สำหรับผูที่ใช้งานแท็ปเล็ตไม่ว่าจะเป็นแท็ปเล็ต แอนดรอยด์ หรือ ไอแพต ก็มักจะต้องเจอกับปัญหาในการพิมพ์ข้อความ ไม่ว่าจะเป็นการแชทส่งข้อความหากัน หรือการคีย์ข้อมูลต่างๆ ที่ไม่สะดวกเอาซะเลย ส่งข้อความเล็กน้อยก็พอได้ แต่ถ้างานใหญ่ๆ เช่นแก้ไขข้อมูล หรือพิมพ์งาน นี่แทบจะอยากหาคีย์บอร์ดมานั่งพิมพ์ให้รู้แล้วรู้รอด
Genius LuxePad i9010 อีกหนึ่งตัวช่วยในการพิมพ์งานบนแท็ปเล็ตได้อย่างสะดวกมากขึ้น ด้วยการทำงานแบบไร้สาย เชื่อมต่อการทำงานได้ง่าย ปรับใช้งานได้หลายรูปแบบ และที่สำคัญเจ้าคีย์บอร์ดตัวนี้ออกแบบมาสำหรับใช้งานกับ iPad Mini โดยเฉพาะ เลยก็ว่าได้
อุปกรณ์ที่ให้มาภายในแพ็คเกจไม่มีอะไรมาก หลักๆ เลยก็จะมีตัวคีย์บอร์ดไร้สายสีดำ คู่มือการใช้งาน และสายชาร์จซึ่งจะเป็นสาย USB2.0 ด้านนึงจะเป็นหัว TypeA แบบปกติ ที่ใช้การอยู่สำหรับเสียบกับอแดปเตอร์ชาร์จ(ไม่มีแถมมาให้ต้องซื้อเพิ่ม) หรือพอร์ตยูเอสบีบนโน้ตบุ๊ก หรือคอมพิวเตอร์ทั่วไป อีกด้านจะเป็นพอร์ต USB2.0 แบบ Micro B ไว้เสียบกับตัวคีย์บอร์ดสำหรับชาร์จไฟ
ลักษณะหน้าตา ภายนอกอาจจะดูคล้ายๆ กับคีย์บอร์ดไร้สาย สำหรับใช้งานกับแท็ปเล็ตทั่วๆ ไป มีขนาดอยู่ที่ประมาณ 20 x 14.6 x 0.9 ซม. ทำจากพลาสติกแข็ง มีขนาดของ iPad Mini พอดีแปะ แต่ก็สามารถใช้งานกับแท็ปเล็ตรุ่นอื่นๆ ที่ขนาดหน้าจอประมาณ 8″ ได้เช่นกัน เพียงแต่ขนาดอาจจะไม่พอดีแปะ
หรืออาจจะไม่สามารถวางในช่องเสียบได้ (Versatile stand) เพราะช่องเสียบนี้ออกแบบมา เท่ากับขนาดของ iPad Mini พอดีแปะ ถ้าแท็ปเล็ตรุ่นอื่นๆ ที่มาใช้มีขนาดความยาวไม่เท่ากัน อาจจะสั้น หรือยาวกว่า จะไม่สามารถใส่ในช่องนี้ได้พอดี ก่อนซื้ออาจจะต้องมาวัดขนาด หรือลองใส่ดูก่อน
ส่วนการใช้งานด้านอื่น สามารถใช้งานร่วมกันได้ 100% แม้จะมีขนาดที่ไม่พอดี เพราะคีย์บแร์ดเหล่านี้มีการทำงาน หรือฟังก์ชั่นพื้นฐานที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ทั้งหมดอยู่แล้ว ขอเพียงแต่ตัวเครื่องที่ใช้งานนั้น จะต้องรองรับรูปแบบการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านสัญญาณ Bluetooth 3.0 ได้เป็นพอ
ลักษณะของตัวคีย์บอร์ด จะเรียงปุ่มกดแบบ Qwerty เหมือนๆกับคีย์บอร์ดทั่วไปเพื่อการพิมพ์สัมผัสได้อย่างสะดวก ปุ่มกดเป็นแบบ ชิคเล็ทสไตล์ ที่ใช้กลไกปุ่มแบบ scissor type หรือแบบขากรรไกร ที่ให้สัมผัสที่นุ่มนวลมากกว่า มีคีย์ลัด หรือปุ่มฟังก์ชั่นด้านบนให้ 11 ปุ่ม เพื่อความสะดวกในการใช้งาน แต่น่าเสียดายที่มีเฉพาะคีย์ภาษาอังกฤษ ไม่ได้สกรีนภาษาไทยให้ ต้องซื้อสติ๊กเกอร์ภาษาไทยมาแปะเพิ่มเอง ซึ่งก็อาจจะดูไม่สวยงามนัก
มาถึงการติดตั้ง ตัวคีย์บอร์ดรุ่นนี้ สามารถยึดติดกับ iPad Mini ได้ด้วยตัวล็อคแบบ clip-n-go design ใคล้ายๆ กับสมาร์ทโคเวอร์ ซึ่งจะยึดติดกับแท็ปเล็ตด้วยแม่เหล็กกำลังสูง
ลองติดคีย์บอร์ด เข้ากับ iPad Mini ดู สังเกตขนาดและและการออกแบบที่พอดีแปะ ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งยื่นออกมาให้เกะกะหรือรำคาญใจ แถมยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ ที่สามารถเปิด-ปิด หน้าจอของ iPad Mini ได้แบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องกดที่ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง คล้ายๆ กับฟีเจอร์ของสมาร์ทโคเวอร์
ใช้งานง่ายสะดวก รวดเร็ว มีไฟแสดงสถานะบอก พร้อมปุ่มเปิด-ปิด ที่มุมบนด้านขวาของตัวคีย์บอร์ด เพียงแค่เชื่อมต่อบลูทูชของแท็ปเล็ตเข้ากับคีย์บอร์ด จะมีโค้ตลับเป็นตัวเลข 4 ตัว ขึ้นที่หน้าจอ ให้กดตัวเลขบนคีย์บอร์ดลงไปตามนั้น ก็จะสามารถใช้งาน พิมพ์ข้อความหรือเอกสารต่างๆ ได้ในทันที
ในส่วนของด้านหลัง จะเป็นฝาอลูมินียม เพื่อความสวยงาม และป้องกันการตกกระแทรกได้ดี ด้านในมีแบตเตอร์รี่ แบบลิเธียม ที่สามารถชาร์จซ้ำได้ ขนาด 310 mA สามารถใช้งานได้ถึงประมาณ 180 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ปิดท้ายลองชั่งน้ำหนักดู อยู่ที่ราวๆ 234 กรัม หนักกว่าสเปคที่ระบุมา 3 กรัม เล็กน้อย ถ้าติดตั้งกับ iPad Mini ที่น้ำหนักประมาณ 341 กรัม รวมๆ แล้วก็ราวๆ 6 ขีดครึ่ง ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าหนักอะไรมากมาย เบากว่าโน้ตบู๊กรุ่นบางๆ หลายๆ รุ่น ซะอีก
ราคา 1,190 บาท
บริษัท ดิจิแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 02-930-7998
www.digiland.co.th
บริษัท เวลเทคกรุ๊ป จำกัด
โทร. 02-272-5520
www.welltechgroup.co.th