ผมสนใจ SD Card ที่สามารถส่งข้อมูลผ่าน WiFi ได้มานานมากแล้วครับ ก็ตั้งแต่ที่มีการ์ด Eye-Fi ออกมานั้นแหละ แต่ผ่านมาหลายต่อหลายปี ไม่รู้ทำไมก็ยังไม่มีใครเอาการ์ดนี้มาขายในไทยเสียที จนผมไปพบกับ Flucard ของเล่นที่น่าจะมาทำให้ความฝันของผมเป็นจริงครับ
โดย @eka_x (www.aofapp.com)
Flucard เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท Trek ต้นตำหรับคำว่า ThumbDrive จากสิงคโปร์ครับ ซึ่ง Flucard ก็ถือเป็น SD Card แบบส่ง WiFi ตัวแรกๆ ที่มีผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยครับ โดยคุณสมบัติของ Flucard คือสามารถส่งรูปถ่ายหรือวิดีโอจากกล้องออกมายังคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออัพโหลดขึ้นบริการบนอินเทอร์เน็ตได้โดยตรงโดยไม่ต้องเสียบสายครับ จะโยนไฟล์ระหว่าง 2 กล้องที่ใช้ Flucard เหมือนกันก็ได้ ขอแค่เชื่อม WiFi กันได้เท่านั้น
หลายคนอาจจะยังนึกไม่ออกว่าการที่สามารถส่งภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอลแบบไร้สายมันดียังไง ผมยกตัวอย่างสถานการณ์งานถ่ายรูปสักงานหนึ่ง อาจจะเป็นรับปริญญาหรืองานแต่งงาน ถ้าช่างภาพใช้ Flucard ก็จะสามารถส่งภาพที่อยู่ในกล้องมาแสดงบน iPad ได้ทันทีที่หน้างาน ไม่ต้องรองานจบแล้วค่อยโหลดเข้าคอม ซึ่งคนถ่ายจะใช้ดูเองในจอใหญ่ๆ ของ iPad เพื่อมองหาจุดผิดพลาดในภาพแล้วถ่ายซ้ำใหม่ตรงนั้นก็ได้ หรือจะตกแต่งภาพง่ายๆ ด้วยพลังของ iPad แล้วเปิดให้ลูกค้าดูตรงนั้นก็ยังได้ (ถ้าเทพพอ) เรียกความประทับในงานได้มหาศาล หรือยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาเราไปเที่ยวป่า เที่ยวทะเล ก็สามารถเปิดกล้องแล้วส่งภาพที่ถ่ายมาแต่งและอัพโหลดขึ้น Facebook อวดเพื่อนได้ทันที เรียกว่าเอาภาพสวยๆ จากกล้องราคาแพงของเรา มาส่งให้ iPhone / iPad แต่งภาพแล้วเอาไปใช้ต่อได้ทันทีจากกลางป่า ตื่นเต้นไปกับความเจ๋งของการ์ด SD แบบ WiFi ไปกับผมรึยังครับ เอาแหละเรามาลองดูวิธีการใช้งาน Flucard กันว่าสำหรับการใช้งานจริง มันจะใช้ง่ายหรือยุ่งยากยังไง
เริ่มต้นเซ็ตอัพการ์ด
1. หน้าตาของ Flucard ก็จะเหมือนกับ SD Card ทั่วไปครับ เพียงแต่มีเคสสีขาวสะอาดตาเท่านั้น ก็นำการ์ดใส่ลงไปในกล้องรุ่นอะไรก็ได้ที่รองรับ SD card แล้วเปิดใช้งานได้ทันทีครับ (ทางผู้ผลิตแจ้งว่าถ้ากล้องไหนรองรับแค่ CF ก็สามารถใช้ตัวแปลง SD -> CF เพื่อใช้งาน Flucard ได้เหมือนกันครับ)
