ถ้าพูดถึงเครื่องพิมพ์ที่เป็น InkTank แท้ๆ จากโรงงาน ชื่อแรกที่นึกถึงคงต้องยกให้กับทางเอปสัน ที่เป็นเจ้าแรกและดั้งเดิมซึ่งนำเทคโนโลยีของอิงค์แท็งค์เข้ามาติดตั้งไว้ในเครื่องพิมพ์ของเอปสันเองจากโรงงานโดยตรง มาสู้กับอิงค์แท็งค์เถื่อนตามร้านตู้ ที่ไม่ได้คุณภาพ ทำให้งานพิมพ์สีเพี้ยนรวมไปถึงอายุการใช้งานของเครื่องพิมพ์ที่สั้นลงอีกด้วย มาในวันนี้ทางเอปสันได้มีการพัฒนาเครื่องพิมพ์ระบบอิงค์แท็งค์ขึ้นไปอีกขั้นเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น และลดปัญหาจากการใช้งานที่เกิดขึ้นจากรุ่นก่อนๆ โดยระบบใหม่นี้จะเป็นมาตรฐานของเครื่องพิมพ์ในอนาคตของทางเอปสันที่กำลังทะยอยเปิดตัวในช่วงนี้
Epson L6160 ที่เราได้นำมารีวิวในครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ใช้ระบบอิงค์แท็งค์ใหม่ จะเห็นได้จากรูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนไปพอสมควร โดยเฉพาะกับถังหมึกที่เคยห้อยอยู่ด้านข้างตอนนี้ถูกรวมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในเครื่องพิมพ์ไม่เกะกะเหมือนแต่ก่อนแล้ว ด้านความสามารถก็ครบครันเหมือนเดิมทั้ง Print, Scan, Copy พร้อมทำงาน สามารถใช้งานได้ง่ายจากแผงควบคุมด้านหน้าเครื่อง ดีไซน์คล้ายๆ จะเป็นปุ่นระบบสัมผัส แต่จริงๆ แล้วเป็นปุ่มกดปกติออกแรงนิดนึงแตะๆ อย่างเดียวไม่ทำงานนะ มีหน้าจอ LCD ขนาด 2.4″ สำหรับแสดงผลให้ดูด้วย เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
ตัวเครื่องด้านบนเป็นส่วนของการ Scan และ Copy ใช้เซ็นเซอร์แบบ CIS มีความละเอียดที่ 1,200 x 2,400 DPi ความเร็ว 11 แผ่นต่อนาที สำหรับการแสกนทั่วไป แต่น่าเสียดายรุ่นนี้ไม่มีระบบฟีดกระดาษสำหรับเครื่องแสกน ต้องเปลี่ยนเอกสารเองอาจจะทำให้เสียเวลามากขึ้น (มีฟีดกระดาษอัตโนมัติในรุ่น L6170)
ถัดมาเป็นส่วนของการพิมพ์ รุ่นนี้มีความละเอียดอยู่ที่ 4800 x 1200 DPi มีถาดดึงกระดาษจากทางด้านล่าง ที่สามารถกลับหน้ากระดาษเพื่อพิมพ์สองหน้าได้อัตโนมัติไม่ต้องคอบกลับกระดาษแล้ว จะพิมพ์แบบไร้ขอบก็ได้แต่เฉพาะกระดาษพิมพ์รูปขนาดเล็ก ถ้าเป็น A4 จะมีระยะขอบกระดาษประมาณ 3 มม. ความเร็วในการพิมพ์ประมาณ 8-15 แผ่นต่อนาทีก็ไม่มากไม่น้อย สามารถสั่งงานผ่านเครือข่ายเครือข่ายที่บ้านหรือออฟฟิศได้ด้วย รองรับทั้ง LAN, WiFi, และ WiFi Direct ถือว่าครบเครื่องดีที่เดียว
ผลงานที่พิมพ์ออกมาสีสวยดีทีเดียว ไม่สดมากแต่จะออกแนวไบร์ทๆ หน่อย ในภาพอาจจะเห็นไม่ชัด พิมพ์ออกมาค่อนข้างสวยทีเดียว
