เก็บตก 3G Truemove H นี่สิ แรงของจริง

เก็บตกทดสอบสัญญาณ 3G ค่าย ทรูมูฟ-เอช น้องใหม่มาแรง ที่บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา กับการทดสอบการทำงานทั้งอัพโหลด และดาวน์โหลด พร้อมตีแผ่ทุกแพ็คเกจ และพื้นที่ให้บริการ ของ ทรูมูฟ-เอช คุ้มไม่คุ้ม น่าใช้มากน้อยแค่ไหนมีคำตอบรออยู่แล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนที่แล้วนิดนึง กับบทความที่ ได้ไปลุยทดสอบสัญญาณ 3G ของค่ายต่างๆ ทั้ง AIS, Dtac, TrueMove,และ MVNO ของ TOT ตามจุดหลักๆ ที่สำคัญของกรุงเทพ (ย้อนกลับไปดูบทความทดสอบ 3G ครั้งก่อนได้ตามลิงค์นี้ >>> www.techonmag.com/2011/09/21/พิสูจน์-3g-เมืองไทย-จะเร็ว) ซึ่งตอนนั้น เป็นช่วงที่เปิดตัวค่ายมือถือน้องใหม่อย่าง ทรูมูฟ-เอช พอดิบพอดี แต่เสียดายไม่ได้นำมาทดสอบด้วย เนื่องจากปัญหาติดปัญหาแพ็คเกจของทาง ทรูมูฟ-เอช ที่มีเฉพาะแพ็คเกจแบบรายเดือน แถมติดสัญญาค่อนข้างยาวอีก เกรงจะไม่มีตังจ่าย เลยต้องยกยอดไป แต่ตอนนี้มีให้ทดสอบกันแล้ว ทรูมูฟ-เอช ใจดีส่งมาให้ลองเล่นอยู่พักใหญ่ เลยขอจัดเดียวๆ ซักหน่อย แก้ตัวจากรอบที่แล้ว ที่ไม่ได้ร่วมทดสอบด้วย ผลจะออกมาเป็นอย่างไร เดี๋ยวรู้แน่นอน แต่ตอนนี้ไปทำความรู้จักกับ ทรูมูฟ-เอช กันเสียก่อน

รู้จัก TrueMove H

ย้อนกลับก่อนหน้านี้ช่วงปลายปีที่แล้วหากยังจำกันได้กับข่าวการซื้อกิจการของฮัทชิสัน และบริษัทในเครือ ของกลุ่มทรู ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 6,300 ล้านบาท (เฉพาะบริษัท ฮัทชิสัน ประมาณ 4,000 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการลุยเดินหน้าเปิดให้บริการ 3G ของทรูอย่างเต็มรูปแบบ โดยการตั้งบริษัทใหม่ในนามของ บริษัท เรียลมูฟ จำกัด (Real Move Co., Ltd) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด ดำเนินธุรกิจให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือภายใต้ชื่อ “ทรูมูฟ-เอช” (TrueMove H) โดยทำหน้าที่เป็น ตัวแทนจำหน่าย ส่งต่อบริการของ กสท. โทรคมนาคม แทนที่เครือข่ายฮัทซ์ ของบริษัท ฮัทจิสัน ซีเอที ไวร์เลส มัลติมีเดีย จำกัด เดิมที่ได้ซื้อกิจการไป โดย ทรูมูฟ-เอช ได้รับอนุญาตในการดำเนินการโครงข่ายโทรศัพท์มือถือระยะที่ 3 (3G) บนเครือข่ายดับเบิลยูซีดีเอ็มเอ (WCDMA) 850 เมกกะเฮิตซ์ บนช่วงความถี่ 15 เมกกะเฮิตซ์ ที่ถือว่า เป็นช่วงความถี่ที่กว้างมากที่สุดในกลุ่มผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน (รวมทรูมูฟ) โดยเครือข่าย ทรูมูฟ-เอช จะให้บริการเน้นกลุ่มลูกค้า 3G ซึ่งจะแยกตลาด การให้บริการออกจากตัว ทรูมูฟเดิม อย่างชัดเจนโดยในกลุ่มของ ทรูมูฟเดิม จะเน้นให้บริการลูกค้าในระบบ 2G เดิมเป็นหลัก