2. หลังจากเปิดกล้องเมื่อกดปุ่มดูภาพ เราจะเห็นว่าในการ์ดนั้นมีรูปอยู่แล้ว 4 ใบ มันไม่ใช่รูปปกตินะครับ มันเป็นรูปที่ใช้สั่งงานการ์ด ซึ่งจะมี 4 คำสั่งคือ รับภาพจาก flucard อื่นๆ, ส่งภาพไป flucard ในกล้องอื่น, Setting พร้อมดูภาพและสุดท้ายคือสั่งอัพโหลดภาพขึ้น Server ครับ ซึ่งตอนนี้เราสามารถเอากล้องไปถ่ายภาพได้เลยเหมือนตอนใส่การ์ด SD ปกติครับ แต่ผมก็แนะนำให้ตั้งค่าการ์ดให้เรียบร้อยก่อน
3. วิธีตั้งค่าคือเลื่อนไปที่ภาพ Setting แล้วกดลบภาพเลยครับ ภาพ Setting จะหายไป (รีเซ็ตกล้องภาพนี้ก็กลับมาใหม่) เสียงปี๊บๆ จากตัวการ์ดจะดังขึ้นมาแทน พอเสียงเงียบลงให้เข้าไปที่คอมหรือสมาร์ทโฟนเพื่อหาเสา WiFi ที่ชื่อว่า “Trek_FLUCARD_WiFi” แล้วเชื่อมเข้าไปเลย เห็นแบบนี้แล้วหลายคนน่าจะดีใจนะครับที่เจ้า Flucard สามารถเป็นเสาส่ง WiFi ได้ด้วยตัวเอง หมดกังวลว่าถ้าอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณ WiFi แล้วการ์ดจะส่งภาพออกมายังไง (แต่การ์ดบางชุดจะเซ็ตค่ามาตรฐานให้เปิด WiFi อยู่แล้วครับ ก็ลองให้มือถือสแกนหา WiFi ก่อน ถ้าไม่เจอเสาของ Flucard ค่อยมากดลบภาพ Setting)
เลือกภาพนี้แล้วกดลบภาพได้เลยครับ
เมื่อเจอเสา WiFi ของ flucard แล้วก็เชื่อมเข้าไปได้เลย
4. หลังจากเชื่อมสัญญาณกับการ์ดเรียบร้อยแล้ว ให้เปิดเบราว์เซอร์แล้วป้อน “https://192.168.1.1” หรือ https://flu.card/ เพื่อเข้าสู่หน้าตั้งค่าการ์ดครับ ตรงนี้จะใช้คอมหรือสมาร์ทโฟนเข้าก็ได้เหมือนกัน
5. ผมขอเล่าคร่าวๆ ว่าในหน้าตั้งค่านี้เราสามารถสั่งให้การ์ดเปิด/ปิด WiFi ตั้งแต่เปิดกล้องเลยก็ได้ ซึ่งผมก็ขอเลือกเป็นปิดเพื่อให้ประหยัดแบตดีกว่า นอกจากนี้ยังตั้งรหัสผ่านในการเชื่อม WiFi ของการ์ดเพื่อป้องกันการถูกขโมยภาพจาก WiFi ครับ แล้วยังมีส่วนการตั้งค่าฟังก์ชั่นอัพโหลดภาพขึ้นอินเทอร์เน็ตโดยอัตโนมัติว่าจะให้การ์ดไปเชื่อมกับ WiFi ชื่ออะไรเพื่ออัพโหลดภาพขึ้น Server ครับ ซึ่งในจุดนี้ Trek ได้เตรียมพื้นที่สำหรับเก็บรูปบนเว็บให้ใช้ได้ฟรีๆ 2 GB
สำหรับการใช้งานฟังก์ชั่นอื่นๆ เช่นการรับ-ส่งภาพระหว่างกล้อง หรืออัพโหลดภาพขึ้นอินเทอร์เน็ตจากกล้อง ก็เพียงเลือกภาพคำสั่งในกล้องแล้วกดลบภาพนั้นก็ใช้งานได้แล้วครับ แต่ก็ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ระบุในคู่มือเหมือนกัน เช่นจะอัพโหลดภาพขึ้นอินเทอร์เน็ตโดยตรงจากกล้อง ก็ต้องกำหนดเสา WiFi และใส่รหัสเข้า WiFi ให้เรียบร้อยใน Setting แล้วเวลาอัพโหลดก็ต้องอยู่ในบริเวณของ WiFi ที่เรากำหนดไว้ด้วยครับ
นำภาพที่อยู่ในการ์ดออกมาใช้
