อีเบย์ (eBay) คอมมูนิตี้ของผู้ซื้อ-ผู้ขายบนแพลทฟอร์มมาร์เก็ตเพลสออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในฐานะผู้นำแห่งธุรกิจค้าปลีกส่งออก เผย “เคล็ดลับ 3 มิติ เจาะตลาดค้าปลีกออนไลน์ระดับโลก” ซึ่งผู้ส่งออกไทยสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง เพื่อเตรียมพร้อมก่อนเดินหน้าคว้าโอกาสต่อยอดธุรกิจสู่การแข่งขันระดับนานาชาติ บนเวทีเสวนา “ไทยแลนด์ 4.0 & พันธมิตร: โอกาสบนตลาดค้าปลีกออนไลน์ข้ามพรมแดน” ริเริ่มโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ในพิธีเปิดโครงการ Thaitrade.com SOOK (Small Order OK) เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเวทีเสวนาดังกล่าวยังได้รับเกียรติจากพันธมิตรในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ อาทิ ไปรษณีย์ไทย ดีเอชแอล ธนาคารกรุงเทพ และเพย์พัล
นายบุญพันธุ์ บุญประยูร ผู้จัดการประจำประเทศไทยของอีเบย์ เปิดเผยว่า “อีเบย์มองว่าแนวโน้มของธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ทั่วโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้เด่นชัดใน 3 มิติ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จ โดยมิติแรกคือผู้บริโภคจะมีความคาดหวังด้านบริการที่ดีขึ้น มิติที่ 2 คือสินค้าที่ซื้อขายผ่านทางอีคอมเมิร์ซจะก้าวพ้นขีดจำกัดในการขนส่งทั้งด้านขนาดและน้ำหนัก ดังนั้นจะมีสินค้าให้เลือกช้อปปิ้งทางออนไลน์ได้อย่างไม่จำกัดยิ่งกว่าเดิม และมิติที่ 3 คือผู้ขาย ที่จะต้องปรับตัวโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีให้ได้รอบด้านที่สุดในการขับเคลื่อนธุรกิจ และสร้างแต้มต่อในการแข่งขัน”
“นักช้อปออนไลน์ที่คาดหวังบริการที่ไหลลื่นไม่มีสะดุดนั้นจะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้ซื้อคาดหวังว่าจะได้รับบริการที่สะดวกครบวงจรและรวดเร็วขึ้น ตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกซื้อสินค้า ตอนที่สินค้ามาส่งถึงมือ ล่วงไปจนถึงการให้บริการหลังการขาย ดังนั้น ผู้ค้าปลีกส่งออกจึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการเหล่านี้ ส่วนในมิติที่ 2 เราเริ่มเห็นเทรนด์การซื้อขายสินค้าขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมาก เช่น ชุดเฟอร์นิเจอร์ โดยสั่งซื้อผ่านทางอีคอมเมิร์ซและขนส่งสู่ปลายทางในต่างประเทศได้อย่างไม่ติดขัด เนื่องจากปัจจุบันมีโซลูชั่นด้านโลจิสติกส์ที่สามารถรองรับการขนส่งสินค้าได้ทุกรูปทรงทุกขนาด และในมิติที่ 3 ด้านผู้ขายนั้น จะต้องขยายขีดความสามารถในการแข่งขันและศักยภาพในการปรับตัวเพื่อเติบโต โดยนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานทุกขั้นตอน ตั้งแต่การสรรหาสินค้า การขายและการตลาด การจัดการหีบห่อและขนส่ง ตลอดจนการบริหารคลังสินค้า” บุญพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับผู้ประกอบการชาวไทยที่กำลังมองหาโอกาสที่จะขยายธุรกิจสู่ตลาดออนไลน์ อีเบย์แนะนำว่า สิ่งสำคัญคือ ต้องเตรียมพร้อมใน 4 ด้านหลัก คือ ระบบจัดการคลังสินค้า ระบบบริหารการดำเนินงาน โลจิสติกส์ และงานบริการลูกค้า
ด้านสถิติการส่งออกโดยซื้อขายผ่านทางมาร์เก็ตเพลสออนไลน์บนอีเบย์ พบว่า ประเทศไทยเป็นแชมป์ผู้ค้าปลีกส่งออกอันดับ 1 ของอีเบย์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีอัตราการขายสินค้าสู่ตลาดโลกผ่านทางอีเบย์ที่เติบโตสูงกว่าประเทศอื่นๆ ในแถบนี้ ทั้งนี้ สินค้าส่งออกจากไทย 3 ประเภท ที่ได้รับความนิยมสูงสุดบนอีเบย์ ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ ชิ้นส่วนยานยนต์ และสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม ขณะที่สินค้าที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง ได้แก่ สินค้าประเภทอาหาร ของใช้ของตกแต่งบ้านและสวน รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ ทั้งนี้ อีเบย์ ซึ่งเป็นตลาดที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง และมีฐานผู้ซื้อรวมจำนวนกว่า 164 ล้านคนจาก190 ประเทศทั่วโลก จึงมีบทบาทสำคัญที่ช่วยปลดล็อคให้ธุรกิจไทยทุกขนาดเดินหน้าคว้าโอกาสสู่ความสำเร็จบนตลาดออนไลน์ข้ามพรมแดนได้
* Thaitrade.com SOOK เป็นช่องทางสำหรับธุรกิจค้าส่งให้สามารถเข้าสู่ตลาดค้าปลีกส่งออกได้โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้จัดสรรและนำส่งสินค้าออเดอร์เล็กๆ ไปยังผู้สั่งซื้อจากทั่วโลก