ในด้านของเทคนิคการให้บริการเครือข่าย 3G ของทรูมูฟ-เอช เป็นการให้บริการบนเครือข่ายมาตรฐานแบบ UMTS/ WCDMA โดยใช้เทคโนโลยี HSPA+ (High Speed Packet Access) ซึ่งเป็นเทคโนโลยี บรอดแบรนด์ไร้สาย ในยุค 3.9G ที่มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่สูงถึง 42 Mbps. รองรับการทำงานในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อินเทอร์เน็ต บราวซ์วิ่ง (Internet Browsing) การให้บริการเรียลไทม์ โลเคชัน (Real Time Location) บริการมัลติมีเดีย แชร์ริ่ง (Multimedia Sharing) ที่เป็นภาพเคลื่อนไหวในรูปแบบ HD (High Definition) และบริการอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็วทุกที่ทุกเวลา โดยในปัจจุบัน ทรูมูฟ-เอช ได้ปรับปรุงเสาสัญญาณของ ฮัทซ์เดอมที่เป็นระบบ CDMA ให้เป็น WCDMA ทั้งหมด รวมถึงตั้งเสาสัญญาณใหม่ ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพ กว่า 1,700 สถานีฐาน และอีก 1,300 สถานีฐานในพื้นที่ต่างจังหวัดอีก 16 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ ชลบุรี อยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร ขอนแก่น นครราชสีมา อุดรธานี เชียงใหม่ สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต นครศรีธรรมราช และ กระบี่ พร้อมทั้งยังมีบริการ Wi-Fi ความเร็วสูงสุด 8 Mbps. ตามจุดสำคัญต่างๆ ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัดกว่า 100,000 จุด ซึ่งถือเป็นอีกจุดเด่นที่สำคัญ ของค่ายนี้เลยทีเดียว

พื้นที่ให้บริการ

จากตะกี้ที่โม้เรื่องสถานีฐานไว้ซะเยอะ รวมๆ แล้วกว่า 3,000 สถานีเชียว มาดูกันสิว่าไอ้สถานีฐานที่เยอะแยะกว่า 3,000 จุดที่ว่า จะสามารถให้บริการ 3G ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ มากน้อยแค่ไหนกัน

ไม่ใกล้ไม่ไกล เริ่มต้นกันที่พื้นที่ในเขตกรุงเทพ ก่อนเลย ดูจากแถบสีส้มที่ระบายค่อนข้างแน่นทีเดียว มีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั้งในกรุงเทพ และปริมณฑล ตั้งแต่ปทุมธานี, นนทบุรี, ไปจนถึงสมุทรปราการ ทั้งหมด และยังเลยไปถึงจังหวัดรอบข้าง รวมๆ แล้วน่าจะใกล้เคียงกับพื้นที่ให้บริการของ TOT อยู่

ในโซนพื้นที่ภาคกลาง ก็มีเสาสัญญาณของ ทรูมูฟ-เอช อยู่ไม่น้อยเช่นกัน พื้นที่ให้บริการครอบคลุมจั้งหวัด อยุธยา, สระบุรี, นครปฐม, สมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, เพรชบุรี, และ และประจวบคีรีขันธ์

ในภาคเหนือทรูมูฟ-เอช มีให้บริการในเขตพื้นที่เชียงใหม่ ทับซ้อนกับทางดีแทค ซึ่งเทียบจากแผนที่แล้ว ทรูมูฟ-เอช มีพื้นที่ให้บริการมากกว่ากันอยู่เล็กน้อย

สำหรับในโซนภาคตันออกเฉียงเหนือ หรืออีสาน พื้นที่ให้บริการอาจจะกระปิดกระปอยไปหน่อย มีให้บริการเฉพาะในเขตอำเภอเมือง และอำเภอสำคัญๆ ในจังหวัดอุดรธานี, ขอนแก่น, มหาสารคาม, และนครราชสีมา

ถัดมาเป็นโซนทางด้านทิศตะวันออก ที่ครอบคลุมพื้นที่สำคัญๆ ในเขตจังหวัดชลบุรี ตั้งแต่งบางแสน, ศรีราชา, พัทยา, ยาวไปจนถึงสัตหีบ ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญทีเดียว นับว่าเข้าใจเลือกพื้นที่ให้บริการมากๆ