ตอนนี้กล้องเราก็พร้อมใช้ถ่ายรูปจริงๆ แล้วนะครับ ที่นี้มาดูตอนจะโอนภาพจากการ์ดเข้าสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์กันบ้าง สิ่งแรกที่ต้องเตรียมคือแอพสำหรับมือถือ ค้นคำว่า flucard ใน App Store หรือ Google Play จะเจอแอพของ Flucard ที่มีประโยชน์ต่างกันเต็มไปหมด ทั้งแอพที่ใช้โหลดรูปธรรมดา (Flucard Download) แอพที่แสดงภาพถ่ายล่าสุดจากกล้องสดๆ ชนิดที่กล้องเซฟภาพปุ๊บ ก็ส่งเข้า iPad ปั้บ เอาไว้ใช้ประโยชน์ตอนออกกองถ่ายภาพ (Flucard Shoot & View) และแอพอื่นๆ อีกมากมายเลือกใช้ตามสะดวก
แอพของ flucard มากมายใน App Store แต่เสียเงินโหลดทั้งนั้น
เวอร์ชั่น Lite จะดาวน์โหลดได้ครั้งละรูป
แต่ที่แอบเคืองคือมันแจกฟรีแค่ Flucard Download lite ที่สามารถโหลดภาพได้ครั้งละภาพเท่านั้น ถ้าต้องการแบบที่โหลดพร้อมกันได้เยอะๆ ก็ต้องเสียค่าโหลดแอพประมาณตัวละ 3 เหรียญ หรือ 100 บาท แยกไปเลยตัวละฟังก์ชั่น ใช้หลายฟังก์ชั่นก็เสียเงินโหลดเยอะหน่อย แถมแอพสำหรับ iOS ยังไม่ใช่ Universal คือซื้อตัวโหลดภาพรุ่น iPhone แล้ว ยังต้องซื้อตัวโหลดภาพรุ่น iPad อีก รวมถึงแอพของ Android และโปรแกรมโหลดภาพสำหรับคอมพิวเตอร์ด้วยนะครับที่ต้องซื้อแยก ผมจึงเขียนได้แค่ตัวแอพที่แจกฟรี เพราะไม่มีเงินซื้อแอพเสียเงินมาลองครับ T T
ภาพจากกล้องดิจิตอลขึ้นมาแสดงใน iPad พร้อมโหลดลงเครื่อง
เมื่อเตรียมแอพเรียบร้อยก็เชื่อมอุปกรณ์ของเราเข้ากับ WiFi ที่ Flucard ปล่อยออกมาครับ ตามวิธีที่ผมเขียนไปแล้วตอนแรก (ถ้าการ์ดยังไม่ปล่อย WiFi ก็ไปลบรูป Setting ของการ์ดก่อนครับ) เสร็จแล้วก็เปิดแอพของ Flucard ขึ้นมาเลย มันก็จะโหลดรูปทั้งหมดที่มีอยู่ในการ์ดมาแสดง เราก็เลือกเซฟลงเครื่องไปใช้งานต่อได้ทันที… จบครับ
การดาวน์โหลดพร้อมแสดงตัวอย่างภาพผ่านเบราว์เซอร์บนคอมพิวเตอร์ครับ
ดาวน์โหลดวิดีโอที่ถ่ายจากกล้องดิจิตอลลงคอมได้ด้วย
ที่นี่ถ้าใช้กับคอมพิวเตอร์ก็ทำแบบเดียวกันครับ ให้คอมพิวเตอร์เชื่อม WiFi ของการ์ด เสร็จแล้วก็ใช้โปรแกรมของ Flucard ดาวน์โหลดภาพลงมา แต่ถ้าไม่ได้ซื้อโปรแกรมก็เปิดเบราว์เซอร์เข้าไปที่ https://192.168.1.1 เหมือนตอน Setting แล้วดาวน์โหลดภาพและวิดีโอลงเครื่องผ่านเบราว์เซอร์เอา
ความคิดเห็นเกี่ยวกับ Flucard
หลังจากทดลองใช้ Flucard เรียบร้อยแล้ว ผมค่อนข้างชอบการ์ดตัวนี้นะครับ มันใช้งานได้จริงตามที่โฆษณาไว้ โอนภาพแบบไร้สายเข้าสมาร์ทโฟนทั้ง iOS และ Android หรือจะเป็นแท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์ด้วยความเร็วประมาณ 1.5 MB ต่อวินาทีในระยะไม่เกิน 20 เมตร (สเปกบอกสูงสุดที่ 2 MB/s ครับ) ก็ใช้ส่งภาพจากกล้องไปแสดงบน iPad ของผมได้สบายๆ ตกประมาณภาพละวินาทีพอดี ยกเว้นเวลาส่งไฟล์ใหญ่ๆ พวก RAW file ที่ต้องรอนานหน่อย ส่งภาพขึ้นบริการเก็บภาพของ Trek เองก็ได้ แล้วยังมีความสามารถที่คู่แข่งอย่าง Eye-Fi ไม่มีคือการส่งภาพระหว่างกล้องที่ใช้ Flucard ด้วยกันโดยตรงด้วย
