ใช้งานต้องการ “บริโภค” เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานอย่างชาญฉลาดและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด อินเทลคาดว่าจะมีระบบสัมผัสกว่า 30 ดีไซน์ โดยมี 10 ดีไซน์เป็นแบบคอนเวอร์ทิเบิลทยอยเปิดตัวภายในปีนี้ และเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
อินเทลได้ร่วมมือกับอีกหลากหลายหน่วยงานในอุตสากหรรมเพื่อเร่งให้เกิดการพัฒนาดีไซน์ที่เบาและบางเฉียบ ล่าสุดจากการค้นพบนวัตกรรมในการดีไซน์โครสร้างที่มีความทันสมัย โดยใช้วัสดุที่มีอยู่เดิม และอุปกรณ์ฉีดแม่พิมพ์แบบมาตรฐาน ทำให้โครงของอัลตร้าบุ๊กมีคุณภาพเทียบเท่ากับ machined aluminum และ die-cast metal solutions ที่มีวางจำหน่ายตามท้องตลาดในปัจจุบัน นวัตกรรมดังกล่าวเกิดจากการนำเทคนิควิศวกรรมที่ใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ และยานอวกาศมาประยุกต์ใช้ ทำให้โครงสร้างดีไซน์ใหม่นี้สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ในการขึ้นโครงได้ถึงร้อยละ 65 และพร้อมออกสู่ตลาดภายในปีหน้า
การเปิดตัวอินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 3 ยังนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญให้แก่วงการธุรกิจจาก Intel® Core™, vPro™ และ Intel® Small Business Advantage สำหรับอุปกรณ์อัลตร้าบุ๊ก โดยเจนเนอเรชั่นรุ่นถัดไปของอินเทล วีโปร โปรเซสเซอร์ แพลต์ฟอร์ม จะทำให้ นักธุรกิจ และผู้จัดการด้านไอทีได้รับสิ่งที่พวกเข้าต้องการมากที่สุดคือ ความปลอดภัยควบคู่กับดีไซน์ที่สวยหรู และระบบการใช้งานแบบอัตโนมัติ พร้อมทั้ง โมเดลการประมวลผลแบบใหม่ที่มีควายืดหยุ่นและปลอดภัย
นวัตกรรมในโลกแห่งการประมวลผลนั้นมีการเปลี่ยนแปลงและพร้อมที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ให้แก่ผู้ใช้งานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ยกตัวอย่างเช่น ในอนาคตเราจะได้เห็นสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อื่นๆ สามารถชาร์จไฟแบบไร้สายได้จากอัลตร้าบุ๊ก และ ออล-อิน-วัน พีซี ซึ่งมาพร้อมกับเซนเซอร์ชนิดต่างๆ อาทิเช่น จีพีเอส (GPS), เครื่องตรวจวัดความเร่ง (Accelerometer), เอแอลเอส (ALS) และ เครื่องตรวจวัดความใกล้เคียง (Proximity) เพื่อสร้างความสนุกและเซอร์ไพรส์ในการใช้งานอย่างให้แก่ผู้ใช้ทั่วโลก
อนาคต: คอมพิวเตอร์สามารถมองเห็น รับรู้ และสัมผัสได้
ในงานคอมพิวเท็กซ์ 2012 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศไต้หวัน ทอม คิลรอย รองประธานกรรมการผู้จัดการ อินเทล คอร์ปอเรชั่น เรียกร้องให้อุตสาหกรรมไอทีเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้งานคอมพิวเตอร์ เพื่อให้คอมพิวเตอร์มีประสาทสัมผัส ในการมองเห็น รับรู้ และรู้สึกได้เหมือนกับที่คนทั่วไปมี และคุณสมบัติพิเศษในการสัมผัสที่จะเกิดขึ้นกับอัลตร้าบุ๊กนี้ ถือเป็นก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น
