งาน Mobile World Congress เป็นหนึ่งในงานประชุมและแสดงผลิตภัณฑ์โมบายล์ที่ใหญ่ที่สุด งาน MWC 2014 นี้ก็ยังคงจัดที่เมืองบาเซโลน่าประเทศสเปนเช่นเคย และก็เหมือนเช่นทุกๆ ปีคือจะมีอุปกรณ์ใหม่ๆ มากหน้าหลายมามาเปิดและโชว์ตัว แต่ PCToday ขอคัดเอาแต่มือถือที่คิดว่าน่าสนใจ 10 รุ่นมาให้แฟนๆ ได้ชมกัน จะมีรุ่นไหนยี่ห้อไหนบ้าง ไปชมกันเลยครับ
1. YotaPhone 2
Yota เป็นทั้งผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือและบริษัทผลิตมือถือสัญชาติรัสเซีย มีชื่อเสียงพอตัวในเรื่อง Innovation ตัวอย่างก็เช่น Yota เป็นเจ้าแรกที่เปิดให้บริการ WiMAX ในรัสเซีย เมื่อช่วงปลายปี 2012 Yota ก็ได้เปิดตัวอุปกรณ์ YotaPhone ซึ่งเป็นโทรศัพท์มือถือขนาดหน้าจอ 4.3 นิ้ว มี 2 จอ (LCD+E Ink)
ในงาน MWC 2014 Yota ก็ได้เปิดตัว YotaPhone รุ่นใหม่ซึ่งจริงๆ เค้าก็ใช้ชื่อ YotaPhone เหมือนเดิมแต่เราเรียกว่า YotaPhone 2 เพื่อให้จำแนกได้ง่ายขึ้น YotaPhone รุ่นแรกนั้น Yota ทำมาเพื่อหยั่งเชิงตลาดก่อน เมื่อเห็นว่ากระแสตอบรับดีเลยออกเจ้า YotaPhone 2 มาเพื่อขายเป็นจริงเป็นจัง เห็นได้จากดีไซน์ที่ปรับปรุงให้บางลงเหลือ 8.9มม. หน้าจอหลักเปลี่ยนมาใช้จอ AMOLED ขนาด 5 นิ้ว (1080p) หน้าจอ E Ink นั้นก็เพิ่มขนาดเป็น 4.7 นิ้ว (540p) และรองรับระบบสัมผัสแล้ว
SoC นั้นใช้ Qualcomm Snapdragon 800 (Quad-core) แรม 3GB พื้นที่ 32GB กล้องหลัก 8MP หน้า 2MP แบตเตอรี่ 2550mAh มาพร้อม Android 4.4 จุดขายของ YotaPhone 2 อยู่ที่หน้าจอ E Ink ซึ่งสามารถใช้อ่าน Notification และ Text ต่างๆ ได้โดยไม่เปลืองแบตฯ ราคาขายนั้นตั้งไว้ระดับ Premium คาดว่าจะอยู่ราวๆ 2 หมื่นกว่าบาทครับ
2. LG G Pro 2
นี่เป็นหนึ่งในมือถือที่ได้รับความสนใจมากๆ ในงาน MWC 2014 และดูเหมือนที่บ้านเราก็สนใจไม่แพ้กันเลย LG G Pro 2 นั้นจัดอยู่ในกลุ่ม Phablet ด้วยขนาดหน้าจอ 5.9 นิ้ว ดูจากชื่อแล้วหลายคนคงพอเดาได้ว่ามันเป็นลูกผสมระหว่าง LG G2 กับ Optimus G Pro ซึ่งอาจแปลว่าได้ว่าเป็นการเอาส่วนดีๆ มารวมกัน
ไล่ตั้งแต่หน้าจอความละเอียด 1080p เป็นจอ IPS มาพร้อม Gorilla Glass 3 SoC ที่ใช้คือ Qualcomm Snapdragon 800 แรม 3GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 16/32GB สามารถเพิ่ม MicroSD ได้ถึง 64GB ในด้านการสื่อสาร LG G Pro 2 รองรับ LTE Cat4 (Down 150Mbps/Up 50Mbps), Wireless-AC Dual-band, NFC, Infrared กล้องหลัก 13MP หน้า 2.1MP แบตเตอรี่ 3,200mAh มาพร้อม Android 4.4.2
LG G Pro 2 นอกจากจะจัดหนักฮาร์ดแวร์แล้วด้านซอพแวร์ก็ไม่แพ้กัน ฟีเจอร์เด่นที่นำมาเลยคือกล้องหลังซึ่งนอกจากจะใช้เทคโนโลยี Optical Image Stabilization (OIS) ป้องกันการสั่นไหวแล้วยังถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 4K ได้อีกด้วย LG ยังมีโหมดถ่ายแบบ Slow-motion ให้เลือกความเร็วถึง 3 ระดับ ฟีเจอร์ Magic Focus ก็ช่วยให้การถ่ายรูปแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอื่นๆ อีก เช่น Knock On (ปลดล็อกหน้าจอโดยแตะที่หน้าจอ 2-8 ครั้ง) Mini View (ช่วยให้ใช้งานมือเดียวได้ง่ายขึ้น) สมแล้วที่ LG ได้รางวัลยอดเยี่ยมด้านนวัตกรรมจากงาน MWC 2014
