สาธารณรัฐแห่งเกม “ROG” ทะยานความแรงทุกพิกัดด้วยชิพเซ็ต Z87 ใหม่ พร้อมรองรับ Haswell CPUตอบรับทุกเสียงเรียกร้องจากสาวกเกมฮาร์ดคอร์ทั่วโลกแบบจัดเต็ม! เอาใจคอเกมทุกระดับ ทุกงบประมาณ กับสุดยอดไลน์อัพมาเธอร์บอร์ด ROG Z87 ใหม่ยกเซ็ท
สาธารณรัฐแห่งเกม หรือ Republic of Gamer (ROG) โดย “เอซุส” ผู้นำนวัตกรรมสินค้ามาเธอร์บอร์ดที่มียอดขายอันดับหนึ่งและได้รับรางวัลมากที่สุดของโลก เปิดตัวผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ด Series 8 ที่ใช้ชิพเซ็ต Intel® Z87 ใหม่จากตระกูล ROG MAXIMUS VI แบบครบไลน์ลงสู่ตลาดประเทศไทยพร้อมกันถึง 5 รุ่น โดยเป็นมาเธอร์บอร์ดที่ล้วนออกแบบมาเพื่อสร้างสมรรถนะสูงสุดในการโอเวอร์คล็อก พร้อมรองรับหน่วยประมวลผลในเจนเนอเรชั่นที่ 4 Intel Haswell CPU เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของคอเกมและผู้ชื่นชอบการปรับแต่งสมรรถนะเครื่องพีซีในทุกระดับและภายใต้ทุกงบประมาณ นำโดย “ROG MAXIMUS VI-EXTREME” มาเธอร์บอร์ดในฝันสำหรับนัก โอเวอร์คล็อกและเกมเมอร์ขาระห่ำ ด้วยความสามารถในการโอเวอร์คล็อกที่มาพร้อมสุดยอดอุปกรณ์ OC Panel ตามมาด้วย “ROG MAXIMUS VI-FORMULA” สุดยอดมาเธอร์บอร์ดไซส์ ATX สูตรสำเร็จแห่งความแรงที่ไม่เป็นรองใครด้วยเทคโนโลยีระบายความร้อนแบบชุดเกราะ CrossChill Hybrid Thermal Design ในขณะที่รุ่น “ROG MAXIMUS VI-GENE” เป็นมาเธอร์บอร์ดที่รวมเอาสุดยอดคุณสมบัติตามแบบฉบับ ROG อย่างครบครันมาไว้ในมาเธอร์บอร์ดไซส์กะทัดรัดแบบ Micro-ATX ส่วน “ROG MAXIMUS VI-IMAPACT” เป็นมาเธอร์บอร์ดไซส์จิ๋วขนาด Mini-ITX รุ่นแรกจาก ROG ที่คงประสิทธิภาพความแรงอันเป็นตัวเลือกของเกมเมอร์ไว้อย่างสมบูรณ์ และสุดท้ายกับ “ROG MAXIMUS VI- HERO” มาเธอร์บอร์ดที่ให้ความเสถียรและสมรรถนะในการเล่นเกมชั้นสูง ภายใต้งบประมาณที่เป็นมิตรกับกระเป๋าอย่างแท้จริง โดยมาเธอร์บอร์ดใหม่จาก ROG ทั้ง 5 รุ่นนี้ อัดแน่นด้วยคุณภาพและนวัตกรรมอันล้ำหน้า พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของเหล่าเกมเมอร์ ผู้ใช้งานด้านมัลติมีเดีย และผู้สนใจการประกอบเครื่องพีซีด้วยตนเอง ช่วยปฏิวัติประสบการณ์ด้านความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบให้ก้าวล้ำขึ้นอีกขั้น
ROG MAXIMUS IV–EXTREME พร้อมแผงปรับโอเวอร์คล็อก OC Panel – ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักโอเวอร์คล็อกและนักปรับแต่งพีซีขาระห่ำ
