17 มิถุนายน 2557 – เอปสันตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดการพิมพ์ที่คุ้มค่าสูงสุด ด้วยต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นถูกสุด เปิดตัวพรินเตอร์แท็งค์แท้เสริมทัพอีก 4 รุ่น หวังกวาดส่วนแบ่งตลาดทั่วประเทศเพิ่ม พร้อมชูกลยุทธ์สร้างแบรนด์ “แอลซีรี่ส์” คู่ความคุ้มค่าในการลงทุน เพิ่มไลน์สินค้าในช่องทางการขายทั่วประเทศ ตอกย้ำความมั่นใจลูกค้าด้วย การรับประกันและบริการหลังการขาย และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เน้นช่วยลูกค้าประหยัด
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันพรินเตอร์ประเภท หมึกพิมพ์ความจุสูง (High Yield Printer) มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ยอดขายเติบโตเป็นสองเท่า ทุกปี และเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ได้กว้างขึ้น ตั้งแต่ผู้ใช้ตามบ้าน ไปจนถึงองค์กรธุรกิจขนาดต่างๆ ทั้งนี้เป็นผลมาจากการที่ ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการประหยัดต้นทุนการพิมพ์มากขึ้น พร้อมกับตระหนักถึงปัญหาจากการใช้พรินเตอร์ แท็งค์เถื่อน เอปสันเองได้ออกสินค้ารุ่น “แอลซีรี่ส์” หรือรู้จักกันในท้องตลาดว่า พรินเตอร์แท็งค์แท้ และได้พยายาม กระตุ้นให้ลูกค้าใส่ใจในเรื่องความคุ้มค่าในการพิมพ์มาโดยตลอด จนในปีที่ผ่านมาแอลซีรี่ส์ของเอปสันสามารถ ครองมากกว่า 60% ของมูลค่าตลาดพรินเตอร์หมึกพิมพ์ความจุสูง
“นอกจากนี้ แอลซีรี่ส์ของเอปสันยังได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนมีประสิทธิภาพสูงกว่าพรินเตอร์หมึกพิมพ์ ความจุสูงอื่นๆ ในท้องตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีหัวพิมพ์เอกสิทธิ์ของเอปสัน ที่ได้รับการยอมรับว่า
เป็นหัวพิมพ์ที่แม่นยำและทนทานที่สุดในธุรกิจการพิมพ์ปัจจุบัน จึงสามารถรองรับการพิมพ์ปริมาณมากได้ แอลซีรี่ส์ยังให้ความคุ้มค่ามากกว่าสินค้าคู่แข่ง ด้วยต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นถูกที่สุด พร้อมฟังก์ชันและคุณสมบัติ
ด้านการพิมพ์ที่ถูกรวมไว้อย่างครบครันในเครื่องเดียว ทั้งยังมีการรับประกันสินค้ารวมถึงการบริการหลังการ
ขายที่ดีเยี่ยม เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในการตัดสินใจซื้อ”
“วันนี้ เอปสันเปิดตัวพรินเตอร์แท็งค์แท้เสริมไลน์ขึ้นอีก 4 รุ่น ทำให้มีแอลซีรี่ส์ในตลาดเมืองไทยถึง 12 รุ่นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องซิงเกิ้ลฟังก์ชั่น ทั้งขาวดำและสี เครื่องออลอินวันที่มีทั้งรุ่นที่สามารถเชื่อมต่อกับ Lan และ WiFi หรือทำงานกับสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ได้ เครื่องสำหรับพิมพ์ภาพโดยเฉพาะ รวมไปถึงเครื่องที่สามารถรองรับการพิมพ์ งานขนาด A3+” นายยรรยง กล่าวต่อ
สำหรับสินค้าใหม่ที่เปิดตัวครั้งนี้ ประกอบด้วย รุ่น L120 พรินเตอร์ซิงเกิ้ลฟังก์ชั่นขนาดกะทัดรัด เหมาะกับการ พิมพ์งานเอกสารโดยเฉพาะ สามารถรองรับปริมาณงานพิมพ์ต่อหมึกหนึ่งชุดได้มากถึง 4,000 แผ่น สำหรับการ พิมพ์ขาวดำ และ 6,500 แผ่น สำหรับการพิมพ์สี วางตลาดในราคา 3,990 บาท
รุ่น L555 เครื่องออลอินวันที่สามารถสั่งงานผ่านระบบWiFi และสามารถสแกนและแฟกซ์ ผ่าน ADF สามารถ รองรับปริมาณงานพิมพ์ต่อหมึกหนึ่งชุดได้มากถึง 4,000 แผ่น สำหรับการพิมพ์ขาวดำ และ 6,500 แผ่นเปิดตัว ในราคา 9,490 บาท
รุ่น L1300 พรินเตอร์คุณภาพสูงสำหรับงานพิมพ์สี่สีขนาด A3+ เช่น งานแผนภูมิและตารางคำนวณ ตัวเครื่องมีช่องหมึกดำสองช่อง ทำให้พิมพ์งานขาวดำได้มากถึง7,100 แผ่น และพิมพ์สีได้ 5,700 แผ่น ด้วยหมึกหนึ่งชุดL1300 ยังสามารถ ใช้ได้กับกระดาษหลากหลายประเภท เปิดตัวที่ราคา 13,900 บาท
