มีการคาดกันว่าตลาดอีคอมเมิร์ซ ในประเทศไทยนั้น จะมีการเติบโตจาก 3.8 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2559 ซึ่งมีมูลค่าปัจจุบันอยู่ที่ 2.1 ล้านล้านบาท (58.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) [1] เป็น 15 เปอร์เซ็นต์ ของตลาดรีเทลทั้งหมดของประเทศภายในปี 2567 ซึ่งถือว่าสร้างโอกาสทางธุรกิจอันมหาศาลให้กับธุรกิจ SME ไทยซึ่งมีมากถึง 98.5 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนธุรกิจทั้งหมด การที่ผู้ประกอบการ SME เหล่านี้จะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องอาศัยแพลตฟอร์มที่มีความปลอดภัยสูง ได้รับการรับรอง รวมถึงมีความล้ำสมัย พร้อมรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอนาคต ซึ่งมิสเตอร์ฮงชอล จอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อีเลฟเว่นสตรีท แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศเกาหลีใต้ บอกกับเราว่า อีเลฟเว่นสตรีท นั้นมีทุกอย่างที่กล่าวมา
อีเลฟเว่นสตรีทเปิดตัวที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อปี 2551 และก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำของโลก โดยมีผู้ขายกว่า 4 แสนราย และผู้ซื้อกว่า 30 ล้านรายทั่วโลก และเพื่อฉลองการเปิดตัวในประเทศไทย นอกเหนือจากข้อเสนอพิเศษ อาทิ “อีเลฟเว่นสตรีท แคมปัส” ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ เพื่อเปิดให้ผู้ขายชาวไทยได้เข้าไปใช้บริการอัน ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสตูดิโอถ่ายภาพ ไปจนถึงช่องทางพบปะผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ จากภายนอกเพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้กับผู้ขายชาวไทย บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเปิด อีเลฟเว่นสตรีท แคมปัส อีก 2 แห่งภายในปลายปีนี้ อีเลฟเว่น สตรีท จึงขอนำเสนอเกร็ดน่ารู้ดีๆ เพื่อให้ผู้ขายชาวไทยได้ใช้ประโยชน์จากลูกเล่นใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีใครนำเสนอมาก่อน
คิดแบบคนใช้มือถือ
ประเทศไทยมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนกว่า 20 ล้านคนในปี 2559[2] และการทำธุรกรรมซื้อขายออนไลน์ถึงกว่า 11 ล้านครั้งในช่วง 12-18 เดือนที่ผ่านมา[3]เกิดขึ้นบนจอมือถือ ดังนั้นเพื่อเข้าถึง “นักช้อปมือถือ” ร้านค้าต้องให้พวกเขาเข้าถึงหน้าร้านได้จากทุกอุปกรณ์ ไม่ใช่แค่จอคอมพิวเตอร์เท่านั้น ลูกค้าที่ซื้อของออนไลน์มักจะบ่นว่าหน้าร้านที่ไม่ได้ออกแบบเพื่อรองรับสมาร์ทโฟนนั้นน่าเบื่อมาก ทั้งปุ่มเล็ก บางทีคลิกก็ไม่ได้ แถมการกรอกข้อมูลโดยต้องมานั่งขยายหน้าจอไปมาก็เป็นเรื่องลำบากสุดๆ
เพื่อเป็นการแก้ปัญหานี้ อีเลฟเว่นสตรีท จึงออกแบบให้เว็บไซต์ให้สามารถใช้งานบนมือถือได้ รวมถึงมีแอพพลิเคชั่นต่างหาก เพื่อให้สามารถเข้าใช้งานได้ง่ายจากทุกหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขาย
“แอพพลิเคชั่นสำหรับมือถือของเราจะเขย่าวงการร้านค้าออนไลน์ด้วยความง่ายของระบบการค้นหาสินค้าในทุกหน้าจออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และผู้ขายยังสามารถล็อคอินเข้าไปสู่ “โมบายล์ออฟฟิศสำหรับผู้ขาย” เพื่อเพิ่มสินค้าได้ง่ายขึ้นด้วย โดยอีเลฟเว่นสตรีทจะทำการปรับการแสดงผลให้เหมาะสมตามหน้าจอที่ใช้งานใน เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าทุกรายการได้รับการบันทึกและแสดงผลอย่างสัมพันธ์กัน” มิสเตอร์ซังฮยอน คิม รองประธาน ฝ่ายแพลตฟอร์มของอีเลฟเว่นสตรีท กล่าวเพิ่มเติม
ใช้ตัวช่วยทางเทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์
ถ้าคุณไม่รู้จักตามเทคโนโลยีให้ทันละก็ อาจจะลงเอยเหมือนคุณลุงคนดังที่คิดว่าไอแพดคือเขียงนั่นเอง เดี๋ยวนี้ไม่ว่าใครก็สามารถเปิดหน้าร้านออนไลน์ได้ ทั้งๆ ที่นั่งอยู่ในห้องนอน เรารู้ว่าหลายคนเปิดหน้าร้านขายของสุดเก๋ ล้ำสมัย แต่ว่าความเข้าใจในเทคโนโลยีหลังบ้านของหลายคนนั้นมีไม่เท่ากัน เราจึงพร้อมยื่นมือเข้าช่วยเหลือ
อีเลฟเว่นสตรีท มีทั้งช่องบน YouTube อย่างเป็นทางการ ซึ่งเพียบพร้อมไปด้วย วิดีโอสอนเกร็ดความรู้ต่างๆ ให้กับผู้ขาย รวมถึง “อีเลฟเว่นสตรีท แคมปัส” แห่งแรก ภายในสำนักงานประเทศไทย ที่ภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ ที่จะคอยต้อนรับผู้ขายชาวไทยให้เข้าไปใช้บริการต่างๆ ไม่ว่าใครที่ขายของบน อีเลฟเว่นสตรีท ก็สามารถแวะเวียนเข้ามาเรียนรู้และใช้บริการต่างๆ เพื่อทำให้สินค้าน่าดึงดูดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สตูดิโอถ่ายภาพ บริการไว-ไฟโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พนักงานที่คอยให้ความช่วยเหลือเมื่อมีข้อสงสัย นอกจากนี้ อีเลฟเว่นสตรีทจะเชิญผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมาให้ความรู้แก่ผู้ขาย ไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด การเงิน และอื่นๆ รวมถึงการจัดฝึกอบรมให้แก่ผู้ขายรายใหม่เกี่ยวกับการสร้างคอนเทนต์ให้กับสินค้า การจัดทำบัญชี ไปจนถึงการจัดส่ง โดยอีเลฟเว่นสตรีทวางแผนที่จะเปิด “อีเลฟเว่น สตรีท แคมปัส” อีกสองแห่งภายในปีนี้ เพื่อมอบบริการและการสนับสนุนผู้ขายแบบที่ไม่เคยมีใครนำเสนอมาก่อนในประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือผู้ขายในทุกขั้นตอน และผู้ขายบนอีเลฟเว่นสตรีทจะได้รับเชิญเพื่อเข้าร่วมอีเว้นท์เกี่ยวกับการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่บริษัทจัดขึ้นทุกครั้ง เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ขายได้ทำความรู้จักกัน รวมถึงเป็นการเพิ่มพูนความรู้ในการขายของออนไลน์ด้วย
จ่ายอย่างปลอดภัย
ข้อมูลสำรวจจาก Avira[4] เผยว่ามีผู้บริโภคถึง 20 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่ยอมซื้อของออนไลน์เพราะว่ากลัวเรื่องความปลอดภัย และสำหรับกลุ่มคนที่ซื้อของออนไลน์นั้น ก็มีถึง 30 เปอร์เซ็นต์ที่มีความกังวล และ 22 เปอร์เซ็นต์ของคนซื้อของออนไลน์ก็จะเลือกช้อปกับเฉพาะเว็บอีคอมเมิร์ซซึ่งรู้จักดีเท่านั้น อีเลฟเว่นสตรีทกล่าวว่า ลูกค้ามักจะไม่มั่นใจในการช้อปออนไลน์เพราะรู้สึกว่าระบบยังขาดความปลอดภัย เราจึงมุ่งที่จะเป็นผู้นำในเรื่องนี้