คิลรอย ยังได้สาธิตการใช้สั่งการด้วยระบบเสียงที่รองรับได้หลายภาษาที่อินเทลได้ร่วมมือกับ Nuance’s Dragon engine* สำหรับ speech technology ที่รองรับบนสถาปัตยกรรมของอินเทล อัลตร้าบุ๊กได้ ความร่วมมือดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยทั้งสองบริษัทได้ร่วมมือกันเพื่อยกระดับการสั่งการด้วยระบบเสียงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผู้ใช้งานสามารถนำโซลูชั่นนี้สำหรับตรวจสอบและอัพเดตข้อมูลของตนเองบนโซเชี่ยลมิเดีย เว็บไซต์ ด้วยการสั่งการผ่านโทรศัพท์ อีกทั้งยังสามารถค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต และควบคุมการใช้งานของสื่อชนิดต่างๆ ได้อีกด้วย ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการใช้งานอัลตร้าบุ๊กเวลาที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยสามารถสั่งการผ่านระบบเสียง อีกทั้งยังเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ และเล่นมีเดียหลายชนิดไปพร้อมๆ กันได้อย่างไม่ติดขัด
คิลรอย ยังกล่าวอีกว่า อินเทลอยู่ในระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่จะเพิ่มความคล่องตัวและอำนวยความสะดวกในการใช้งานอุปกรณ์ชนิดต่างๆ สำหรับผู้ใช้มากยิ่งขึ้นตั้งแต่อัลตร้าบุ๊ก สมาร์ทโฟน ไปจนถึง ระบบอัจฉริยะทุกรูปแบบที่ใช้เป็นประจำทุกวัน แอพพิเคชั่นดังกล่าวจะประกอบด้วยการใช้งานคอมพิวเตอร์ระบบสัมผัส เครื่องตรวจวัดการเคลื่อนไหวของร่างกายในระยะใกล้ รวมไปถึงการนำสมาร์ทโฟนมาใช้เพื่อติดต่อและควบคุมอัลตร้าบุ๊ก เดสก์ท็อป พีซี หรือใช้เป็นเครื่องวัดการจังหวะการเต้นของหัวใจผ่านเทคโนโลยีที่สามารถ “มองเห็น” และวิเคราะห์การเคลื่อนไหวจากกล้ามเนื้อบนใบหน้าของเราได้อีกด้วย
กระแสอัลตร้าบุ๊ก™ยังแรงอย่างต่อเนื่องพร้อมยกระดับการประมวลผลยุคใหม่
เมื่อเดือนพฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา อินเทล คอร์ปอเรชั่น ได้นำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่ในการปฏิรูปโมบายล์คอมพิวติ้งด้วยการเปิดตัวอุปกรณ์กลุ่มใหม่ที่มาพร้อมสุดยอดประสบการณ์การประมวลผลที่สมบูรณ์แบบ และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างดีที่สุดที่เรียกว่า อัลตร้าบุ๊ก™ ซึ่งใช้อินเทล™ คอร์™ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 2 เป็นตัวประมวลผลและเปิดตัวทั้งหมด 21 รุ่นในปีแรก โดยอัลตร้าบุ๊ก™ ที่ผู้ใช้ “ขาดไม่ได้” เหล่านี้ให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่เหนือกว่า และมาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยในตัว อีกทั้งยังตอบสนองได้รวดเร็วทันใจ ภายใต้ดีไซน์ที่เพรียวบางและเซ็กซี่