รุ่น L1800 พรินเตอร์โฟโต้ ระบบหมึกแท็งค์ 6 สี รองรับการพิมพ์แบบไร้ขอบ และการพิมพ์งานขนาด A3+
รุ่น L1800 ยังสามารถพิมพ์งาน 4R ได้สูงสุดถึง 1,500 ภาพ ด้วยหมึกหนึ่งชุด ในต้นทุนต่อแผ่นเพียง 1.8 บาท เปิดตัวในราคา18,900 บาท
นายยรรยง กล่าวต่อว่า “ปัจจุบัน แอลซีรี่ส์ของเอปสันประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่หลายจังหวัด และสินค้าใหม่จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าเดิมได้ใช้ต่อยอด หรือขยาย งานในธุรกิจที่มีอยู่ แต่สำหรับตลาดต่างจังหวัด เอปสันจะมุ่งให้ความรู้กับลูกค้าต่อไป และผลักดันให้แอลซีรี่ส์ เข้าไปแทนที่สินค้าเดิมที่ลูกค้าใช้อยู่”
ด้านกลยุทธ์การตลาด นายยรรยงกล่าวว่า “เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องกำหนดกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความเป็นจริงใน สถานการณ์ตลาดปัจจุบัน เราจึงเน้นที่จะช่วยลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการพิมพ์ในการทำงานประจำวัน ให้มากที่สุด สำหรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้าและส่วนแบ่งตลาดของแอลซีรี่ส์ในปีนี้ เอปสันได้แบ่ง
กลยุทธ์ออกเป็น 4ด้าน เริ่มต้นที่การสร้างแบรนด์แอลซีรี่ส์ให้เป็นที่รู้จักในฐานะโซลูชั่นการพิมพ์ที่คุ้มค่าที่สุดของ ลูกค้า โดยให้ความรู้กับผู้ใช้เกี่ยวกับต้นทุนการพิมพ์ที่ถูกเพียง 6 สตางค์ สำหรับพิมพ์ A4ขาวดำ และ 11 สตางค์ สำหรับพิมพ์สี ซึ่งสินค้าใหม่ทั้ง 4 รุ่นที่เปิดตัวในวันนี้ช่วยตอกย้ำจุดยืนของแอลซีรี่ส์ ที่เน้นความคุ้มค่าในการลงทุน ของลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพราะทั้ง 4 รุ่น ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพด้านความเร็วในการพิมพ์ และยังสามารถพิมพ์งานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องหยุดเครื่องเพื่อเปลี่ยนตลับหมึกบ่อยๆ ส่วนหมึกที่ใช้ก็เป็นหมึกแท้ของเอปสัน แต่มีราคาเพียงขวดละ 250 บาท ลูกค้าจึงได้งานพิมพ์คุณภาพในราคาสุดประหยัด”
“กลยุทธ์ที่สองคือการเพิ่มจำนวนสินค้าของแอลซีรี่ส์ให้ครบไลน์ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการรุกตลาดได้ หลากหลายยิ่งขึ้น เพราะความต้องการใช้พรินเตอร์หมึกพิมพ์ความจุสูงเพิ่มขึ้นมากในหลายวงการ และในหลาย ประเภทงาน เช่น การพิมพ์งานขนาด A3 หรือตอบรับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป เช่น ความนิยมในการสั่งการพิมพ์ผ่าน สมาร์ทดีไวซ์ กลยุทธ์ที่สามคือ การตอกย้ำความมั่นใจของลูกค้าที่เลือกลงทุนกับพรินเตอร์แท็งค์แท้ของเอปสัน ด้วยการรับประกันและบริการหลังการขาย ซึ่งลูกค้าที่ซื้อแอลซีรี่ส์ในวันนี้จะได้การประกันค่าแรงและอะไหล่
นาน 1 ปี หรือตามปริมาณงานพิมพ์ที่กำหนด”
“สุดท้ายคือการสร้างประสบการณ์ตรงให้กับลูกค้าทั่วประเทศได้สัมผัสถึง ความคุ้มค่าผ่านการใช้แอลซีรี่ส์ด้วย กิจกรรมสื่อสารการตลาด ล่าสุดเอปสันจัดแคมเปญ Epson L-Series Everywhere Saving ที่จะส่ง Epson Captain L & The Saving Gang โร้ดโชว์ไปพบลูกค้าทั่วประเทศ เพื่อให้คำแนะนำในการเลือกแอลซีรี่ส์ให้ตรงกับ งานและประเภทธุรกิจของลูกค้า ทั้งยังร่วมเล่นเกมส์และนำโปรโมชั่นพิเศษไปมอบให้ลูกค้าถึงมือ เช่น นำเครื่องเก่าแบรนด์ใดก็ได้มาแลกซื้อแอลซีรี่ส์เครื่องใหม่ในราคาพิเศษ โดยเฟสหนึ่งจะโร้ดโชว์ไปที่ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่าง 27 มิถุนายน ถึง 30 สิงหาคม เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองใช้เครื่องแอลซีรี่ส์รุ่นต่างๆ ในการพิมพ์งานที่ต้องการ รวมถึงกิจกรรมผ่านระบบโซเชียลมีเดียของเอปสัน โดยการถ่ายถอดคลิปวีดีโอบรรยากาศภายในงานและกิจกรรมพิมพ์ภาพผ่าน Instagram โดยใส่ #EpsonPrinstagram” นายยรรยง กล่าว