ทีมวิจัยและพัฒนาของ ROG ผลิตมาเธอร์บอร์ด “ROG MAXIMUS VI-EXTREME” ออกมาเพื่อต่อยอดความเป็นผู้นำด้านความแรงและสมรรถนะที่เต็มเปี่ยมจากมาเธอร์บอร์ดรุ่นก่อน ด้วยการทำลายสถิติความเร็ว CPU ได้สูงสุดกว่า 7GHz ที่ความถี่หน่วยความจำสูงถึง 4GHz อีกทั้งยังให้การเชื่อมต่อได้หลากหลายรูปแบบ โดยมีพอร์ท PCI Express x16 มาให้ถึง 5 ช่อง สามารถใส่ NVIDIA® SLI™ หรือ AMD CrossFireX™ แบบ 4-Way ได้ นอกจากนี้ ROG MAXIMUS VI-EXTREME ยังมาพร้อมแผงปรับโอเวอร์คล็อกแบบเรียลไทม์ (OC Panel) ที่ติดตั้งได้ทั้งภายในตัวเคส (ใส่พอดีช่อง 5.25 นิ้ว) และภายนอก โดยในกรณีที่มีการติดตั้งภายใน แผงนี้จะทำงานในโหมดปกติและแสดงผล CPU Ratio, อุณหภูมิ, นาฬิกาเคส และความเร็วพัดลม ผ่านทางหน้าจอแสดงผลขนาด 2.6 นิ้ว และยังสามารถปรับค่า CPU Level Up หรือควบคุมความเร็วพัดลมได้ทันทีเพียงกดปุ่มเดียว ในกรณีที่มีการติดตั้งภายนอก ผู้ใช้งานสามารถใช้แผงปรับโอเวอร์คล็อกเป็นอุปกรณ์ปรับแต่งแบบสแตนด์อะโลนได้ อีกทั้งยังใช้ปรับค่าโอเวอร์คล็อกและค่าโอเวอร์โวลท์ได้อย่างละเอียดยิ่งกว่าเดิม พร้อมทั้งได้รวมเอาเทคโนโลยี Subzero Sense และ VGA Hotwire ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของเอซุสในมาเธอร์บอร์ดจาก ROG เข้ามาผนึกกำลังเพื่อสร้างการควบคุมระบบทำความเย็นด้วยของเหลวและเปลี่ยนค่าการจ่ายไฟเข้าสู่การ์ดจอในระดับฮาร์ดแวร์ รวมถึงยังเลือกใช้ฟีเจอร์ในระดับมืออาชีพ อาทิ Slow Mode และ Pause Switch ได้ตามคำเรียกร้องของโปรเกมเมอร์จากทั่วโลก ทำให้ ROG MAXIMUS VI-EXTREME เป็นที่สุดแห่งมาเธอร์บอร์ดในฝันของบรรดาสาวกนักโอเวอร์คล็อกและม็อดเดอร์เครื่องพีซีแบบฮาร์ดคอร์ ณ เวลานี้
นอกจากนี้ ROG MAXIMUS VI-EXTREME ยังมีการ์ด mPCIe Combo II ในตัว ทำให้สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง 802.11ac Wi-Fi (เร็วกว่า 802.11n ถึงสามเท่า) และ Bluetooth 4.0 พ่วงมาด้วยช่องเสียบ M.2 Next Generation Form Factor (NGFF) Connector ที่พร้อมรองรับ Solid State Drive ชนิดบางพิเศษที่เร็วที่สุด โดยไม่ต้องใช้ช่อง PCI Express เพิ่ม ซึ่งทาง ROG ได้ผนึกกำลังกับผู้ผลิตหน่วยความจำเช่น ADATA™ และ SanDisk® เพื่อเตรียมพร้อมรับ M.2 SSD ซึ่งกำลังจะวางจำหน่ายในอนาคต
มาเธอร์บอร์ดรุ่น ROG MAXIMUS VI-EXTREME วางจำหน่ายแล้วในตลาดประเทศไทยในราคา 15,500 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และข้อมูลด้านเทคนิคของผลิตภัณฑ์แบบเต็มได้ที่:https://www.asus.com/Motherboards/MAXIMUS_VI_EXTREME
“ROG MAXIMUS VI-FORMULA” – สูตรสำเร็จแห่งชัยชนะกับมาเธอร์บอร์ดไซส์ ATX สมรรถนะและดีไซน์สุดล้ำ