3. Sony Xperia Z2
เห็นนวัตกรรมไปแล้วคราวนี้มาดูอารยธรรมกันบ้าง Xperia Z2 นั้นจะมาเป็นมือถือตัวท็อบรุ่นใหม่ของ Sony ไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน (ซึ่งหลังจากนั้นคาดว่าจะมี Flagship ตัวใหม่มาแทน) เมื่อเทียบกับ Z1 แล้ว Z2 จะใหญ่กว่าเล็กน้อยด้วยขนาดหน้าจอ IPS 5.2 นิ้วความละเอียด 1080p (ใช้ Gorilla Glass รึเปล่ายังไม่คอนเฟิร์มนะครับ) รูปร่างภายนอกก็ยังสวยสมชื่อ Sony ด้วยความบางเพียง 8.2มม. และกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP58
Xperia Z2 นั้นใช้ SoC รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Qualcomm Snapdragon 801 มาพร้อมแรม 3GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 16GB เพิ่ม MicroSD ได้ถึง 64GB รองรับ LTE Cat4, Wireless-AC และ NFC กล้องนั้นยังเป็นจุดเด่นของ Sony เช่นเคยด้วยกล้องหลัก 20.7MP หน้า 2.2MP แบตเตอรี่ 3,200mAh Android 4.4.2 หน้าจอของ Z2 นั้นดีกว่า Z1 อย่างเห็นได้ชัดเพราะใช้จอ IPS ฟีเจอร์กล้องของ Sony จัดเต็มเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็น Image Stabilization, TimeShift Video (ถ่าย Slow-mo), Defocus (ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ)
Z2 นั้นรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 4K ด้วย Sony ยังแอบยืมฟีเจอร์จากยี่ห้อมาใช้ด้วย เช่น Smart Backlight Control ซึ่งคล้ายกับ Smart Stay ของ Samsung และ Tap to wake up ซึ่งคล้ายกับ Knock On ของ LG นอกจากนี้ Sony ยังใส่ฟีเจอร์เจ๋งๆ อย่างระบบตัดเสียงรบกวนซึ่งมีโหมดเช่น Office และ Train ให้เลือก สาวก Sony อาจต้องคิดหนักหน่อยเพราะ Z2 นั้นมีอะไรหลายอย่างคล้าย Z1 และเดี๋ยวครึ่งปีหลังก็จะมีตัวท็อบรุ่นใหม่มาแทนอีก แต่ ณ จุดนี้ถ้าจะมีมือถือรุ่นไหนเบียดกับ Galaxy S5 ได้สนุกก็ Z2 เนี่ยแหละครับ
4. Huawei Ascend G6
เมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว Huawei เปิดตัว Ascend P6 ซึ่งเป็นโทรศํพท์ที่บางที่สุดในโลก (6.2มม.) มาในงาน MWC 2014 นี้ Huawei ข้ามห้วยมาเปิดตัวรุ่น G6 ซึ่งถือเป็นมือถือระดับกลางค่อนไปทางล่างที่ได้อิทธิพลจาก P6 ที่เป็น มือถือระดับ High-end มาไม่น้อย แต่ก็ต้องมีการลดสเปกหลายๆ อย่างลงไป G6 นั้นหนา 7.9มม. แม้จะหนากว่า P6 แต่ก็ถือว่าบางใช่ย่อยสำหรับมือถือระดับนี้ บอดี้นั้นก็เปลี่ยนจากโลหะมาเป็นพลาสติก
