สำหรับปี 2023 เป็นต้นไปนี้ เราจะเห็นรถพลังงานไฮโดรเจนเปิดตัวมากขึ้น ดูเหมือนทุกค่ายจะซุ่มทำรถไฮโดรเจนของตัวเอง แล้วเหมือนจะนัดกันเปิดตัวในปีนี้พร้อมๆ กัน
โพสต์นี้มีอะไรบ้าง
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักและเปรียบเทียบระหว่าง รถไฮโดรเจนและอีวี ข้อดี ข้อเสีย ของเทคโนโลยีทั้ง 2 ตัวนี้
รถพลังงานไฮโดรเจนคืออะไร
Hydrogen motor ก็ตามชื่อเลยครับ คือการเอา Hydrogen มาใช้เป็นพลังงานในการสร้างกระแสไฟฟ้าเพื่อเอาไปปั่นมอเตอร์อีกที ไฮโดรเจนตามธรรมชาติที่หาได้ง่ายและมากที่สุดคือ น้ำ (H2O) ดังนั้น ถ้าจะบอกว่า รถใช้พลังงานน้ำ ก็ไม่ผิดนัก
ส่วนประกอบหลักของรถไฮโดรเจน
- Fuel Cell Stack – เปรียบเทียบกับรถน้ำมันก็คือเครื่องยนต์หลัก โดยเซลล์สแต็กนี้ทำหน้าที่รวมออกซิเจนเข้ากับไฮโดรเจน เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้า
- Fuel Tank – เทียบกับได้ถังเก็บน้ำมัน ถังนี้ทำด้วยวัสดุคาร์บอน-ไฟเบอร์ แข็งแรงและมีน้ำหนักเบา เอาไว้เก็บไฮโดรเจน เพื่อป้อนให้กับเซลล์สแต็กในข้อ 1
- Electric Motor – มอเตอร์ไฟฟ้า
- Battery – แบตเตอรี่เก็บไฟฟ้า
- Exhaust – เทียบได้กับท่อไอเสีย แต่ในกรณีของรถไฮโดรเจน สิ่งที่ปล่อยออกมาคือไอน้ำ
ข้อดีของรถที่ใช้ไฮโดรเจน
- มันเป็นพลังงานสะอาดแบบ 100% ทั้งต้นทางและปลายทาง (ต้นทางคือน้ำ ปลายทางคือการปล่อยของเสีย ซึ่งก็คือน้ำอีก)
- ใช้เวลาเติมเร็ว เท่าๆ กับเติมน้ำมันปกติตามปั๊ม
- ประสิทธิภาพดี วิ่งได้ไกล
- น่าจะประหยัดกว่าน้ำมันแน่ๆ แต่ยังไม่มีใครทดสอบเทียบกับ EV ว่าใครประหยัดกว่า
ข้อเสียของรถที่ใช้ไฮโดรเจน
ตอนนี้ คิดได้อย่างเดียวคือ ยังไม่แมส และรุ่นแรกๆ น่าจะยังมีราคาแพงอยู่
เปรียบเทียบกับรถอีวี
รถอีวีใช้พลังงานไฟฟ้าล้วน 100% เช่นเดียวกัน แต่ความต่างคือ ต้นกำเนิดของไฟฟ้าส่วนใหญ่เรายังคงต้องอาศัยน้ำมันและถ่านหินในการสร้างกระแสไฟฟ้าส่งไปตามสถานี ดังนั้นจริงๆ แล้ว มันก็ยังคงไม่ใช่พลังงานสะอาดเต็มร้อยเท่าไรนัก จุดด้อยอีกอย่างคือแบตเตอรี่ ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีแบตเตอรี่ยังพัฒนาไม่ค่อยทันใช้เท่าไร แถมยังมีราคาแพงด้วย และสุดท้ายที่หลายๆ คนเริ่มบ่นให้เห็นแล้วก็คือ ระยะเวลาการชาร์จไฟ ที่อย่างต่ำก็ต้องมี 30 นาทีขึ้นไป
4 รถแบรนด์ดังพลังงานไฮโดรเจน ในปี 2023
Toyota Mirei
ที่ผ่านมาโตโยต้าออกตัวมาตลอดว่า ไม่สนรถ EV และมุ่งหน้าพัฒนารถไฮโดรเจนเป็นหลัก และตอนนี้ที่เห็นเป็นรูปธรรมที่สุดก็คือ Mirai นี่แหละครับ