“ROG MAXIMUS VI-FORMULA” เป็นสุดยอดมาเธอร์บอร์ดขนาด ATX ที่มอบสมรรถนะความแรงแบบเหนือพิกัดเพื่อการพิชิตชัยชนะในเกมการแข่งขันที่อยู่แค่เอื้อม โดยมาเธอร์บอร์ดรุ่นนี้นับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 6 ของรุ่น FORMULA ของ ROG ให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาความเย็นด้วยเทคโนโลยีการดีไซน์ตัวบอร์ดแบบชุดเกราะสุดเท่ห์ CrossChill Hybrid Thermal Design ที่ช่วยระบายอากาศได้ดีกว่าจากการประสานพลังลมเข้ากับพลังน้ำ ให้อุณภูมิของ MOSFET ที่เย็นกว่าถึง 23 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับบอร์ดที่ใช้ระบบรักษาความเย็นด้วยน้ำเพียงอย่างเดียว โดยระบบนี้จะช่วยให้การไหลเวียนของลมผ่านตัวเมนบอร์ดเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ช่วยลดเสียงรบกวนและป้องกันการสะสมของฝุ่นละออง ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพและเสถียรภาพที่ดีในการโอเวอร์คล็อก แม้ในสภาพการใช้งานที่สมบุกสมบันเป็นเวลาติดต่อกันอย่างยาวนาน
ROG MAXIMUS VI-FORMULA ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงเพื่อการเล่นเกมและการประมวลผลคอนเท้นต์เสียงสำหรับการใช้งานมัลติมีเดียอันเปี่ยมด้วยอรรถรสที่ล้ำหน้าไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยี SupremeFX Formula ให้เสียงกระหึ่มชัดใสในระดับ 120 เดซิเบลล์ SNR ผนึกกำลังกับ SupremeFX Shielding ที่ช่วยแยกเสียงต่างๆ ให้เด่นชัดขึ้น พร้อมป้องกันสัญญาณรบกวนในแบบ Full Cover (100% EMI Shielding Cover) พร้อมด้วยส่วนประกอบคุณภาพระดับพรีเมี่ยม เช่น คาปาซิเตอร์เสียงจาก ELNA® และ WIMA® Film Capacitors ที่ผลิตในประเทศเยอรมัน ช่วยยกระดับประสบการณ์ด้านออดิโออย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีเฮดโฟนแอมป์ (Headphone Amplifier) ที่มีความต้านทาน 600 โอห์มจาก Texas Instruments® ช่วยขยายทุกรายละเอียดเสียงให้คมชัด มีมิติ พร้อมสร้างความได้เปรียบจากการได้ยินเสียงเคลื่อนไหวของศัตรูในทุกฝีก้าว
และสำหรับคอเกมผู้คลั่งไคล้ในเกมยิงเป้าสไตล์ FPS (First-Person Shooting) เทคโนโลยี Sonic Radar ในมาเธอร์บอร์ดรุ่น ROG MAXIMUS VI-FORMULA นี้จะช่วยนำชัยชนะมาให้คุณได้ง่ายขึ้นอีกขั้น ด้วย On-screen Radar ที่แสดงเป้าหมายทิศทางที่มาของเสียงได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ พร้อม Hotkey ที่ช่วยให้เกมเมอร์สามารถตรวจจับสัญญาณเสียงที่เป็น เอ็ฟเฟ็กต์เฉพาะต่างๆ ภายในเกมได้ อีกทั้งยังตั้งค่าเซ็ทติ้งในโปรไฟล์ต่างๆ เพื่อความสะดวกในการเล่นเกม FPS ครั้งต่อๆ ไป