และภาคใต้ ที่ให้บริการในจังหวัด สุราษฏร์ธานี รวมพื้นที่เกาะสมุย และพงัน จังหวัด นครศรีธรรมราช, ภูเก็ต, กระบี่, และสงขลา ใครอยู่ในพื้นที่ให้บริการของ ทรูมูฟ-เอช ก็ไปทดสอบกันดูได้ พื้นที่ไหนบ้านใคร เร็วมากน้อยแค่ไหนกัน

เลือกแพ็คเกจให้คุ้ม

มาดูเรื่องของแพ็คเกจ ที่ให้บริการกันบ้าง สำหรับทรูมูฟ-เอช อย่างที่บอกตอนนี้ มีเฉพาะแพ็คเกจแบบรายเดือนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังไม่มีแพ็คเกจแบบเติมเงินออกมาให้ใช้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะออกแพ็คเกจแบบเติมเงินออกมาในช่วงปลายเดือนกันยา แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววจะออกมาให้ใช้แต่อย่างใด ใครที่เน้นใช้น้อย ใช้สอยประหยัดเงินที่ละ 20 บาท คงต้องรอไปก่อน ช่วงนี้เน้นลูกค้ากระเป๋าหนัก ใช้งานเยอะๆ กันก่อน

เริ่มจากแพ็คเกจสำหรับมือถือแบบสมาร์ทโฟน แพ็คเกจที่ออกมา เปรียบเทียบกับค่ายอื่นๆ ถือว่าแพงไปซักหน่อย แม้ราคาจะออกมาใกล้ๆ กันมาก แต่รายละเอียดต่างๆ ที่ให้ มาค่อนข้างจะน้อย แม้จะแถมแพ็คเกจ Wi-Fi เพิ่มมาให้ด้วย ก็ยังไม่ค่อนน่าสนใจเท่าไหร่

ต่อมาเป็นแพ็คเกจสำหรับแท็บเล็ต และแอร์การ์ด ซึ่งจะเน้นการใช้งานดาต้าล้วนๆ ไม่มีบริการด้านเสียง หรือข้อความมาเกี่ยวข้อง เริ่มจากแพ็คเกจ iPad ที่เน้นการใช้งาน Wi-Fi นอกสถานที่เป็นหลัก ที่ให้ใช้งานWi-Fi นอกสถานที่ได้แบบไม่จำกัด การใช้งาน แต่จะลดในส่วนของดาต้า 2G และ 3G ลงมาเล็กน้อย เปรียบเทียบแล้วถ้าเป็นแพ็คเกจราคาต่ำๆ ไม่ค่อยคุ้มคำนวณแล้วแพงกว่าค่าอื่นๆ เล็กน้อย ต้องใช้แพ็คเกจแบบอัลลิมิตรถึงจะสูสี

ส่วนใครที่ใช้กับแอร์การ์ด เน้นการใช้งาน 3G เป็นหลัก ทรูมูฟ-เอช มีแพ็คเกจเน็ตแรงและเน็ตคุ้ม ให้บริการ โดยต่ำสุดเป็นแบบเน็ตคุ้ม 150 บาท ใช้งานได้ 30 ชั่วโมง และ Wi-Fi 5 ชั่วโมง แต่จำกัดความเร็วที่ 1 Mbps. ก็เหมาะสำหรับคนใช้น้อย ไม่เน้นเร็ว ส่วนเน็ตแรง ก็จะคล้ายๆ กับ แพ็คเกจ iPad แต่ลดการใช้งาน Wi-Fi ลงมาเพิ่มดาต้าให้กับ 3G และ 2G แทน ก็ต้องชั่งใจกันดูว่าเราใช้งาน Wi-Fi หรือ ดาต้า 3G และ 2G อันไหนมากกว่ากัน ส่วนแพ็คเกจหลังๆ 759 และ 899 เหมือนกันเดะ ทั้งสองแพ็คเกจ เน้นการใช้งานหนักๆ โดยเฉพาะ นอกจาก 2 แพ็คเกจนี้ ทรูมูฟ-เอช เองยังมีแพ็คเกจอื่นๆ แยกย่อยลงไปอีกเช่นแพ็คเกจสำหรับ iPhone หรือแพ็คเกจเสริมต่างๆ ซึ่งถ้าจะลงทั้งหมดคงไม่ไหว ถ้าสนใจสามารถดูตารางเปรียบเทียบแพ็คเกจต่างๆ ได้จากในเว็บไซต์ www.PCtodayThailand.com ได้

