Fortinet® (NASDAQ: FTNT) – ผู้นำในโซลูชั่นทรงประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยไซเบอร์ระดับโลก ได้เปิดตัวซีเคียวริตี้แฟบลิคใหม่ ซึ่งเป็น โครงสร้างสถาปัตยกรรมทื่แบบหลอมรวม ประยุกต์ได้ ทำงานประสานงานกันอย่างชาญฉลาด ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้องค์กรมีเกราะป้องกันภัยคุกคามที่มากับ IoT และคลาวด์ ที่จะเข้ามาในเครือข่ายภายในองค์กร และกลับออกไปที่คลาวด์อีก
- และในวันนี้ ยังได้เปิดตัวไฟร์วอลล์ระดับเอ็นเตอร์ไพร้ส ซีรีส์ FortiGate 6000E and 2000E ที่ใช้คอนเท้นท์โปรเซสเซอร์เน็กซ์เจเนอเรชั่นรุ่น FortiASIC CP9 content processor เพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพความปลอดภัยเครือข่ายให้ได้ทั่วผืนซีเคียวริตี้แฟบลิคใหม่นี้
- นอกจากนี้ ได้มีการพัฒนาเฟรมเวิร์คในการป้องกันภัยคุกคามขึ้นสูง Advanced Threat Protection (ATP) framework ของฟอร์ติเน็ตให้สมบูรณ์ขึ้น เพื่อเมื่อทำงานร่วมกับฟอร์ติเการ์ตแล้ว จะสามารถผลิตข้อมูลด้านภัยคุกคามที่เกิดขึ้นณ บริเวณนั้นได้อย่างรวดเร็วและตอบโต้ภัยได้แบบออโต้เมท ซึ่งเป็นข้อมูลที่นำไปใช้ป้องกันภัยทั่วโลกได้
- ฟอร์ติเน็ตถือโอกาสนี้ประกาศความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีครั้งใหม่กับคาร์บอนแบล็ค (Carbon Black) ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มด้านความปลอดภัย เพื่อเร่งพัฒนาความปลอดภัยต่อสู้กับภัยคุกคามชั้นสูงในปัจจุบันนี้
ซีเคียวริตี้แฟบลิคเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับนวัตกรรมทางธุรกิจในเศรษฐกิจดิจิตอล
เศรษฐกิจดิจิตอลในทุกวันนี้ เชื่อมโยงผู้ใช้งาน อุปกรณ์ แอปพลิเคชั่น และข้อมูลมากขึ้นกว่าเดิมมาก เพื่อส่งเสริมยอดธุรกิจ และเห็นได้ว่า มีอุปกรณ์ IoT ที่ไม่มีเจ้าของและเลขไอพีใหม่จำนวนพันล้านครั้ง เชื่อมโยงผ่านอุปกรณ์แอคเซสพ้อยท์ตามสายและไร้สายเข้ามาในเครือข่ายสาธารณะและขององค์กร ผ่านโครงข่ายแบบเดิมๆ และโครงข่ายคลาวด์ และรับ-ส่งข้อมูลขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ในการเป็นผู้ชนะในการแข่งขันในเศรษฐกิจดิจิตอลนี้ องค์กรจำเป็นจะต้องมีกลยุทธ์ด้านความปลอดภัย ที่สามารถช่วยให้เห็นและบริหารข้อมูลที่เข้ามาในเครือข่ายได้โดยไม่สูญเสียความคล่องตัวหรือประสิทธิภาพของเครือข่าย
ซีเคียวริตี้แฟบลิคสอดร้อยคุณสมบัติด้านความปลอดภัยเครือข่ายได้อย่างราบรื่นครบถ้วน
ซีเคียวริตี้แฟบลิคสร้างเกราะความปลอดภัยโดยไม่มีการผ่อนปรน
ซีเคียวริตี้แฟบลิคสร้างผืนผ้าแห่งความปลอดภัยผืนเดียว ที่มีคุณสมบัติครบ 5 ประการคือ – scalability, awareness, security, actionable และ open
ในการที่สามารถตรวจพบและหยุดภัยคุกคามในเครือข่ายได้นั้น ซีเคียวริตี้แฟบลิคไม่เพียงแต่จะต้องมีสเกล (Scale) ที่ยืดหยุ่นสูง เพื่อรองรับกับความต้องการด้านประสิทธิภาพและขนาดต่างๆ ยังต้องสามารถปรับแต่งเพื่อการป้องกันในทุกที่ได้อย่างราบรื่น นี่หมายถึง ฟอร์ติเน็ตกำลังนำเสนอโซลูชั่นด้านความปลอดภัยเพื่อปกป้องพื้นที่ทุกนิ้วบนโครงข่าย ซึ่งรวมถึงเครือข่ายตามสายและไร้สาย อุปกรณ์ IoT และผู้ใช้งานปลายทาง ชั้น Access layers สำหรับโมเดลคลาวด์ที่เป็นพับลิคและไฮบริด เครือข่ายประเภทเอสดีเอ็น (Software-defined networks) และเสมือน (Virtualization) ซีเคียวริตี้แฟบลิคนี้สร้างอยู่บนเทคโนโลยีขั้นสูงมากมาย และรวมถึง โพรเซสเซอร์ FortiASIC สำหรับฮาร์ดแวร์ และอุปกรณ์เครือข่ายที่มีการทำงานด้านความปลอดภัยในตัวอยู่แล้ว อาทิ อินสแตนท์แบบคลาวด์และเสมือน เพื่อให้แน่ใจว่า โซลูชั่นด้านความปลอดภัยจะไม่ทำให้ประสิทธิภาพและคุณสมบัติของเครือข่ายตกลง