ROG MAXIMUS VI-FORMULA โดดเด่นด้วย ROG Armor เกราะปกป้องมาเธอร์บอร์ดที่ช่วยสร้างความแข็งแกร่งและสวยงามอย่างมีสไตล์ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ฝาครอบด้านบนแบบ ABS ที่ช่วยปิดกั้นไม่ให้ความร้อนจากการ์ดจอถ่ายเทเข้าไปยังระบบส่วนล่าง และแผ่นโลหะ SECC ที่รองด้านหลังแผ่น PCB เพื่อช่วยป้องกันการบิดงอของตัวมาเธอร์บอร์ด โดยแผ่น SECC นี้ยังช่วยระบายความร้อนออกจากอุปกรณ์ภายในต่างๆ ผ่านทาง Thermal Pads อีกด้วย นอกจากนี้ ROG MAXIMUS VI-FORMULA ยังมีการ์ด mPCIe Combo II ทำให้สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง 802.11ac Wi-Fi (เร็วกว่า 802.11n ถึงสามเท่า) และ Bluetooth 4.0 โดยไม่ต้องใช้ช่อง PCI Express เพิ่มเติม
มาเธอร์บอร์ดรุ่น ROG MAXIMUS VI-FORMULA วางจำหน่ายแล้วในตลาดประเทศไทยในราคา 13,600 บาท (รวมภาษี มูลค่าเพิ่ม) สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และข้อมูลด้านเทคนิคของผลิตภัณฑ์แบบเต็มได้ที่:https://www.asus.com/Motherboards/MAXIMUS_VI_FORMULA
ROG MAXIMUS VI-GENE: มาเธอร์บอร์ดไซส์ Micro-ATX สุดยอดทางเลือกสำหรับคอเกมและนักโอเวอร์คล็อก
ถึงจะกะทัดรัดกว่า แต่ “ROG MAXIMUS VI–GENE” ก็อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์เฉพาะจาก ROG มากมาย รวมถึงการ์ด mPCIe Combo II ที่ช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดายแบบ mini PCI Express 2.0 Plus USB 2.0 (ไม่รวมตัวเชื่อมต่อ Wi-Fi/Bluetooth) อีกทั้งยังให้คุณเล่นเกมได้อย่างแม่นยำและรู้รอบทิศกว่าเดิมด้วย Sonic Radar ที่แสดง On-screen Radar เพื่อการเล็งเป้าหมายจากทิศทางที่มาของเสียงผ่านภาพบนหน้าจอ ช่วยให้เห็นที่อยู่และทิศทางของคู่ต่อสู้ เพื่อนร่วมทีม รวมถึงเอ็ฟเฟ็กต์ต่างๆ เช่น เสียงปืนและระเบิด เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับเกมยิงบุคคลที่หนึ่งและบุคคลที่สาม
นอกจากนี้ ยังมาพร้อม SupremeFX ซึ่งเป็นการ์ดเสียงที่นำเทคโนโลยี Audio Multi-Shielding มาใช้เป็นรายแรกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคลื่นเสียงรบกวน อีกทั้งยังใช้คาปาซิเตอร์ระดับพรีเมี่ยมจาก ELNA® และระบบประมวลสัญญาณชั้นสูงพร้อมลำโพง Op-Amp ในตัวเพื่อให้ได้เสียงกระหึ่มคมชัดถึง 115 เดซิเบล SNR เหมาะสำหรับคอเกมและผู้รักการดูหนังฟังเพลงที่ต้องการมิติเสียงเหนือใคร และเพื่ออรรถรสในการเล่นเกมอย่างต่อเนื่อง ROG MAXIMUS VI–GENE ยังมี Intel® Ethernet และตัวจัดการแบนด์วิธ ROG GameFirst II ช่วยเสริมประสิทธิภาพเครือข่ายเพื่อลดอาการแล็คและช่วยลดการใช้งาน CPU ให้คุณเล่นเกมออนไลน์ได้แรงสะใจแบบไม่มีกระตุก มาเธอร์บอร์ดรุ่นนี้จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกมเมอร์และนักโอเวอร์คล็อกที่มีงบประมาณในระดับกลาง แต่ต้องการสัมผัสประสบการณ์เกมมิ่งอย่างเต็มรูปแบบในสไตล์ของ ROG