ข้อสังเกตเวลาใช้ Flucard คือตอนนี้มันไม่สามารถส่งวิดีโอที่ถ่ายจากกล้องไปเก็บใน iPhone, iPad ได้ครับ เพราะตัวแอพที่ใช้ดาวน์โหลดจะมองเห็นรูปถ่ายอย่างเดียว แต่ถ้าใช้ผ่านเบราว์เซอร์บน PC ก็ส่งวิดีโอได้ไม่มีปัญหาอะไร ก็คงต้องรอผู้ผลิตอัพเดทแอพหรือส่งแอพใหม่มาขายต่อไป แล้วก็เรื่องความร้อนของการ์ดเมื่อเปิดการส่งข้อมูลผ่าน WiFi จะร้อนมากพอสมควรจนบางคนตกใจ แต่ผู้ผลิตบอกว่าไม่มีปัญหากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในกล้องแน่นอนครับ แล้วการเปิดใช้งาน WiFi จะกินแบตเตอรี่ของกล้องมากขึ้นด้วยนะครับ ถ้าต้องออกไปถ่ายนานๆ ก็ระวังแบตเตอรี่ถ่ายไม่พอจนจบงานด้วย สุดท้ายคือเรื่องซอฟต์แวร์ที่บางคนซื้อการ์ดไปโดยไม่รู้ว่าต้องเสียค่าแอพโหลดรูปเพิ่มอีก เวลาจะใช้อาจหงุดหงิดได้ แต่เมื่อคิดถึงราคาการ์ดที่ค่อนข้างถูกรวมกับค่าแอพที่ต้องซื้อเพิ่มราว 100-200 บาท แล้วแต่ว่าจะใช้ฟังก์ชั่นเยอะแค่ไหน ก็ถือว่า Flucard ก็ยังคุ้มค่าน่าใช้อยู่ดีครับ
ส่วนถ้าเอาไปเทียบกับ Camera Connection Kit (CCK) ของ iPad ที่ผมใช้เป็นปกติอยู่แล้ว Flucard จะคล่องตัวกว่าในแง่ที่ใช้ส่งภาพสดๆ ที่เพิ่งถ่ายจากกล้องออกมาได้ทันที ใช้กับ iPhone ก็ได้ เพราะ CCK ใช้ได้กับ iPad อย่างเดียว นอกจากนี้ก็ไม่ต้องเสียเวลาถอดการ์ดออกจากเครื่องมาเสียบเข้า iPad ด้วย แต่ CCK จะได้เปรียบตรงความเสถียร เพราะถอด SD card จากเครื่องมาเสียบเข้ากับ iPad โดยตรง ทำให้ไม่มีปัญหาสัญญาณหลุด กล้องเข้าโหมดประหยัดไฟ หรือแบตหมดระหว่างโอนรูป แล้วก็สามารถก็อปวิดีโอจากการ์ดเข้าเครื่องได้โดยตรงด้วย ดีอย่างเสียอย่างก็เลือกใช้ให้เหมาะสมครับ
สำหรับใครที่สนใจ Flucard สามารถหาซื้อได้ที่ IT City (ที่มีแน่ๆ คือสาขาพันธุ์ทิพย์ประตูน้ำ, พารากอน แล้วก็ฟอร์จูน) โดยรุ่น 4 GB ราคาประมาณ 1590 บาทและ 8 GB ขาย 1990 บาทครับ แล้วพบกันใหม่ในคอลัมน์หน้า ซึ่งก็ไม่รู้ว่าผมจะไปแจมคอลัมน์ไหนอีกนะครับ 😛 สวัสดีครับ
คะแนน
- Performance: 8 – ความเร็วในการส่งข้อมูลถือว่าโอเค
- Feature: 9 – ฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลาย
- Design: 9 – สีขาวโดดเด่นกว่าการ์ดอื่นๆ
- Best Value: 6 – ราคาการ์ดสมเหตุผล แต่ต้องซื้อแอพเพิ่ม
- First Impression: 7 – บรรจุภัณฑ์ดูดี แต่กล่องใหญ่เกินไปนิด
ราคา 4GB – 1,590 บาท / 8GB – 1,990 บาท
Trek Technology (Thailand) Co., Ltd.
Tel. 02-129-3988
wow!