“เอซุส” ผู้นำนวัตกรรมสินค้ามาเธอร์บอร์ดที่มียอดขายอันดับหนึ่งและได้รับรางวัลมากที่สุดของโลก ได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับวงการโอเวอร์คล็อกอีกครั้งด้วยการทำลายสถิติโลกถึง 5 รายการ โดยมาเธอร์บอร์ดสายพันธุ์แชมเปี้ยนอย่าง ROG (Republic of Gamers) รุ่น Rampage IV Black Edition ในงาน OC Main Event ของการประชุม Intel® Developer Forum (IDF 2013) ที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมาเธอร์บอร์ด ROG Rampage IV Black Edition เป็นการผสานความแรงจากกราฟฟิกส์การ์ดเทคโนโลยีสุดล้ำ ASUS GeForce® GTX Titan เข้ากับโปรเซสเซอร์ Core i7 Extreme Edition เจนเนอเรชั่นที่ 4 จาก Intel® พร้อมด้วยหน่วยความจำทรงพลังอย่าง Corsair Vengeance® Extreme และ Dominator® Platinum DDR3 โดยสถิติใหม่ดังกล่าวเป็นการสร้างผลงานโดยทีมวิศวกรวิจัยพัฒนาของ ROG และนักโอเวอร์คล็อกชื่อก้องระดับอินเตอร์ที่มาร่วมทุบสถิติโลกด้วยคะแนนสูงสุดบนโปรแกรมต่างๆ มากมาย อาทิ 3DMark® 11Entry, 3DMark® 11 Performance, 3DMark® Fire Strike, Cinebench, และบนความถี่หน่วยความจำแบบ 4 ช่องทาง (Quad-Channel Memory Frequency)
มร. แจ็คกี้ ซู รองประธานฝ่ายองค์กรของเอซุส และผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายทั่วโลก กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม กล่าว “ความสำเร็จจากผลงานล่าสุดในการโอเวอร์คล็อกของทีมเอซุสที่ OC Main Event San Francisco นี้ เป็นบทพิสูจน์สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมที่เอซุสเป็นผู้คิดค้น อีกทั้งยังเป็นเครื่องสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของทีมวิจัยและพัฒนาของเราที่ประกอบไปด้วยนักโอเวอร์คล็อกมือฉมังและผู้รู้จริงจากวงการ อันเป็นบุคลากรที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์และความสามารถอย่างแท้จริง”
มร. ซาเวียร์ ลอเร้นท์ ผู้อำนวยการด้านการตลาดผลิตภัณฑ์ของ Corsair กล่าวเพิ่มเติม “ในฐานะบริษัทฯ ที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์โดยกลุ่มคนผู้เชี่ยวชาญและนักโอเวอร์คล็อกชื่อดังระดับโลก ซึ่งถือเป็นความร่วมมือจากพาร์ทเนอร์ที่มีพื้นฐานแนวคิดและความเข้าใจตรงกัน ทำให้เอซุสและอินเทลสามารถโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการทำลายสถิติโอเวอร์คล็อกระดับโลกโดยใช้ Corsair Dominator Platinum และหน่วยความจำ Vengeance Pro Memory ความสำเร็จของงาน OC Main Event ในการประชุมที่เมืองซานฟรานซิสโกนี้ จึงถือเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของชุมชนนักโอเวอร์คล็อกและวิศวกรผุ้เชี่ยวชาญที่จะช่วยผลักดันพันธสัญญาของเราในการเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมเกมมิ่งให้เกิดพัฒนาการที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปในอนาคต”
ทุบสถิติโลกถึง 5 รายการ ด้วยประสิทธิภาพการโอเวอร์คล็อกที่น่าเกรงขาม
เอซุสได้เชิญโอเวอร์คล็อกเกอร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกมาเข้าร่วมเป็นสมาชิกทีม ROG ในงานนี้ ได้แก่ 8 Pack, Dumo, Fugger, Gunslinger และ Rbuass สมทบโดยตัวแทนจากทีมวิศวกรของ ROG ได้แก่ Coolice, Raja และShamino เพื่อสร้างทัพนักโอเวอร์คล็อกที่เข้มแข็งและน่าเกรงขามที่สุด โดยในทีมประกอบด้วยสมาชิกที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับด้านโอเวอร์คล็อกอย่างหาตัวจับยาก รวมถึงผ่านประสบการณ์ในการแข่งขันมาอย่างโชกโชน มีความสามารถในการรีดประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ออกมาได้แบบเกินพิกัดในเวทีต่างๆ มาแล้วทั่วโลก
ทั้ง 8 Pack, Gunslinger, Rbuass และ Shamino ต่างร่วมกันสร้างสถิติใหม่อันน่าประทับใจ บนโปรแกรม 4-way SLI™ 3DMark® ซึ่งเป็นเบนช์มาร์คที่ยากมาก ด้วยคะแนนสูงสุดในโลกที่ E39244 ในโหมด 3Dmark 11 Entry, P39629 คะแนนในโหมด 3Dmark 11 Performance และ 33704 คะแนนในโหมด Fire Strike นอกจากนี้ Fugger และ Raja ยังได้แท้กทีมกันทุบสถิติเก่าบนโปรแกรม Cinebench ที่ 17.65 pts ในหมวด 6 Core ในขณะที่ Coolice และ Dumo ซึ่งร่วมกับ Corsair® ได้สร้างสถิติการโอเวอร์คล็อกบนหน่วยความจำ Vengeance® Extreme DDR3 DIMMs 4 ตัว ซึ่งทะยานความเร็วถึง 3,900MHz ถือเป็นสถิติโลกใหม่ในหมวด Quad-Channel Frequency
เกิดมาเพื่อเกมโดยเฉพาะ กับการโอเวอร์คล็อกที่เหนือชั้นอย่างไร้คู่แข่ง
มาเธอร์บอร์ด ROG Rampage IV Black Edition อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเฉพาะจากเอซุสที่ส่งมอบสมรรถนะอันล้ำหน้า พร้อมฟีเจอร์ที่นักโอเวอร์คล็อกต่างใฝ่ฝัน ช่วยให้คอเกมสุดระห่ำและนักโอเวอร์คล็อกระดับพระกาฬสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องพีซีได้อย่างใจสั่ง ด้วยภาคจ่ายไฟดิจิตอล Extreme Engine DIGI+ III ที่ใช้ระบบ Voltage-regulator module (VRM) ช่วยสร้างเสถียรภาพที่เหนือชั้นพร้อมความแม่นยำในการส่งกำลังไฟเข้าสู่อุปกรณ์ รวมถึงแผงควบคุม OC Panel ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการอัจฉริยะที่สามารถใช้จุนระบบได้อย่างง่ายดาย และเทคโนโลยี SupremeFX Audio Solution ให้คุณภาพเสียงเต็มอรรถรสเช่นเดียวกับซาวด์การ์ดในระดับไฮเอ็นด์