นายสุทัศน์ คงดำรงเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดเมนชั่น ดาต้า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการและโซลูชั่นไอทีชั้นนำระดับโลก เปิดเผยว่า การดำเนินนโยบายการทำธุรกิจของบริษัทฯ ในครึ่งปีหลัง 2558 เน้นการรุกตลาดคลาวด์ในไทยมากขึ้น เนื่องจากแนวโน้มตลาดไอทีโลกเปลี่ยนไปสู่คลาวด์ และลูกค้าต้องการผู้ให้บริการคำปรึกษาและวางระบบ หรือ เอสไอ (System Integration) ที่สามารถให้การบริการมากกว่าขายสินค้าเพียงอย่างเดียว บริษัทฯ จึงวางแนวทางจากการเป็นผู้วางระบบไอทีเพียงอย่างเดียว มาให้บริการมากขึ้น โดยเฉพาะการให้บริการด้านคลาวด์
อย่างไรก็ตาม ตลาดคลาวด์ในประเทศไทยในปัจจุบันเพิ่งจะเริ่มต้น ลูกค้ายังต้องทำความเข้าใจ ทั้งยังต้องปรับเปลี่ยนการใช้งานระบบไอทีเพื่อไปสู่คลาวด์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงนับเป็นโอกาสทางธุรกิจที่บริษัทฯจะได้เร่งพัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญเพื่อที่จะให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี 2558-2561 บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะขยายตัวให้ได้ถึง 2 เท่า เพื่อที่จะเป็นทั้งผู้ให้บริการคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบ
“ในฐานะผู้ให้คำปรึกษาและวางระบบไอที (เอสไอ) ระดับโลก บริษัทฯ จะยังคงเข้า ซัพพอร์ตลูกค้าในการสร้างระบบอินฟราสตัคเจอร์ อาทิ เซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ ซีเคียวรีตี้ ระบบเน็ตเวิร์ก โทรศัพท์ ให้ครบวงจรมากขึ้น ขณะเดียวกันเราก็ยังมีทางเลือกให้ลูกค้าที่ไม่ต้องการลงทุนระบบเอง หรือขาดแคลนบุคลากร ด้วยการให้บริการเอาท์ซอร์สซิ่ง รวมถึงระบบคลาวด์ เนื่องจากเรามีทั้งบุคลากร เทคโนโลยี อินฟราสตัคเจอร์ รวมถึงระบบคลาวด์ของเราเองใน 15 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเชื่อมโยงเป็นระบบเดียวกัน และพร้อมที่จะซัพพอร์ตลูกค้า”
ทั้งนี้บริษัท ไดเมนชั่น ดาต้า ได้ให้บริการโซลูชั่นด้านไอทีได้แก่ การวางระบบไอที(Systems Integration) การให้บริการเอาท์ซอร์สซิ่ง (IT Outsourcing) และการให้บริการด้านไอทีบนคลาวด์ (IT–as-a-Service) โดยมุ่งเน้นใน 5 กลุ่มเทคโนโลยี ได้แก่ การวางระบบเครือข่าย การวางระบบศูนย์ข้อมูลที่ทันสมัย ระบบการสื่อสาร ระบบการใช้งานของ เอ็นด์ยูสเซอร์ และระบบรักษาความปลอดภัย (Security)
นายสุทัศน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตในปี 2558 ให้ได้ 10 % โดยมุ่งเน้นการให้บริการกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มลูกค้าสื่อสาร การเงินธนาคาร อุตสาหกรรม ราชการ และการศึกษา ที่อาจต้องการเพิ่มเติมหรือปรับเปลี่ยนระบบใหม่ ตลอดจนเจาะกลุ่มผู้ใช้ หรือองค์กรที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก เช่น กลุ่มค้าปลีก ธุรกิจให้บริการ และกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่เริ่มมีการเติบโตใกล้เคียงกับกลุ่มลูกค้าสื่อสาร และธนาคาร ซึ่งเริ่มมีการนำระบบไอทีไปใช้งานมากขึ้น”
ทั้งนี้ ไดเมนชั่น ดาต้า เป็นธุรกิจเอสไอที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีรายได้รวมทั่วโลก 7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ครอบคลุม 58 ประเทศ สำหรับในประเทศไทยมีศูนย์บริการลูกค้าที่สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และศูนย์แสดงเทคโนโลยีเพื่อให้เห็นการใช้งานจริง พร้อมทั้งมีจำนวนพนักงาน 300 คน และมีศูนย์ซัพพอร์ตต่างจังหวัด 11 แห่ง