การตั้งค่าการทำงาน

เอาละก่อนจะไปทดสอบกันมาดูวิธีการตั้งค่าการใช้งานอินเตอร์เน็ตของค่ายนี้กันซักหน่อย ในส่วนของการตั้งค่าการใช้งาน อุปกรณ์ส่วนใหญ่ ในปัจจุบันน่าจะสามารถดึงค่าต่างๆ ได้เองหมดแล้วนะ แค่ใส่ซิมการ์ดเปิดเครื่องขึ้นมาก็ใช้งานได้เลย แต่อาจจะมีบ้าง กับอุปกรณ์บางรุ่น บางอย่างเช่นแอร์การ์ด ที่อาจจะต้องให้ตั้งค่าเองบ้าง แต่ก็ไม่ได้ยากอะไร สามารถดูรายละเอียดวิธีการตั้งค่าอินเตอร์เน็ตและ MMS ได้จากเว็บไซต์ของทรูมูฟ-เอช https://www.truemove-h.com/helpsupport_apnsettings.aspx

ส่วนแอร์การ์ด หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่มีรายละเอียดแสดงอยู่ในเว็บ ให้ตั้งค่าตามด้านบน

วิธีการเซ็ตค่าการใช้งาน MMS ของทรูมูฟ-เอช

เทสสปรีด 3G ทั่วกรุง

มาถึงขั้นตอนทดสอบ ซึ่งครั้งนี้ก็ยังคงใช้การทดสอบรูปแบบเดิม ที่เดิมทุกอย่างเหมือนคราวที่แล้ว โดยจะยังคงใช้ iPhone4 เป็นเครื่องทดสอบ ซึ่งรอบรับได้แค่เทคโนโลยี HSPA ที่มีความเร็วในการดาวน์โหลดข้อมูลสูงสุด 7.2 Mbps และอัพโหลดสูงสุดที่ 5.76 Mbps เท่านั้น ผลคะแนนออกมาต่ำก็ไม่ต้องตกใจไป พื้นที่ทดสอบก็ยังคงเป็นจุดเดิม คือที่สยาม(บริเวณหน้าห้างมาบุญครอง), สีลม(สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง), แยกอโศก, จตุจักร(สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต), อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตำแหน่งอาจจะไม่ใช่จุดเดิมเปะ แต่ก็ใกล้เคียง และเพื่อให้ได้ผลที่เป็นปัจจุบัน จึงขอทดสอบความเร็ว อินเตอร์เน็ตของทรูมูฟ-เอช ควบคู่ไปกับของ เอไอเอส แก้ตัวจากครั้งที่แล้วที่มีปัญหาที่อโศกด้วย ส่วนค่ายอื่นๆ ใช้ผลการทดสอบเดิมจากครั้งก่อนที่เราได้เคยทดสอบไปแล้ว ผลที่ออกมาก็ได้ตามกราฟด้านล่างนี้

ตามกราฟด้านบนเป็นการทดสอบความเร็วในการดาวน์โหลดข้อมูล ด้วยแอพ SpeedTest.net ซึ่งตัวแอพจะทำการวัดความเร็วในการดาวน์โหลดออกมาเป็นหน่วย Mbps. ยิ่งค่ามากความเร็วยิ่งสูงผลก็คือทรูมูฟ-เอช สามารถทำความเร็วได้ดีในทุกๆ จุด ที่เราเข้าไปเทส อย่างต่ำๆ ก็มีแถว จตุจักรและสีลม ที่ความเร็วประมาณ 1.5 Mbps ก็ถือว่าไม่ช้า หรือที่มากสุดๆ ก็ที่สยามที่มั่นหลักของทรูมูฟ สามารถทำความเร็วได้ถึง 3.87 Mbps เลยทีเดียว