ขณะนี้ อินเทลพร้อมแล้วที่จะเปิดตัวอัลตร้าบุ๊ก เฟส 2 ที่ใช้อินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 3 (ชื่อรหัสเดิมว่า “ไอวี่บริจด์”) โดยอัลตร้าบุ๊ก รุ่นล่าสุดจะเข้ามายกระดับรูปแบบการประมวลผลของผู้ใช้ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าเดิม พร้อมด้วยตัวเลือกภายใต้สไตล์และดีไซน์ที่หลากหลาย ประกอบกับการตอบสนองที่รวดเร็วกว่าเดิม ประหยัดพลังงานมากขึ้น ระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม แถมยังมอบประสบการณ์ในการรับชมมีเดียและกราฟิกต่างๆ ได้ดีขึ้นถึงสองเท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้อีกด้วย
ภายในปีนี้ อินเทลและอุตสาหกรรมไอทีพร้อมจะยกระดับประสบการณ์การใช้อัลตราบุ๊กให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับเครื่องบางรุ่นจะมีการเพิ่มคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยให้ผู้ใช้งานได้คล่องมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบหน้าจอสัมผัสและระบบสั่งงานโดยใช้เสียงพูด ทั้งในดีไซน์แบบเครื่องฝาปิดแบบเก่า และคอนเวอร์ทิเบิลดีไซน์แบบใหม่ด้วย
ประเด็นสำคัญ
- นี่เป็นครั้งแรกของนวัตกรรมใหม่ในโลกพีซีที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน กับการเปิดตัวอุปกรณ์ประมวลผลที่มีรูปแบบหน้าจอสัมผัสและคอนเวอร์ทิเบิลฟอร์มแฟคเตอร์ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือการผสานที่สุดของคุณลักษณะเด่นในการประหยัดพลังงานและระบบประมวลผล โดยในตอนนี้มีอัลตร้าบุ๊ก หน้าจอสัมผัส 30 รุ่นในตลาด และมี 10 รุ่นที่เป็นแบบคอนเวอร์ทิเบิล
- อินเทลยังตอกย้ำประสบการณ์ในการใช้อัลตร้าบุ๊ก ด้วยการยกระดับระบบรักษาความปลอดภัยที่ช่วยให้จัดเก็บข้อมูลส่วนตัวของคุณมีความปลอดภัยมากขึ้น คุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ในโปรเซสเซอร์ พร้อมกับซอฟต์แวร์และบริการต่างๆ สามารถปกป้องข้อมูลที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญมากที่สุด ซึ่งก็คืออัตตลักษณ์ส่วนบุคคล ข้อมูล และอุปกรณ์ต่างๆ นำไปสู่ประสบการณ์ในการใช้คอมพิวเตอร์ที่ปราศจากความกังวล และสร้างความมั่นใจในการใช้งานตั้งแต่แรกเริ่มอีกด้วย
- อินเทลมีการลงทุนทั้งในส่วนของงบประมาณและทรัพยากรเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาอัลตร้าบุ๊กให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดีที่สุด รวมถึงการนำงบประมาณจำนวน 300 ล้านเหรียญสหรัฐจากกองทุน อินเทล แคปปิตอล มาลงทุนในบริษัททั่วโลกที่ล้วนมีการพัฒนานวัตกรรมในด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ แบตเตอรี่ เทคโนโลยีและการออกแบบอีกด้วย
คุณสมบัติพิเศษของอัลตร้าบุ๊ก™
- ดีไซน์บางเฉียบ
- อุปกรณ์อัลตร้าบุ๊ก จะต้องมีความบางของตัวเครื่องไม่เกิน 18 มิลลิเมตรสำหรับรุ่นที่มีหน้าจอกว้างไม่เกิน 14 นิ้ว และความบางของตัวเครื่องไม่เกิน 21 มิลลิเมตรสำหรับหน้าจอความกว้างมากกว่า 14 นิ้วขึ้นไป โดยอัลตร้าบุ๊กบางรุ่นอาจมีขนาดบางกว่าที่กำหนด
- การตอบสนอง