มิสเตอร์ฮงชอล จอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารอีเลฟเว่นสตรีท กล่าวเพิ่มเติมว่า “อีเลฟเว่นสตรีท พยายามลดความกังวลของนักช้อปออนไลน์ในแง่มุมต่างๆ โดยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาสร้างความอุ่นใจให้มากขึ้น เรามีการใช้ระบบ ESCROW ซึ่งเป็นระบบที่จะทำการกันเงินของผู้ซื้อเอาไว้ในระบบเมื่อมีการซื้อสินค้า แต่จะยังไม่ส่งต่อให้ผู้ขายจนกว่าสินค้าจะถูกส่งจนถึงปลายทางแล้ว จึงเป็นการช่วยลดการโดนหลอกลวงได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ อีเลฟเว่น สตรีทยังมีมาตรการในการจัดการกับผู้ขายที่ไม่ส่งของตามสัญญาอย่างจริงจังด้วย”
อีเลฟเว่นสตรีท เป็นแพลตฟอร์มที่ได้ดำเนินธุรกิจตามมาตรฐาน Payment Card Industry Data Security Standard (PCI DSS) และมีระบบรักษาความปลอดภัยเป็นของตนเอง ซึ่งเว็บไซต์ที่ดำเนินตามมาตรฐานนี้ รวมถึงอีเลฟเว่นสตรีท จะได้รับการตรวจสอบธุรกรรมซื้อขายระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงตลอดเวลา
รีวิวจากลูกค้า คือสิ่งสำคัญ
รู้หรือไม่ว่า 88 เปอร์เซ็นต์ของนักช้อปออนไลน์จะตัดสินคุณภาพของสินค้าและบริการจากการอ่านรีวิว และ 9 ใน 10 คน กล่าวว่ารีวิวออนไลน์นั้นสำคัญต่อการตัดสินใจเทียบเท่ากับคำแนะนำที่ได้รับจากเพื่อนหรือคนรู้จักเลยทีเดียว[5] นั่นก็หมายความว่า หากต้องการสร้างยอดขายให้ได้สูงๆ ก็ต้องอาศัยรีวิวนั่นเอง คุณต้องหมั่นที่จะขอให้ลูกค้าของคุณรีวิวสินค้าที่ซื้อไป และตรวจสอบอยู่เสมอเพื่อที่จะรู้ได้ว่าจุดเด่น หรือจุดด้อยของสินค้าของคุณอยู่ที่ไหน
อีเลฟเว่นสตรีทรู้ดีว่ารีวิวเป็นสิ่งสำคัญขนาดไหน ดังนั้นทุกหน้าของสินค้าจะมีทั้งรีวิวผู้ขายและสินค้าเพื่อให้เห็นว่าลูกค้ามีคอมเม้นต์อย่างไรบ้าง รวมถึงคำถามคำตอบ และข้อมูลเกี่ยวกับการคืนหรือเปลี่ยนสินค้าให้เห็นด้วย นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญจากอีเลฟเว่นสตรีท ยังบอกด้วยว่ารีวิวที่มีการอัพเดทอยู่เสมอจะเป็นตัวบ่งบอกความเป็นมืออาชีพของผู้ขาย รวมถึงเป็นการสร้างความอุ่นใจให้กับนักช้อปมือใหม่ด้วย
ต้องสวยถึงชนะ
รู้หรือไม่ว่า มีนักช้อปออนไลน์ถึง 56 เปอร์เซ็นต์ที่ตัดสินใจไม่เลือกซื้อสินค้า เพราะข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่ไม่เพียงพอ ไม่มีรูปภาพสินค้า รวมถึงหน้าตาของเว็บไซต์ สำหรับนักช้อปออนไลน์แล้ว การตัดสินใจว่าเขาชอบสินค้านั้นๆ หรือไม่ เกิดขึ้นช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาที (50 มิลลิวินาที) [6]เท่านั้น ดังนั้น อีเลฟเว่นสตรีท ขอแนะนำว่าควรจะให้ข้อมูลที่เพียงพอ ประกอบกับรูปถ่ายที่สวยงามของสินค้าเพื่อดึงดูดยอดขาย
ด้วยหน้าร้านที่ดูสวยงาม เรียบง่าย ทันสมัยของอีเลฟเว่นสตรีท ผู้ขายสามารถโชว์ภาพสินค้าทุกประเภทอย่างโดดเด่น คนเราจะจำภาพที่เคยเห็นได้ 80 เปอร์เซ็นต์ แต่จะสามารถจำสิ่งที่อ่านได้เพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นรูปภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับหน้าร้านออนไลน์ และเพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ขาย ทางอีเลฟเว่นสตรีทได้จัดทำหลักสูตรเพื่อสอนวิธีการถ่ายภาพให้ได้มุมดีที่สุด รวมถึงมีสตูดิโอถ่ายภาพ และเจ้าหน้าที่คอยบริการให้คำแนะนำให้กับผู้ขายด้วย ที่สำคัญ อีเลฟเว่นสตรีทยังมีฟังก์ชั่นภาพถ่ายแบบ 360 องศาพร้อมข้อมูลที่ครบครันของสินค้าเพื่อยกระดับประสบการณ์การเลือกซื้อของออนไลน์ให้แก่นักช้อปในไทย