มาเธอร์บอร์ดรุ่น ROG MAXIMUS VI–GENE วางจำหน่ายในตลาดประเทศไทยในราคา 8,100 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และข้อมูลด้านเทคนิคของผลิตภัณฑ์แบบเต็มได้ที่:https://www.asus.com/Motherboards/MAXIMUS_VI_GENE
“ROG MAXIMUS VI-IMAPACT” – มาเธอร์บอร์ดไซส์จิ๋วสุดแจ่ม Mini-ITX รุ่นแรกจาก ROG บทพิสูจน์แห่งประสิทธิภาพความแรงที่ตัดสินกันที่ขนาดไม่ได้
“ROG MAXIMUS VI-IMAPACT” มาเธอร์บอร์ดรุ่นกระทัดรัดในขนาดเล็กสุดเป็นบอร์ดไซส์ Mini-ITX รุ่นแรกที่ผลิตโดย ROG โดยยังคงความสามารถและประสิทธิภาพอันแรงจัดสำหรับการโอเวอร์คล็อกและและเกมสุดมันส์ในแบบฉบับ ROG ไว้อย่างครบถ้วน ด้วยการออกแบบโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมใหม่หมดจดโดยทีมวิจัยของ ROG มาเธอร์บอร์ดจิ๋วรุ่นนี้ให้ความสมดุลย์อย่างลงตัวทั้งด้านสมรรถนะความแรง เสถียรภาพที่ดีไม่มีสะดุด การประหยัดพลังงานที่เหนือชั้น รวมถึงนวัตกรรมด้านการรักษาความเย็นอันน่าทึ่ง ROG MAXIMUS VI-IMAPACT เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะใช้นำมาประกอบเป็นโฮมเธียเตอร์พีซี (HTPC) สำหรับผู้ที่กำลังมองหามาเธอร์บอร์ดประสิทธิภาพสูงสำหรับการใช้งานด้านมัลติมีเดียเพื่อความบันเทิง โดดเด่นด้วยภาคจ่ายไฟดิจิตอลแบบ Extreme Engine Digi+ III ช่วยให้สามารถกระจายกำลังไฟให้กับ CPU และหน่วยความจำได้อย่างแม่นยำและมีเสถียรภาพ ไม่ว่าจะใช้งานโอเวอร์คล็อก หรือปรับจูนค่าต่างๆ ก็สามารถสร้างความยืดหยุ่นให้กับการตั้งค่า โอเวอร์คล็อกและโอเวอร์โวลท์ได้อย่างไร้กังวล
นอกจากนี้ ROG MAXIMUS VI-IMAPACT ยังมาพร้อมการ์ด mPCIe Combo II ทำให้สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi แบบดูอัลแบนด์แบบ 802.11ac ได้ทั้งบนคลื่นความถี่ 2.4GHz และ 5GHz รวมถึง Bluetooth 4.0 ผ่านพอร์ตเชื่อมต่อเพิ่มเติมแบบ mini PCI Express 2.0 plus USB 2.0 โดยใช้พีเจอร์ Wi-Fi GO! ลิขสิทธิ์เฉพาะจากเอซุส ที่ช่วยให้มาเธอร์บอร์ดกลายเป็นอุปกรณ์เน็ตเวิร์คหลัก (Backbone Equipment) ที่เชื่อมต่อโมบายล์ดีไวซ์ต่างๆ ภายในบ้านให้สามารถแชร์คอนเท้นต์ เรียกดูไฟล์ และสตรีมวิดีโอต่างๆ ได้อย่างสะดวกง่ายดายผ่านวงเครือข่ายอุปกรณ์ของเอซุส พ่วงมาด้วยช่องเสียบ M.2 Next Generation Form Factor (NGFF) Connector ที่ให้การเชื่อมต่อที่รวดเร็วฉับไว พร้อมรองรับ M.2 SSD ซึ่งกำลังจะมาแทนแบบ mPCIe และ mSATA ในอนาคตอีกด้วย