ซีเคียวริตี้แฟบลิคทำงานเหมือนเป็นส่วนเดียวกัน จึงสามารถรับรู้ (Awareness) ได้ทั้งตามประเภทอุปกรณ์ ผู้ใช้งาน คอนเท้นท์ และข้อมูลที่เข้ามาและออกนอกเครือข่าย สามารถเห็นแพทเทิร์นของทราฟฟิคอย่างชัดเจน คุณสมบัตินี้จะช่วยลดต้นทุนทั้งในการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหาร และการสร้างกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยใหม่ๆ อาทิ การจัดทำ End-to-end segmentation ในการป้องกันภัยคุกคามขั้นสูง
ความปลอดภัย (Security) เครือข่ายต้องการเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในเครือข่าย และ การที่สามารถเห็นข้อมูลต่างๆ จากแหล่งต่างๆ ทางจอเดียวกันของซีเคียวริตี้แฟบลิคนี้ เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีระบบปฏิบัติการ FortiOS. เฉพาะของฟอร์ติเน็ตที่พัฒนาขึ้นเพื่อดักตรวจทราฟฟิคอย่างลึก สามารถรวบรวมเป็นข้อมูลความปลอดภัยและส่งไปยังศูนย์วิเคราะห์ภัยฟอร์ติการ์ตแล็ปส์ (FortiGuard Labs) ที่ทำหน้าที่สร้างและส่งอัปเดทออกให้ทั่วระบบอย่างอัตโนมัติและรวดเร็ว ระบบการวิเคราะห์ที่ละเอียด รวดเร็ว ปรับขนาดได้นี้ใช้อินเทลในการจัดการ จึงให้ลงมือจัดการ (Actionable) ตรวจสอบ ตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว และลดภัยคุกคามได้ทุกที่
นอกจากนี้ ซีเคียวริตี้แฟบลิคนี้ออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับพันธมิตรอีโคซิสเต็มและผู้ให้บริการโซลูชั่นบุคคลที่สามได้อย่างกว้างขวาง ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากสถาปัตยกรรมโครงข่ายและในการลงทุนได้เต็มที่ ฟอร์ติเน็ตจึงได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรทั่วโลก (Global Alliance Partners) เพื่อพัฒนา API แบบเปิด (Open) ให้ทั่วผืนผ้านี้ โดยล่าสุด ฟอร์ติเน็ตได้ประกาศความร่วมมือกับคาร์บอนแบล็ค (Carbon Black) เพื่อให้ลูกค้าองค์กรมีระบบความปลอดภัยแบบออโตเมท และสามารถควบคุมต่อสู้กับภัยคุกคามชั้นสูงได้
เจย์ เอชชิ่งส์ ผู้อำนวยการด้านคอมพิวเตอร์เพื่อการวิจัย แห่งมหาวิทยาลัย Arizona State University ได้กล่าวว่า “คณะคอมพิวเตอร์เพื่อการวิจัย แห่งมหาวิทยาลัย Arizona State University ได้รับการยกย่องว่า เป็นคณะที่สร้างสรรค์มากที่สุดในประเทศ เราเห็นว่า ศักยภาพเดียวที่จะสามารถตอบสนองประสิทธิภาพและความปลอดภัยคือ การทำงานแบบผืนที่ไม่มีรอยต่อ ทั้งนี้ ซีเคียวริตี้แฟบลิคความเร็วสูง 100Gbps ของฟอร์ติเน็ตนี้ ช่วยให้สนับสนุนให้เราสร้างงานวิจัยและนวัตกรรมที่ดีต่อไปได้”
ทอม บาร์ซี รองประธานอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจ แห่งคาร์บอนแบล็ค ได้กล่าวว่า “ซีเคียวริตี้แฟบลิคของฟอร์ติเน็ตเข้ากันกับกลยุทธ์ ‘Unite’ ของเราได้เหมาะเจาะได้ ในการรวมผลิตภัณฑ์ของเราเข้ากับผลิตภัณฑ์ของพันธมิตร เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านความปลอดภัยที่ทำงานอย่างไร้รอยต่อให้กับลูกค้าของเรา ทั้งนี้ ต่อไปนี้ ไฟล์ที่คาร์บอนแบล็คพบและคาดว่าเป็นสิ่งน่าสงสัย จะถูกส่งไปยังอุปกรณ์ FortiSandbox เพื่อวิเคราะห์ให้ละเอียดและทำ real-time ratings ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ามีศักยภาพในการหยุดภัยคุกคามขึ้นอีกหนึ่งชั้น”
ซีอุส เคราเวล่า หัวหน้านักวิเคราะห์ แห่ง ZK Research กล่าวว่า “โมบิลิตี้ คลาวด์และ IoT ได้ทำให้ความปลอดภัยเป็นเรื่องที่ซับซ้อนขึ้นมาอีกมาก ผลการสำรวจ 2015 ZK Research Security Survey ของเราพบว่า ผู้ตอบจำนวน 43% ยอมรับว่า ได้ลดคุณสมบัติด้านความปลอดภัยในอุปกรณ์ลง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า อุปกรณ์ที่ใช้อยู่นั้นไม่สามารถรองรับกับภัยคุกคามขั้นสูงได้ จึงทำให้กลยุทธ์แบบเดิมๆ ขาดประสิทธิภาพ ดังนั้น องค์กรธุรกิจจึงควรใช้ซีเคียวริตี้แฟบลิคที่เป็นหนึ่งเดียวกัน จึงสามารถให้ชั้นความปลอดภัยที่ดี โดยไม่ต้องแลกกับความเร็วการทำงานของเครือข่ายที่ต้องต่ำลง”