ฟูจิตสึรุกตลาดไทยต่อเนื่อง เปิดตัวไลฟ์บุ๊กใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่น ที่จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับวงการโน้ตบุ๊กไทย ด้วยไลฟ์บุ๊ก UH572 อัลตร้าบุ๊กในราคาที่ทุกคนจับต้องได้ พร้อมสร้างความตื่นตะลึงกับโน้ตบุ๊กขนาด 13.3 นิ้ว ที่บางและเบาที่สุดในโลกกับไลฟ์บุ๊ก SH772 และ SH572 ตอกย้ำการสร้างนิยามใหม่ให้กับคอมพิวเตอร์พกพาเมดอินเจแปน
นายเชาวนะ สุนทรพฤกษ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฟูจิตสึ พีซี เอเชีย แปซิฟิก จำกัด เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯมีการรุกตลาดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดได้มีการเปิดตัว ฟูจิตสึ ไลฟ์บุ๊ก ใหม่อีก 3 รุ่น เพื่อเจาะตลาด ด้วยจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร ได้แก่ Fujitsu LIFEBOOK UH572 อัลตร้าบุ๊กที่จะสร้างนิยามใหม่ในราคาที่สามารถจับต้องได้กับความลงตัวด้านประสิทธิภาพและการพกพาที่สมบูรณ์แบบ เหมาะกับผู้ใช้งานในกลุ่ม
Mainstream และ ไลฟ์บุ๊ก S ซีรีส์ 2 รุ่น คือ Fujitsu LIFEBOOK SH772 โน้ตบุ๊กขนาด 13.3 นิ้วที่บางและเบาที่สุดในโลก และ Fujitsu LIFEBOOK SH572 ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น
“ฟูจิตสึยังคงสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ที่พร้อมจะตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการความคล่องตัวและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ไลฟ์บุ๊กรุ่นใหม่จึงมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเพื่อสนองกับทุกความต้องการ สร้างความยืดหยุ่นเพื่อทุกการใช้งาน สะดวกในการพกพา ประสิทธิภาพที่ไม่เหมือนใคร ทั้งความปลอดภัยของข้อมูลระดับสูงสุด และความสวยงามที่ยึดหลักปรัชญาญี่ปุ่นทาคูมิ ในการออกแบบ” นายเชาวนะกล่าว
นายเชาวนะ กล่าวว่า ด้วยแรงบันดาลใจจากปรัชญา “ทาคูมิ” ฟูจิตสึจึงใส่ใจในการออกแบบไลฟ์บุ๊ก UH572 ให้เป็นอัลตร้าบุ๊กในราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้ ไลฟ์บุ๊ก UH572 มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ 3rd Generation Intel® Core™ และคุณสมบัติด้านความปลอดภัยกับอายุแบตเตอร์รี่ที่ยาวนาน ด้วยน้ำหนักเบาเพียงแค่ 1.6 กิโลกรัม ไลฟ์บุ๊ก UH572 ยังมาพร้อมกับ Intel® HD 4000 กราฟฟิกการ์ดรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ให้ภาพที่คมชัด สีสันสดใสและป้องกันการกระตุกขณะเล่นไฟล์วีดีโอ ด้วยจอแสดงผลแบบ High Definition SuperFine LCD ขนาด 13.3 นิ้ว พร้อมระบบเสียง DTS Boost™ รวมถึงนวัตกรรมล้ำยุค อย่าง Face Sense Utility ที่จะหยุดหรือเริ่มแอปพลิเคชั่นหรือกิจกรรมบนตัวเครื่อง โดยการตรวจจับใบหน้าของผู้ใช้งานเมื่ออยู่หน้าเครื่องได้ด้วยกล้องระดับHD คีย์บอร์ดแบบ isolated พร้อมฟังก์ชั่นการเลื่อนหน้าจอทั้งแนวนอนและแนวตั้งด้วย Intelligent Touch Pad ยิ่งไปกว่านั้นนอกเหนือจากพื้นที่จัดเก็บฮาร์ดดิสก์แล้ว ไลฟ์บุ๊ก UH572 ยังมีพื้นที่จัดเก็บพิเศษขนาด 32GB ด้วย iSSD พอร์ต USB แบบ high-speed และช่อง SDXC / MS Duo Card เพื่อการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth 4.0 และ WLAN พร้อมคุณสมบัติด้านความปลอดภัยมากมาย ได้แก่ BIOS ล็อค, ฮาร์ดดิสก์ล็อค, สล๊อตป้องกันขโมย, และเทคโนโลยี Absolute® Data Protect เพื่อการป้องกันข้อมูลที่สำคัญอย่างสูงสุด ไลฟ์บุ๊ก UH572 มีให้เลือกทั้งสีแดงและสีเงิน เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เน้นความเป็นแฟชั่น