ด้านเทคโนโลยีรักษาความเย็น ROG MAXIMUS VI-IMAPACT ใช้ระบบ Fan Xpert 2 ซึ่งใช้แรงลมจากพัดลมภายในเคสที่ต่อเข้ากับตัวมาเธอร์บอร์ดเพื่อสร้างการระบายอากาศอย่างทั่วถึง โดยสามารถกำหนดค่าองศาของพัดลมหรือความแรงพัดลมได้ตามความเหมาะสมกับโปรไฟล์ของเกมที่กำลังเล่น
มาเธอร์บอร์ดรุ่น ROG MAXIMUS VI-IMAPACT วางจำหน่ายแล้วในตลาดประเทศไทยในราคา 9,950 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และข้อมูลด้านเทคนิคของผลิตภัณฑ์แบบเต็มได้ที่:https://www.asus.com/Motherboards/MAXIMUS_VI_IMPACT
ROG MAXIMUS VI–HERO – สัมผัสประสบการณ์ ROG ได้ง่ายกว่าที่เคย ด้วยฟีเจอร์และความสามารถระดับฮีโร่ภายใต้งบประมาณแบบสบายกระเป๋า
“ROG MAXIMUS VI HERO” เป็นมาเธอร์บอร์ดไซส์ ATX ที่เกิดจากการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ออกมาลงตัวสำหรับคอเกม แต่ก็ไม่ทิ้งความพิเศษในแบบฉบับของมาเธอร์บอร์ดจาก ROG ให้ประสิทธิภาพความแรง การระบายอากาศ พร้อมฟีเจอร์พิเศษมากมายทั้งเพื่อการโอเวอร์คล็อกและเล่นเกมสุดหฤโหด ทั้งหมดนี้คุณสามารถเป็นเจ้าของได้ภายใต้งบประมาณที่เป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์อย่างแท้จริง
ฟีเจอร์เด่นของมาเธอร์บอร์ดรุ่นนี้ ได้แก่ การ์ดเสียง SupremeFX Audio ให้คุณภาพเสียงระดับพรีเมี่ยม มาพร้อม ELNA Audio Capacitors ที่ช่วยสร้างความคมชัดระดับ 8-Channel HD ให้กับทุกเสียงที่โลดแล่นสู่โสตประสาทในขณะเล่นเกมหรือเพลิดเพลินกับการชมภาพยนตร์ พ่วงด้วยเทคโนโลยี SupremeFX Shielding ที่ช่วยจำแนกเสียงต่างๆ ได้ทั้งแบบอนาล็อกและดิจิตอล ป้องกันเสียงรบกวนแทรกแซงจากแผ่น PCB และอุปกรณ์อื่นๆ นอกจากนี้ ยังใช้ภาคจ่ายไฟดิจิตอล Extreme Engine Digi+ III ที่สามารถกระจายกำลังไฟให้กับ CPU และหน่วยความจำได้อย่างแม่นยำและมีเสถียรภาพสูงสุด
และไม่ว่าเกมเมอร์จะชื่นชอบการเล่นเกมในสไตล์ไหนก็ตาม จะเป็น SLI หรือ CrossFireX ก็ไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งอีกต่อไป เพราะมาเธอร์บอร์ดระดับฮีโร่ตัวนี้ให้คุณสามารถตั้งค่า GPU ได้แบบ Multi-GPU Setup มาพร้อมเทคโนโลยี SLI/CrossFire on Demand ที่สามารถเช็ท Configuration ได้ทั้งแบบ Quad-GPU SLI หรือ Quad-GPU CrossFireX และไม่ว่าเกมเมอร์จะเลือกเล่นเกมแบบไหน มาเธอร์บอร์ด ROG MAXIMUS VI HERO ก็ให้ภาพกราฟฟิกส์ที่ลื่นไหลสมจริง ราวกับให้คุณหลุดเข้าไปในโลกแห่งจินตนาการได้ทุกช่วงเวลาของการเล่นเกมอันสนุกสนานเพลิดเพลิน
มาเธอร์บอร์ดรุ่น ROG MAXIMUS VI-HERO วางจำหน่ายแล้วในตลาดประเทศไทยในราคา 9,100 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และข้อมูลด้านเทคนิคของผลิตภัณฑ์แบบเต็มได้ที่:https://www.asus.com/Motherboards/MAXIMUS_VI_HERO