หน้าจอ IPS มีขนาด 4.5 นิ้วความละเอียด 540p รุ่น 4G นั้นใช้ SoC Qualcomm Snapdragon 400 ส่วนรุ่น 3G นั้นใช้ SoC K3V2E ของ Huawei เอง (เป็น Quad-core ทั้งคู่) แรม 1GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 4/8GB เพิ่ม MicroSD ได้ถึง 32GB รองรับ Wireless-N รุ่น 4G นั้นรองรับ Cat4 กล้องหลักความละเอียด 8MP กล้องหน้า 5MP แบตเตอรี่ความจุ 2,000mAh มาพร้อม Android 4.3
จุดขายของ Ascend G6 นั้นอยู่ที่ราคาซึ่งตั้งไว้ที่ประมาณ 1 หมื่นบาท แต่รองรับ 4G LTE Cat4 ซึ่งเป็นจุดที่เหนือกว่าคู่แข่งระดับเดียวกันอย่าง Moto G และ Xperia M2 นอกจากนี้ G6 มีกล้องหน้า 5MP ซึ่งชัดเจนว่าเอาไว้ตอบสนองลูกค้ากลุ่มที่นิยมถ่าย Selfie (น่าเอาไปให้ DeGeneres ใช้จะได้ถ่ายออกมาสวยซะที) เมื่อรวมกับการเชื่อมต่อระดับ LTE แล้วทำให้ Ascend G6 เป็นมือถือที่เหมาะมากสำหรับคนชอบถ่าย Selfie แล้วอัพขึ้น Social media
5. Samsung Galaxy S5
ก่อนที่ S5 จะเปิดตัวออกนี่มีทั้งข่าวลือ ภาพหลุดต่างๆ นานา…ทำให้การรอคอยมันช่างน่าตื่นเต้น แต่เมื่อเปิดตัวมาจริงๆ แล้วหลายคนรู้สึกผิดหวังไม่น้อย เพราะหลายอย่างไม่เป็นไปดังหวัง เช่น บอดี้ไม่ใช่โลหะ ความละเอียดไม่ใช่ 2K UI ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากมาย แต่โดยรวมแล้ว S5 ก็ยังเป็นมือถือระดับ High-end ที่ฟีเจอร์แน่นไม่แพ้ใครอยู่ดี หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.1 นิ้วความละเอียด 1080p ใช้ Gorilla Glass 3 แถมยังกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67 (ไม่ต้องรอเวอร์ชั่น Active แล้ว)
เวอร์ชั่นที่เปิดตัวในงานนั้นใช้ SoC Qualcomm Snapdragon 801 (805 มาไม่ทัน) แต่ก็จะมีรุ่นที่ใช้ SoC Exynos (Octa-core) ด้วย แรม 2GB พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 16/32GB เพิ่ม MicroSD ได้ถึง 128GB รองรับ LTE Cat4, Wireless-AC Dual-band, NFC, Infrared พอร์ต MicroUSB นั้นเป็นแบบ 3.0 รองรับ MHL 2 และ USB OTG กล้องหลักความละเอียด 16MP หน้า 2MP รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K แบตเตอรี่ความจุ 2,800mAh Android 4.4.2 ลูกเล่นพิเศษคือมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home และเซนเซอร์วัดการเต้นของหัวใจใกล้กับแฟลช LED
เรื่องกล้องและการเชื่อมต่อนั้นถือว่าดีขึ้นจาก S4 ไม่น้อย ไม่ใช่แค่เพราะคมขึ้นเพราะจำนวนพิกเซลมากขึ้นแต่ยังไวขึ้น (จับโฟกัสใน 0.3 วินาที) และยังมีฟีเจอร์การถ่ายเต็มเอี๊ยด (Real-time HDR, Seletice Focus ฯลฯ) แต่ไฮไลท์จริงๆ ของ Galaxy S5 อยู่ที่ฟีเจอร์ด้านสุขภาพอย่าง S Health ซึ่งใช้ประโยชน์จากเซนเซอร์ที่กล่าวไปและสามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ Galaxy Gear เป็นการปูทางสู่ธุรกิจ Wearable tech ต่อไป นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษจาก Galaxy Gift มูลค่ากว่า 15,000 บาทให้สำหรับผู้ใช้ S5 ทุกคนอีกด้วย
ชอบ HTC ครับ สวยดี