- อัลตร้าบุ๊ก ที่ใช้ขุมพลังจากอินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 3 ทุกเครื่องต้องสามารถเรียกใช้งานได้ในทันที โดยเปลี่ยนจากสภาพ “ดีพ สลีฟ” (S4) ไปเป็นพร้อมใช้งานอย่างเต็มที่ (โต้ตอบกับคีย์บอร์ดได้) ภายในเวลาไม่เกิน 7 วินาที และสามารถเปลี่ยนสภาพจากโหมด “สลีฟ” ได้เร็วกว่า นอกจากนั้นระหว่างที่ใช้งานต้องตอบสนองได้เร็วขึ้นกว่าเดิม โดยสามารถดาวน์โหลดและสั่งงานแอพลิเคชันโปรดได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
- อายุการใช้งานแบตเตอรีที่ยาวนานขึ้น
- อัลตร้าบุ๊ก ต้องมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่อย่างน้อย 5 ชั่วโมง ซึ่งโดยส่วนมากสามารถรองรับการทำงานได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมงตามที่กำหนดภายใต้ฟอร์มแฟคเตอร์ที่บางเฉียบ
- ระบบรักษาความปลอดภัยส่วนตัว
- เทคโนโลยี Intel Anti-Theft (Intel AT) เป็นฮาร์ดแวร์เทคโนโลยีที่สามารถล็อกการทำงานของอัลตร้าบุ๊ก ได้ในกรณีที่เครื่องหายหรือถูกขโมย เพื่อช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญที่จัดเก็บเอาไว้ในฮาร์ดไดร์ฟได้ เมื่อหาเครื่องเจอแล้วระบบสามารถกู้ข้อมูลทุกอย่างได้ตามเดิมอย่างรวดเร็ว ผู้ใช้สามารถใช้บริการที่รองรับเทคโนโลยี Intel AT ได้จาก Absolute Software*, Intel, Norton* and McAfee*.
- อัลตร้าบุ๊กทุกเครื่องมาพร้อมกับเทคโนโลยี Intel® Identify Protection เพื่อรองรับการใช้งานออนไลน์เพื่อทำกิจกรรมต่างเช่น ชอปปิ้ง ทำธุรกรรมทางการเงิน หรือเล่นเกมออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย โดยจะชิปจะมีระบบตรวจสอบที่คล้ายคลึงกับระบบรักษาความปลอดภัยของฮาร์ดแวร์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยยอมรับว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัยมากกว่าระบบตรวจสอบที่ใช้ซอฟต์แวร์เพียงอย่างเดียว
- I/O ที่เร็วขึ้น
- อัลตร้าบุ๊กที่ใช้อินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 3 ต้องมีเทคโนโลยี USB 3.0 หรือ เทคโนโลยี ธันเดอร์โบลท์™ (Thunderbolt™) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการโอนถ่ายข้อมูลด้วยความเร็วสูง
- โปรเซสเซอร์
- โปรเซสเซอร์ตระกูลอินเทล คอร์ สำหรับอัลตร้าบุ๊ก
คุณสมบัติพิเศษของอัลตร้าบุ๊ก ในอนาคต
วิสัยทัศน์ของอินเทลเกี่ยวกับอัลตร้าบุ๊ก™ เป็นการพัฒนาแบบต่อเนื่องรายปีที่ครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรม โดยที่อินเทลพร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นในการนำเสนอสุดยอดของประสบการณ์การประมวลผลที่สมบูรณ์แบบ และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างดีที่สุด
การเปิดตัวอัลตร้าบุ๊ก ระยะที่ 3 จะเริ่มต้นในปี 2556 โดยอินเทลคาดหวังว่าตลาดส่วนใหญ่จะแปลงไปเครื่องอัลตร้าบุ๊กที่ใช้โปรเซสเซอร์รุ่นต่อไปที่ใช้ชื่อรหัสว่า “แฮสเวลล์”
- อินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่นถัดไปที่มีชื่อรหัสว่า “แฮสเวล” (Haswell) ซึ่งจะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ในโหมดสแตนด์บาย (ซึ่งในบางกรณีสามารถอยู่ได้นานถึง 10 วัน) และช่วยลดการใช้พลังงานมากกว่ารุ่นปัจจุบันกว่า 20 เท่า