ปัจจุบัน Mirai ก้าวเข้าสู่ 2nd Gen แล้ว แล้วอยู่ในสายการผลิตแบบ Mass production เป็นที่เรียบร้อย Mirai เป็นรถที่ใช้ระบบไฮโดรเจน 100% ให้กำลังไฟฟ้าสูงสุดที่ 128 kW มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 182 แรงม้า สามารถเร่งจาก 0-100 km/h ภายใน 9 วินาที
Mirai รุ่น 2nd Gen นี้ ติดตั้งถังไฮโดรเจนทั้งหมด 3 ถัง ใช้เวลาเติมเต็มทุกถังไม่เกิน 5 นาที และโตโยต้าเคลมว่า เมื่อเติมไฮโดรเจนเต็มถัง สามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กม. เลยทีเดียว
BMW iX5
BMW iX5 ใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่พัฒนาร่วมกับโตโยต้า โดยสามารถให้พลังงานไฟฟ้าสูงสุดที่ 125 kW ขับเคลื่อนมอเตอร์ระบบ eDrive Gen 5 ของทางบีเอ็มดับบลิว ให้แรงม้าสูงสุดที่ 395 แรงม้า (295 kW) อัตราเร่ง 0-100 km/h น้อยกว่า 6 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุดที่ 180 km/h
BMW iX5 มีถังเก็บไฮโดรเจน 2 ถัง อยู่ตรงบริเวณกลางรถและใต้เบาะนั่งหลัง เติมเต็มทั้ง 2 ถังใช้เวลาประมาณ 4 นาที วิ่งได้ไกล 504 กม.
Honda CR-V FCEV
Honda CR-V FCEV หรือ New Honda CR-V 6th Gen ของทางฮอนด้า ผลิตมาเป็นรถไฮบริด คือ ใช้ไฮโดรเจนก็ได้ เสียบปลั๊กชาร์จไฟแบบ EV ก็ได้ (แต่หลักๆ คือไฮโดรเจน)
ระบบเครื่องยนต์ไฮโดรเจนที่พัฒนาร่วมกับ GM นี้ ให้พลังไฟฟ้าสูงสุดที่ 80 kW หรือ 107 แรงม้า กำลังน้อย เพราะระบบเซลล์สแต็กที่ใช้ขนาดเล็กเพียง 835 x 605 x 660 มม. เท่านั้น เหตุผลก็เพราะต้องการให้รถรุ่นนี้มีราคาที่สามารถจับต้องได้ (ลดต้นทุนนั่นแหละ)
Hyundai Nexo
อีกหนึ่งค่ายรถที่น่าจับตา ฮุนไดซุ่มทำรถไฮโดรเจนหลายรุ่น และนี่คือรุ่นที่คาดว่าจะพร้อมขายภายในปี 2024 นี้เป็นรุ่นแรก โดยที่ตั้งเป้าขายไว้ถึง 1 แสนคันภายในกลางปีหน้านี้เลย
จากข่าว ฮุนไดเคลมว่า Nexo สามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กม. เลยทีเดียว จากระบบ Nexo 2nd gen fuel cell stack ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้นในราคาที่ถูกลง ระบบรุ่นที่สองนี้ สามารถผลิตกำลังไฟฟ้าได้สูงถึง 200 kW (268 แรงม้า)
reference :
https://topelectricsuv.com/featured/upcoming-hydrogen-fcev-cars/
https://www.hydrogenfuelnews.com/hydrogen-fuel-cars-10/8557113/
https://www.91wheels.com/news/hydrogen-fuel-cell-cars-auto-expo