ไลฟ์บุ๊ก SH772 และ ไลฟ์บุ๊ก SH572 ถือว่าเป็นโน้ตบุ๊กนิยามใหม่ของความบางและเบาสำหรับเครื่องโน๊ตบุ๊ก Made in Japan ด้วยขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว ตัวเครื่องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งคงทน โดย ไลฟ์บุ๊ก SH772 มีความหนาเพียง 16.6 มม. และมีน้ำหนัก 1.21 กิโลกรัม ซึ่งนับได้ว่าเป็นเครื่องโน๊ตบุ๊กที่บางและเบาที่สุดในโลก เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความมีสไตล์และความสมบูรณ์แบบที่มาพร้อมกับเครื่องสีดำหรูหรา สำหรับรุ่น ไลฟ์บุ๊ก SH572 มีความหนาเพียง 17.4 มม. และมีน้ำหนัก 1.42 กิโลกรัม มาพร้อมกับหลายเฉดสีให้เลือกทั้งดำประกาย ขาวประกายมุก แดงการ์เน็ต
สำหรับไลฟ์บุ๊ก S ซีรีส์ใหม่ทั้ง 2 รุ่นนี้ ถือเป็นเทคโนโลยีเรือธงของฟูจิตสึในปี 2555 นี้ โดยใช้โปรเซสเซอร์อินเทลเจนเนอเรชั่น 3 ที่ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินกับภาพยนตร์ได้ยาวนานจากอายุแบตเตอร์รี่ที่ยาวนานขึ้น โดย ไลฟ์บุ๊ก SH772 ใช้งานได้สูงสูด 14 ชั่วโมงในโหมดการทำงานปกติ และเพิ่มขึ้นเป็น 19 ชั่วโมง สำหรับตัวเลือกแบตเตอร์รี่โมดูลล่าเบย์ ที่ใส่เพิ่มแบตเตอรี่ได้ และสำหรับ ไลฟ์บุ๊ก SH572 สามารถใช้งานได้สูงสุด 12 ชั่วโมง สำหรับการใช้งานปกติ และเพิ่มขึ้นเป็น 16 ชั่วโมง สำหรับตัวเลือกแบตเตอร์รี่โมดูลล่าเบย์ ที่ใส่เพิ่มแบตเตอรี่ได้
นายเชาวนะ กล่าวว่า ไลฟ์บุ๊กมีโมดูลล่าเบย์เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้งานยิ่งขึ้น เช่น การเชื่อมต่อโปรเจคเตอร์เพื่อการชมภาพวีดีโอหรืองานพรีเซ็นต์ต่างๆ หรือเลือกเปลี่ยนไปใช้ไดร์ฟ Blu-ray, Dual DVD super multi writer เพื่อประหยัดน้ำหนักเครื่อง หรือเพิ่มเป็นแบตเตอรี่เพื่ออายุการใช้งานที่นานขึ้น ซึ่งผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการขณะนั้นๆ รวมถึงพอร์ต USB Anytime Charge สามารถชาร์จเครื่องมือสื่อสารได้แม้กระทั่งขณะเครื่องปิดอยู่ รวมทั้งการออกแบบให้ไลฟ์บุ๊กมีตัวกรองฝุ่นที่สามารถถอดออกได้ ส่งผลให้เครื่องสามารถระบายความร้อนได้เต็มประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติ Quick Start เปิดเครื่องได้รวดเร็วภายใน 8 วินาที พิเศษด้วย Fujitsu Face Sense ที่จะหยุดการเล่นวิดีโอเมื่อผู้ใช้งานไม่ได้อยู่หน้าเครื่องยิ่งกว่านั้น ไลฟ์บุ๊ก SH772 ยังมาพร้อมกับกล้องระดับ High Definition สำหรับบันทึกภาพระดับ HD และความคมชัดในการประชุมผ่าน Video conference
ไลฟ์บุ๊ก S ซีรีส์ทั้ง 2 รุ่นนี้ ยังใช้เทคโนโลยีสีเขียวของฟูจิตสึ กับ 3-watt AC อแด็ปเตอร์ที่ลดการใช้พลังงานถึง99% เมื่อเทียบกับอแด็ปเตอร์ปกติทั่วไป และประหยัดพลังงานอีกขั้นด้วย Light Sensor ที่ตรวจจับสภาวะแสงเพื่อปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะกับสภาวะที่ใช้งานขณะนั้นๆ ด้วย พร้อมป้องกันข้อมูลด้วยเซ็นเซอร์ RF Fingerprint ที่มาพร้อมกับตัวชี้แบบ LED เพิ่มความแม่นยำให้การระบุตัวเจ้าของ และ Fujitsu 3D Shock Sensor ที่พร้อมปกป้องฮาร์ดดิกส์จากการกระแทกและการสั่นสะเทือน
ฟูจิตสึยึดมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยสูงให้แก่ผู้บริโภคด้วยการปฏิบัติตามกฎของ European Union’s Restriction of Hazardous Substances directive (RoHS) ที่ฟูจิตสึนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ทุกชนิด นอกจากนี้ฟูจิตสึยังได้ตั้งข้อปฏิบัติที่เกินกว่ามาตรฐานที่ RoHs กำหนดไว้ เพื่อประโยชน์ของลูกค้าของฟูจิตสึอย่างแท้จริง และเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ฟูจิตสึได้ปฏิบัติตามแนวคิดเรื่องเทคโนโลยีสีเขียวอย่างเคร่งครัด โดยการผลิตเครื่องที่ประหยัดพลังงาน ฟูจิตสึยังได้เข้าร่วมขบวนการต่อสู้เพื่อรักษ์โลกโดยการเป็นสมาชิกของ Climate Servers อีกด้วย