ปัญหาเวลาใช้งานมีหงุดหงิดบ้างนิดหน่อยเวลาเปลี่ยนขนาดกระดาษ หรือชนิดกระดาษ ที่หน้าจอจะมีการถามทุกครั้งก่อนพิมพ์ ต้องตั้งให้ตรงกันก่อนจะพิมพ์ ส่วนรายละเอียดสเปคอื่นๆ สามารถดูได้จากตารางด้านล่างนี้
specification EPSON L385
Print Method : | PrecisionCore Printhead |
Resolution : | 4800 x 1200 DPi (with Variable-Sized Droplet Technology) |
Multi Functions : | Print, Scan, Copy |
Duplex Printing : | Automatic 2-sided |
Print Speed : | 15 ipm / 8.0 ipm Simplex (Black / Colour) |
6.5 ipm / 4.5 ipm Duplex (Black / Colour) | |
Copy Resolution : | 600 x 1200 dpi |
Copy Speed : | 11 ipm / 5.5 ipm Simplex (Black / Colour) |
Scan Function: | 1200 x 2400 dpi (CIS) |
Scan Area : | 200dpi: 12 sec / 27 sec (Black / Colour) |
Connectivity: | USB, WiFi |
มาพูดถึงระบบอิงค์แท็งค์กันต่อ อย่างที่บอกเครื่อง Epson L6160 รุ่นนี้มีอิงค์แท็งค์ตัวใหม่ ที่นอกจากการดีไซน์ที่ดูดีขึ้นและใช้งานง่ายกว่ารุ่นก่อนแล้ว ยังดีไซน์ให้ลดข้อผิดพลาดในการใช้งานในหลายๆ ด้านเช่น ตลับหมึกที่มีซีลยางบริเวณหัวป้องกันน้ำหมึกหกขณะเติม แม้ว่าจะคว่ำขวดหมึกลงก็ไม่หกอย่างแน่นอน อันนี้คล้ายๆกับค่ายนึงที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ และระบบป้องกันการเติมหมึกผิดสี อันนี้ชอบมากๆ เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของทางเอปสัน โดยที่ตัวเครื่องจะมีร่องที่ออกแบบเฉพาะของแต่ละสี ซึ่งจะตรงกับขวดหมึกของสีนั้นๆ ถ้าใช้ขวดหมึกผิดสีจะไม่สามารถใส่ขวดหมึกลงในช่องเติมได้ หมดปัญหาเติมหมึกผิดสีไปได้เลย
ราคา 10,900 บาท
ฟันธง!!! เครื่องพิมพ์สำหรับงานออฟฟิศสมัยใหม่
ราคาอาจจะสูงหน่อยแต่ก็แลกกับความสามารถที่ได้ค่อนข้างครบทั้งการพิมพ์งานผ่าน LAN, WiFi ผ่าน App และCloud Print รวมถึงฟังก์ชันที่มีทั้ง Print, Scan, Copy ขาดก็แต่ Fax ที่มีอยู่ในรุ่นที่สูงขึ้น ระบบอิงค์แท็งค์ใหม่ก็ช่วยให้ใช้งานได้ง่าย และป้องกันความผิดพลาดของผู้ใช้ได้มากทีเดียว
พิมพ์ไร้ขอบ กระดาษ A4 ได้นะครับ ใช้งานอยู่
และปัญหาหงุดหงิดเวลาเปลี่ยนกระดาษหรือชนิดกระดาษ ที่หน้าจอจะมีการถามทุกครั้งก่อนพิมพ์
แค่เข้าไปตั้งค่า ก็หายแล้วครับ ไม่ได้ยาก ผมใช้งานอยู่
ข้อเสียที่เจอตอนนี้ คือ พิมพ์ได้สักพันกว่าหน้า จะเป็นลายเส้นๆ ต้องล้างหัวพิมพ์
(อาจเป็นแค่เครื่องผมคนเดียวนะ)
และ รุ่นนี้พิมพ์ภาพ ไม่สวย เทียบกับ epson l405 ภาพสวยกว่ามาก