บริษัท คอมพิวเตอร์ ซิสเท็ม คอนเน็คชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ ซีเอสซี ผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีและมือถือชั้นนำของเมืองไทย เผยตัวเลขผลประกอบการปี 2555 กวาดรายได้รวมกว่า 3.4 พันล้านบาท ประกาศทุ่มงบการตลาดมากกว่า 100 ล้านบาท สร้างแบรนดิ้ง พร้อมทำการตลาดต่อเนื่องรับปีครบรอบ 30 ปีก่อตั้งบริษัทฯ พร้อมเดินหน้ารุกหนักตลาดมือถือ ตั้งเป้ายอดรายได้ทะลุ 6 พันล้านบาท สิ้นปีนี้
นายพิชัย นีรนาทโกมล ประธานกรรมการบริหาร ซีเอสซี เปิดเผยว่า บริษัทฯ รับรู้รายได้รวมของปี 2555 อยู่ที่ 3.4 พันล้านบาท ซึ่ง 70% นั้นมาจากลุ่มสินค้าไอที หรือราว 2.4 พันล้านบาท 25% มาจากธุรกิจมือถือ หรือประมาณ 850 ล้านบาท และอีก 5% หรือกว่า 170 ล้านบาท มาจากธุรกิจบีทูบี รายได้ของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับปี 2554 แล้ว มีการเติบโตสูงขึ้นกว่า 100% ทั้งนี้เป็นผลจากการที่บริษัทฯ หันมาบุกธุรกิจมือถืออย่างเต็มตัว ทำให้มีการรับรู้รายได้จากส่วนนี้ ขณะที่ธุรกิจไอทีก็สามารถรักษาระดับการเติบโตไว้ได้
“ในเดือนสิงหาคมปีนี้ ซีเอสซีจะมีอายุครบ 30 ปี ซึ่งบริษัทฯ ได้เตรียมงบการตลาดมากกว่า 100 ล้านบาท สำหรับการทำแบรนดิ้ง เพื่อปรับภาพลักษณ์บริษัทฯ ให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น ปรับแต่งหน้าร้านทุกสาขาให้เด่นสะดุดตาลูกค้ามากขึ้น รวมถึงจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยเราตั้งเป้าว่าในปีนี้ รายได้จะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เป็นปีที่สองติดต่อกัน อยู่ที่กว่า 6 พันล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจไอที 40% ธุรกิจมือถือ 55% และธุรกิจบีทูบี 5%”
นายพิชัย กล่าวถึงทิศทางธุรกิจของซีเอสซี ว่าจะเน้นธุรกิจมือถือมากยิ่งขึ้น เพราะโอกาสทางการตลาดที่มีมากกว่าสินค้าไอที ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายมากถึง 20 ล้านเครื่อง และ 50% เป็นสมาร์ทโฟน การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีมือถือในช่วงที่ผ่านมาสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาด ผู้บริโภคหนึ่งคนจะมีทั้งสมาร์ทโฟนและแทบเล็ต หลายคนมีสมาร์ทโฟนมากกว่าหนึ่งเครื่อง และมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงเครื่องบ่อยขึ้น ในขณะที่ธุรกิจไอที สินค้ามีแนวโน้มปรับลดราคาลง ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขาย แต่ร้านจะต้องออกแรงขายมากขึ้น เพื่อรักษายอดเท่าเดิม แต่จากการขยายหน้าร้านของซีเอสซี ทำให้ยังเชื่อว่าจะยังสามารถรักษาระดับการเติบโตไว้ได้ในระดับเดียวกับปีที่แล้ว ส่วนในด้านธุรกิจบีทูบี บริษัทฯ ยังมีโครงการในมือที่รอการส่งมอบอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าสถาบันการศึกษา และหน่วยงานราชการ
ด้านนายราเชนทร์ อ่วมแก้ว กรรมการผู้จัดการ ซีเอสซี กล่าวถึงแผนการลงทุนในปีนี้ว่า ซีเอสซีจะเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านพอร์ตสินค้าของบริษัทฯ ที่จะมีแบรนด์มือถือเพิ่มขึ้นในร้าน เช่น แอลจี ไอโมบาย จำนวนร้านสาขา ที่ปัจจุบันมีเกือบ 130 สาขา ก็จะขยายเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 50 สาขา เป็น 180 สาขาทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้ ทั้งยังเพิ่มจำนวนร้านขายมือถือโดยเฉพาะของซีเอสซี รวมถึงเปิดแฟล็กชิพ สโตร์ (Flagship Store) ที่รวมทั้งการขายสินค้า บริการหลังการขาย และบริการด้านมือถืออื่นๆ และเปิดศูนย์บริการประจำภาคจนครบทั้ง 4 ภาค นอกจากนี้ จำนวนพนักงานของบริษัทฯ ก็จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพื่อให้สามารถให้บริการลูกค้าในทุกพื้นที่ได้อย่างเต็มที่
“ซีเอสซีกำหนดกลยุทธ์เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ด้วยการวางตำแหน่งบริษัทฯ ในการเป็นผู้รวมสินค้าไอทีและมือถือแบรนด์ดังไว้อย่างครบครัน ซึ่งเรามีเป้าหมายว่าจะขายแบรนด์ท็อปไฟฟ์ของตลาดทั้งหมด ให้ลูกค้าเลือกสินค้าคุณภาพได้อย่างเต็มที่ในร้านซีเอสซี นอกจากนี้ เรายังมีแผนที่จะริเริ่มงานด้านอาร์แอนด์ดีของตัวเอง เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่เป็นเอกสิทธิ์ของทางบริษัทฯ” นายราเชนทร์ กล่าวทิ้งท้าย