ดูต่อในส่วนของความเร็วในการอัพโหลดข้อมูล ซึ่งยังคงทดสอบด้วยแอพ SpeedTest.net เหมือนเดิม ผลที่ออกมายังทำได้ดีเช่นเดิม คามเร็ว 0.5-0.9 Mbps. ยกเว้นในบริเวณสยาม ที่ทำได้เพียง 0.31 Mbps. เท่านั้น แต่เฉลี่ยแล้วก็ยังทำได้ดีกว่าค่ายอื่นพอสมควร

ต่อไปลองดูความเร็วในการเปิดเว็บไซต์กันบ้าง โดยการจับเวลาในการเปิดเข้าชมเว็บไซต์ซึ่งจะใช้เว็บ www.PCtodayThailand.com เป็นมาตรฐาน ผลที่ออกมาเป็นวินาทีซึ่ง ยิ่งมากจะหมายคามว่ามันยิ่งช้า ต้องหาค่าที่น้อยๆเป็นหลัก ซึ่งผลที่ออกมา อยู่ในระดับกลางๆ ไม่ช้ามาก คามเร็วใกล้ๆ กับของ ดีแทค และ ทีโอที แต่จะดูกระจายๆ กว่าไม่ได้เร็วเป็นจุดๆ เหมือนสองค่ายนั้น

ปิดท้ายกับการทดสอบการอัพโหลดข้อมูล ซึ่งใช้การอัพภาพขึ้นไปไว้บนเฟสบุ๊กแล้วจับเวลาเช่นเดิม  งานนี้เห็นได้ชัดเลยว่าค่าอัพโหลดของ ทรูมูฟ-เอช ทำได้ดีทีเดียว ใช้เวลาในการอัพน้อยกว่าค่ายอื่นๆ มากดูจากกราฟ ที่เป็นวงเล็กๆ ตรงกลางเทานั้น เทียบกับทีโอทียังแพ้ ถือเป็นจุดเด่นของค่ายนี้จริงๆ

ฟันธงตอนนี้ยังเร็วไป

ผลทดสอบที่ออกมาก็อย่างที่เห็น ยอมรับเลยว่า ของเค้าดีจริง ความเร็วในการอัพโหลดและดาวน์โหลดของ ทรูมูฟ-เอช ที่ปล่อยออกมาค่อนข้างเร็วใช้ได้ทีเดียว โดยเฉพาะกับความเร็วในการอัพโหลดข้อมูล ที่เร็วกว่าค่ายอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด แบบนี้สาวๆ ที่ถ่ายรูป ชอบอัพรูปลงเฟสบุ๊ก ทั้งหลายคงจะชอบมากที่เดียว แต่อย่างที่บอกด้วยความที่ทรูมูฟ-เอช เป็นน้องใหม่ ที่เรียกว่าใหม่สดๆ ซิงๆ จะให้ฟันธงเป็นแชมป์สปีดเทส ตอนนี้คงจะยังไม่ได้ เพราะในปัจจุบันนี้ทรูมูฟ-เอช มีฐานลูกค้าที่ใช้ 3G อยู่แค่ราวๆ 200,000 รายเท่านั้น ยังไม่ได้มีการโอนถ่ายฐานลูกค้าเดิมจากทาง ทรูมูฟ ซึ่งคาดว่ามีลูกค้าที่ใช้ 3G อยู่ประมาณ 400,000 เบอร์ รวมถึงลูกค้าจาก ฮัทจิสัน ทั้งเติมเงิน และรายเดือนอีกกว่า 600,000 เบอร์ ซึ่งตามขาวมีแผนจะถ่ายโอนมายังระบบทรูมูฟ-เอช ช่วงเดือนธันวาคมนี้ ทำให้ยอดผู้ใช้งานพุ่งสูงขึ้นอีกกว่า 1,000,000 เบอร์ ถือเป็นศึกหนักที่สามารถทดสอบระบบของ ทรูมูฟ-เอชได้เป็นอย่างดี  ถึงวันนั้นถ้าระบบของทรูมูฟ-เอช จะยังคงสามารถทำงานได้ดีเหมือนตอนนี้ละก็คงต้องขอคารวะ  ยกตำแหน่งแชมป์ไปให้เลย