ดีไซน์ล้ำวงการ พร้อมฟีเจอร์พิเศษไม่ซ้ำใครของไลน์อัพมาเธอร์บอร์ด ROG MAXIMUS VI Z87
ด้วยความเชี่ยวชาญในการวิจัยและออกแบบของเอซุส และ ROG ทำให้เกิดเป็นคุณสมบัติเฉพาะเหนือใครในมาเธอร์บอร์ดจากตระกูล MAXIMUS VI ทั้ง 5 รุ่นนี้ ที่พร้อมให้ผู้ใช้งานได้พิสูจน์ โดยเป็นการผลิตต่อยอดจากแผงวงจรและบอร์ดชั้นเลิศ และเสริม ROG UEFI BIOS รุ่นอัพเกรดใหม่เพื่อรองรับให้ปรับการตั้งค่าเครื่องพีซีได้อย่างสมบูรณ์แบบแต่ยังคงง่ายและสะดวกต่อผู้ใช้งาน นอกจากนั้น ROG ยังคงมอบฟีเจอร์สุดพิเศษให้กับลูกค้ามากกว่ารายอื่นในตลาดเช่นเคยกับ SSD Secure Erase ที่รวมอยู่ใน ROG UEFI BIOS ให้คุณลบข้อมูลได้แบบไม่ยุ่งยาก รวมถึงการคืนค่าสมรรถนะ SSD จากใน BIOS เองโดยไม่ต้องพึ่งพาซอฟท์แวร์ภายนอก ให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องระบบไม่รองรับซอฟท์แวร์อีกต่อไป
มาเธอร์บอร์ด Z87 ใหม่จาก ROG ทุกรุ่น ใช้ชิ้นส่วนคุณภาพพรีเมี่ยมเพื่อให้มั่นใจว่ามีเสถียรภาพและสมรรถนะที่ยืนยาวขึ้น อาทิภาคจ่ายไฟ Extreme Engine Digi+ III ซึ่งเป็นระบบดิจิตอลทั้งหมด ทำให้สามารถจ่ายไฟให้กับ CPU และหน่วยความจำได้อย่างแม่นยำและมีเสถียรภาพสูงสุด อีกทั้งยังเสริมด้วยโช้ค 60A-rated BlackWing, โซลิตคาปาซิเตอร์ 10K Black Metallic และ NexFET MOSFETs ที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ทำให้รองรับได้แม้แต่เกมที่ต้องใช้สเป็คสูงหรือการโอเวอร์คล็อกแบบสุดโหด
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ที่มีในมาเธอร์บอร์ดทั้ง 5 รุ่น ได้แก่ 2nd Generation T-Topology DRAM ที่ช่วยเพิ่มความถี่หน่วยความจำให้สูงขึ้นแม้ในยามโหลดเต็ม, 4-Way Optimization ที่ช่วยจูนค่าโดยอัตโนมัติภายในคลิกเดียว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของมาเธอร์บอร์ด Z87 จากเอซุสทุกรุ่น รวมถึงเทคโนโลยี RAMDisk ที่ดึงแรมระบบที่เหลือถึง 80 เปอร์เซ็นต์ มาใช้เก็บข้อมูลแบบเร็วจี๋กว่า 10,000MB/s ซึ่งเร็วกว่า SATA SSD ปกติถึงกว่า 20 เท่า
พบกับผลิตภัณฑ์มาเธอร์บอร์ดชิพเซ็ต Intel® Z87 ใหม่ จากตระกูล ROG MAXIMUS VI แบบครบไลน์ทั้ง 5 รุ่น ได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายเอซุสทั่วประเทศ ดูข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ www.asus.co.th หรือพูดคุยผ่านทาง www.facebook.com/ASUS.DIY
แรงและสวยบาดใจทุกรุ่นแต่ที่เหมาะกับผมคือ Mini-ITX หรือ Micro-ATX อย่างหลังนี่ใช้เคสเดิมได้เลยประหยัดไม่ต้องซื้อเคสใหม่.